แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

?ป๋าเปรม? ประณามมือบึ้มทรามต่ำช้า! วอนอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ?ป๋าเปรม? ประณามมือบึ้มทรามต่ำช้า! วอนอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์

ท้าให้มาจัดการกับตนเอง ได้เค้าระเบิดที่?ซีคอน?แล้ว สัมพันธ์ ร.อ.เจ้าของ บ.ยาม
?ป๋าเปรม? ท้ามือวางระเบิดเกลื่อนกรุงอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ให้มาทำกับตน ประณามน่าจะเป็นพวกบ้า ใช้กลยุทธ์ที่เลวทรามต่ำช้า วอนผู้ว่าฯ เร่งทำความเข้าใจกับ ปชช. แฉได้เค้ามือวางระเบิดซีคอนฯ มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายทหารนอกราชการ ยศ ?ร.อ.? เจ้าของบริษัทรปภ.ชื่อดัง ขณะที่ ?โฆษก? คมช. เอาหัวเป็นเดิมพัน เชื่อ ?ผบ.ทบ.? ไม่วางระเบิดเองแน่ ?นพดล? โดดป้องทักษิณ ไม่ได้โยนบาปให้พูโล ระบุหากยึดพาสปอร์ตลูกพี่ ต้องให้เกียรติอดีตนายกฯ ?ผสมโรงสอนมวย? ?บิ๊กแอ้ด? ป่าวประกาศเหตุระเบิดบ่อย ทำบ้านเมืองเสียหาย ?เครือข่าย 19 ก.ย.? อัดรัฐยื้อยกเลิกกฎอัยการศึก เตรียมนัดชุมใหญ่ขับไล่เผด็จการ 7 ม.ค. ขณะที่ ?รัฐบาล? ยันพร้อมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เปิดให้ชมห้องทำงานนายกฯ ?ศธ.? แสดงความมั่นใจปลอดภัยหายห่วง ด้าน กทม. สั่งคุมเข้มตลาดนัดจตุจักร ผวาระเบิดซ้ำอีก ?บช.น.? เอาจริง เด็กโทรฯ ป่วน ผู้ปกครอง ผิดด้วย

จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ รวดเดียว 8 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีกว่า 20 คน จากนั้นได้มีโรคจิตโทรศัพท์ขู่วางระเบิดไปทั่ว ทั้งในเมืองกรุงและชานเมือง ตามมาอีกหลายระลอก พร้อมกับมีกระแสข่าวลือการปฏิวัติซ้อนตามมาอีกนั้น สร้างความหวาด ผวาให้กับผู้บริสุทธิ์เป็นอย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดจากฝีมือของบุคคลกลุ่มใด เพียงบอกแต่ว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกอำนาจเก่าที่สูญเสียอำนาจ แต่สิ่งที่น่าตกใจ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ภายใน 1-2 เดือน จะเกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ม.ค. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักเลขที่ 1885 ซอยสืบศิริ 32 ถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ และบุคคลสำคัญจากสาขาอาชีพต่าง ๆ เข้าอวยพรเนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่ นำโดย พล.ท. สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ท. สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยผู้ว่าฯจาก 19 จังหวัดในภาคอีสาน นักธุรกิจใน จ.นครราชสีมา เข้ามอบช่อดอกไม้อวยพรปีใหม่ โดยมี พล.ท. สุเจตน์ เป็นผู้นำกล่าวคำอวยพร
?ป๋า? ประณามเป็นพวกบ้า
โดย พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรเหมือนทุกปีที่ผ่านมาและขอร้องให้ทุกคนช่วยกันดูแลราษฎร แต่ในปีนี้สถานการณ์ไม่ปกติ ส่วนความไม่ปกติทางภาคใต้ พอเข้าใจว่าเขามีเหตุผลอะไร แต่เหตุการณ์ในกรุงเทพฯ จะว่าไม่เข้าใจก็ไม่เชิง ว่าที่เขาทำจะมีเหตุผลอะไร จะว่าชัดเจนหรือไม่ชัดเจนก็ได้ แต่คนที่ทำเช่นนี้ได้น่าจะมีอยู่ 2 พวก คือ น่าจะเป็นคนบ้า แต่จะว่าไปคนบ้าคงไม่เก่งพอ ที่จะทำได้ขนาดนี้ ที่วางระเบิดพร้อมกันในหลายจุด ฉะนั้นคนที่ทำ จึงไม่ใช่คนบ้า แต่เป็นคนที่มีสติ และมีความตั้งใจ แต่เป็นคนที่ไม่รักชาติบ้านเมือง และคนที่ทำต้องมีเหตุผลหรือจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ได้อะไรบางอย่าง ซึ่งโจทย์ข้อนี้ง่ายมากว่า ทำไมถึงทำเราคงตอบกันได้ทุกคน และที่ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองพูดไป มั่นใจว่าท่านพูดถูก และที่นายกฯ พูดไปก็เชื่อว่าพูดถูกอีก
ระบุเป็นกลยุทธ์เลวทราม
ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวด้วยว่า จึงมีหน้าที่รับผิดชอบ คือทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ที่เขาทำไปไม่ใช่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว พูดให้ประชาชนรู้บ่อย ๆ และสม่ำเสมอ ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องบ้านเมือง ประเทศชาติ และมีคนอยู่ 2 ส่วนที่พูดแล้วคนฟัง คือ ครูกับพระ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือยิ่งผู้ว่าฯ ประชาชนยิ่งเชื่อใหญ่ จึงให้รีบไปทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเร็ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนที่ทำ จึงเลวทรามต่ำช้าขนาดนี้ ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย รวมทั้งมีคนบริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตถึง 3 คน และมีคนเจ็บอีกมากมาย คนที่ทำเช่นนี้ จึงถือได้ว่ามีกลยุทธ์ที่เลวทรามต่ำช้ามาก และฝากถึงคนที่ทำ ถ้าไม่พอใจตน รัฐ คมช. หรือไม่พอใจใคร ก็ไปทำกับคนนั้นโดยตรง อย่า ไปทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้เรื่องเลย
วอนผู้ว่าฯ ทำความเข้าใจปชช.
แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีแม่ทัพภาคที่ 2 ได้จัดงานขอพรจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษและเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดภาคอีสาน 19 จังหวัดมาร่วมงานด้วยนั้น ในโอกาสนี้ พล.อ. เปรม ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกลับไปทำความ เข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจต่อสถานการณ์ การวางระเบิดที่กรุงเทพฯ ว่า เลวยิ่งกว่าโจรภาคใต้ เพราะคนกลุ่มนั้นยังมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ แบ่งแยกดินแดน แต่ผู้ที่วางระเบิดกรุงเทพฯ ต้องการทำลายชาติให้ย่อยยับ อีกทั้งขอให้ประชาชนยึดมั่นต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนคนที่คิดร้ายต่อประเทศชาติจะต้องพบกับวิบัติ เพราะพระสยามเทวาธิราชมีจริง
แฉ 3 กลุ่มวางบึ้มป่วนกรุง
ที่บ้านมนังคศิลา พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อ.อรุณ พร้อมเทพ อดีตเสนาธิการทหารอากาศ พล.อ. หาญ ลีนานนท์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 นายวรินทร์ เทียมจรัส เลขานุการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง ร่วมกันแถลงข่าวพิเศษ กรณีความห่วงใยและความคิดเห็นต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดย พล.อ.สายหยุด กล่าวว่า สถานการณ์การก่อการร้ายที่กรุงเทพฯ คนทำต้องมีฝีมือเป็นกระบวนการ ต้องมีวินัยและรักษาความลับ มีอุดมการณ์ในการทำงานร่วมกัน และใช้คน 40-50 คน

