เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 8 ม.ค. พ.ต.ท.อร่าม พุฒชาลี สารวัตรเวร สภ.อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ เลขที่ 260 หมู่ 1 ต.นาโพธิ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ตะวัน เทียมพลกรัง ผกก. พ.ต.ท.ปรีชา อรัญญิก รอง ผกก.(ป.) และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ตรงข้ามปั๊มน้ำมันวรพงษ์การปิโตรเลี่ยม ห่างจากตลาดสดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ประมาณ 500 เมตร มีอาคารเรียนทั้งหมด4 หลัง จุดที่ถูกเพลิงไหม้เป็นอาคาร 2 ชั้น ครึ่งปูน ครึ่งไม้ ติดกับโรงอาหาร พบเปลวเพลิงลุกไหม้แดงฉาน เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนาโพธิ์และพื้นที่ใกล้เคียงรวม 6 คัน เข้าฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้พบว่าตัวอาคารและอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกไฟเผาวอดเป็นเถ้าถ่าน ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
สอบปากคำนายนิวัฒน์ แก้วเพชร อายุ 40 ปี ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุนอนอยู่ที่บ้านในตลาดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ มาทราบจากครูว่าโรงเรียนถูกไฟไหม้จึงรีบเดินทางไปดู พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจทราบ สำหรับโรงเรียนที่ถูกเพลิงไหม้ เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ระดับอนุบาล-ม.3 มีนักเรียนทั้งหมด 375 คน แยกเป็นชาย 201 คน หญิง 174 คน ครู 24 คน อาคารที่ถูกไฟไหม้ ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องพักครู ห้องเก็บเอกสาร ทะเบียนและครุภัณฑ์ ห้องเรียนนักเรียนชั้น ป.2/1 ชั้นล่างแบ่งเป็น 3 ห้อง สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบชัดเจน ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนสอบหาข้อเท็จจริง ปกติโรงเรียนจะมีครูเข้าเวร 2 คน คือนายบุญชู แปลงไธสง ครู คศ.2 นายทรงศิลป์ พลแสน ครู คศ.2 และจ้างยามประจำโรงเรียนอีก 1 คน คือนายสมพร คะเนนอก ขณะเกิดเหตุทราบว่าทั้งหมดกลับไปทำธุระส่วนตัวที่บ้าน กลับมาอีกครั้ง พบว่าโรงเรียนถูกไฟไหม้ไปแล้ว
ในขณะที่นายบุญชู แปลงไธสง อายุ 55 ปี ครู คศ.2 ให้การว่า คืนเกิดเหตุไปเข้าเวรตามปกติ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่ เห็นว่าเหตุการณ์ปกติดีจึงกลับไปทำธุระที่บ้านนานประมาณ 1 ชม. จากนั้นย้อนกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง พบเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารเรียนอย่างรวดเร็ว แจ้งให้นายนิวัฒน์ แก้วเพชร ผอ.โรงเรียนทราบ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการลอบวางเพลิง มากกว่าไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเปลวเพลิงลุกไหม้รวดเร็วผิดปกติ อีกทั้งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 49 เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่วิทยาลัยการอาชีพคูเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบระบบไฟฟ้าของโรงเรียน ต่างลงความเห็นว่าระบบไฟฟ้าของโรงเรียนปกติดีทุกอย่าง
ต่อมาในช่วงสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รอง ผบก. พ.ต.ต.ฉลอง เกิดโมลี สว.วท.ภ.จ.บุรีรัมย์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นเข้าร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวน พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยมีรายงานว่าเบื้องต้นตำรวจสรุปสาเหตุกว้างๆไว้ 3 ประเด็น คือไฟฟ้าลัดวงจร ขัดแย้งภายใน และลอบวางเพลิง โดยเฉพาะประเด็นหลัง ตำรวจให้ น้ำหนักมากที่สุด เนื่องจากสอบปากคำพยานแวดล้อมหลายปากให้การตรงกันว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีครูในโรงเรียนพบกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่บนม้าหินอ่อนในโรงเรียน มีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า ?5 วันจะมาเผาโรงเรียน? แต่ไม่มีใครสนใจ คิดว่าเด็กนักเรียนเขียนเล่นด้วยความซุกซน กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งจากหลักฐานที่พบ ทำให้ตำรวจเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่คนร้ายเขียนจดหมายข่มขู่ก่อนลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียน
เวลาไล่เลี่ยกัน พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 นายก้องเกียรติ อัครประเสริฐกุล ผวจ.บุรีรัมย์ เดินทางร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ โดย พล.ท.สุเจตน์ให้สัมภาษณ์ว่า ดูจากสภาพที่เกิดเหตุและการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าชื่อว่าเกิดจากการลอบวางเพลิงแน่นอน ประเด็นไฟฟ้าลัดวงจรตัดทิ้งได้เลย เนื่องจากมีการประชุมร่วมผู้บริหารโรงเรียนทุกเขตพื้นที่ทั้ง 4 เขตของบุรีรัมย์แล้วให้เฝ้าระวังเหตุเพลิงไหม้ โดยเน้นให้ครูเข้าเวรยามตลอด
ส่วน ผอ.โรงเรียนจะถูกพิจารณาโทษอย่างไรอยู่ที่ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 พร้อมกันนี้ได้กำชับว่า หากโรงเรียนใดเลินเล่อจะไม่มีการยกเว้น ผอ.โรงเรียนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ขณะนี้ต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจหาความชัดเจน ทั้งได้ย้ำให้หาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการลอบวางเพลิง ที่น่าสลดใจคือโรงเรียนอยู่ในเขตเทศบาลตำบลนาโพธิ์ เป็นชุมชนหนาแน่น คนก่อเหตุไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนหากเพลิงลุกลาม ที่ผ่านมาได้กำชับให้ตำรวจเคร่งครัดดูแล โดยมีนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ออกตรวจสอบและปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าที่เก่าและชำรุด พร้อมติดตั้งระบบตัดไฟป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรครบทุกพื้นที่ ดังนั้นเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากการวางเพลิง ส่วนคนร้ายใช้วัสดุใดก่อเหตุคงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบต่อไป
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกถึงสาเหตุว่าเกิดจากไฟไหม้หรือวางเพลิง ตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุอยู่ เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำเรื่องไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อเข้าไปช่วยตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า และความปลอดภัยต่างๆภายในโรงเรียน และทราบว่าบางจังหวัดทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ช่วยตรวจสอบระบบไฟฟ้า จัดหาเวรยาม และอุปกรณ์ดับเพลิงแล้ว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์