วานนี้ (12 ม.ค.) นายเสริมเกียรติ วรดิษฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีกล่าวโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้องหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าขณะนี้สำนวนคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกล่าวหาว่ากล่าวข้อความหมิ่นสถาบันกษัตริย์นั้น พนักงานสอบสวนส่งสำนวนพยานหลักฐานพร้อมความเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมื่ออัยการพิจารณาแล้วเห็นว่ารายละเอียดสำนวนคดียังบกพร่อง พยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ ดังนั้น คณะทำงานอัยการ ซึ่งมีตนเป็นประธานฯ จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น โดยเฉพาะหลักฐานการถอดเทปคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กล่าวผ่านสื่อมวลชน เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ได้ถอดเทปคำพูดเป็นลายลักษณ์อักษร เพียงแต่ส่งเทปสัมภาษณ์และคำให้การของพยานบุคคลส่งมาเท่านั้น
นายเสริมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานอัยการยังไม่สามารถกำหนดวันนัดสั่งคดีได้ เนื่องจากต้องรอให้พนักงานสอบสวนส่งประเด็นสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนเสียก่อน หากชั้นพิจารณาสั่งคดีอัยการมีความเห็นสั่งให้ฟ้อง พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายเรียกติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศมาแจ้งข้อหาและสอบคำให้การในฐานะผู้ต้องหาตามกฎหมาย เนื่องจากคดีนี้พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนโดยที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหามาสอบคำให้การในชั้นสอบสวน
?นอกจากนี้ ตามขั้นตอนการสั่งคดี ถ้าอัยการมีคำสั่งฟ้องซึ่งเป็นความเห็นแย้งกับความเห็นของพนักงานสอบสวนแล้ว อัยการจะต้องส่งความเห็นให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พิจารณาเพื่อทำความเห็นอีกครั้ง ว่าจะมีความเห็นพ้องกับอัยการหรือไม่ หาก ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งยืนยันสมควรสั่งไม่ฟ้อง ก็ต้องส่งความเห็นให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดลำดับสุดท้าย? อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์