พล.อ.สายหยุด กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องนี้ น่าจะเกิดจากบุคคล 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ และต้องการหวนคืนอำนาจ คือ อดีตนายกรัฐมนตรี นักการเมืองที่ร่วมรัฐบาลชุดที่แล้ว ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ ที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยดำเนินการดิสเครดิตเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้มีอำนาจในปัจจุบันต้องการสืบทอดอำนาจในอนาคต ได้แก่ ทหารและ คมช. ในปัจจุบัน รวมถึงทหาร ตำรวจ ข้าราชการในระดับสูงและนักวิชาการ ที่รับใช้รัฐบาลในปัจจุบัน สิ่งที่ดำเนินการคือ สร้างกลไกรักษาอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ ทำลายฐานอำนาจเดิมด้วยการยุบพรรค มุ่งสร้าง ความรู้สึกด้านร้ายต่อกลุ่มอำนาจเก่า จึงอาจสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มตัวเอง 3. กลุ่มขบวนการก่อการร้ายจากภาคใต้ มุ่งสร้างผลงานให้เป็นข่าวต่างประเทศเพื่อสร้างผลทางการเมืองและอำนาจต่อรองบางอย่าง
เสนอข้อเรียกร้องด่วน 5 ข้อ
?พวกเราอยากขอเรียกร้องดังนี้ 1. ขอให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงงานการข่าว และต้องหาคนผิดมาลงโทษ ไม่ใช่แค่จับเด็กนักเรียนหรือพวกรายย่อยที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง 2.ขอให้ คมช. เร่งสร้างความสามัคคีในกองทัพ 3.ขอให้ทหารเปลี่ยนทัศนคติว่าการยึดอำนาจมาใช่หนทางเดียวในการแก้ปัญหา 4.ขอให้เชื่อมั่นในประชา ธิปไตยแม้ต้องใช้เวลาที่ยาวนาน และประชาชนอย่าไปสนับสนุนวิธีเผด็จการหรือเชื่อในเรื่องอัศวินม้าขาว 5.ขอให้รัฐบาลและ คมช. เร่งการร่างรัฐธรรมนูญโดยใช้ปี 2540 เป็นต้นแบบและแก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว? พล.อ.สายหยุดกล่าว
เชื่อปฏิวัติซ้อนเป็นไปได้ยาก
ด้าน พล.อ.อ.อรุณ กล่าวถึงการก่อเหตุลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ ด้วยว่า ถ้าถามว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาภาคใต้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่เป็นการเอาแบบอย่าง สาเหตุที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับภาคใต้เพราะการก่อเหตุที่ภาคใต้เป็นกลุ่มมุสลิมเวลาเขาก่อเหตุสามารถหลบเข้าไปในบ้านได้ แต่ในกรุงเทพฯ เป็นชาวพุทธ ถ้าก่อเหตุคงไม่สามารถอาศัยใครได้ ส่วนเรื่องการปฏิวัติซ้อนคงเป็นไปได้ยาก เพราะ ผบ.ทบ. เป็นประธานคมช. ที่คุมกำลังและมีอดีตแม่ทัพภาค 1 และภาค 3 เป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. ทั้งนี้หากจะเกิดจริง คนทำได้คือประธาน คมช. ที่จะปฏิวัติตัวเอง หากคนอื่นจะทำเป็นไปได้ยาก แต่ตนไม่เห็นความจำเป็นในการทำ

ขณะที่พล.อ.หาญ กล่าวว่า ถ้าเกิดเหตุรัฐบาลและคมช.ต้องหาทางจับคนร้าย เพราะเกิดเหตุ 8 จุด จะจับคนร้ายไม่ได้เลยหรือ ถ้าหากจับไม่ได้แสดงว่าหน่วยงานความมั่นคงไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องข่าวการปฏิวัติซ้อน เป็นธรรมดาที่เกิดระหว่างการเปลี่ยนฐานรัฐบาล โดยรัฐบาลต้องหาทางสยบข่าวลืออย่าให้ขยายวงมาก
?อภิสิทธิ์? หนุนเพิ่มรองนายกฯ
ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาระบุว่าให้ระวังอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก ภายในช่วง 1-2 เดือนนี้ ว่า ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่การไม่อยู่ในความประมาทเป็นเรื่องดี จึงอยากให้ประชาชนระมัดระวัง แต่เวลานี้ต้องเอาความปลอดภัยของประชาชน ความมั่นคงของชาติเป็นหลัก และคิดว่าสิ่งที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอเพิ่มตำแหน่งรองนายกฯ ด้านความมั่นคง น่าจะเหมาะสม และถ้ากระทรวงไหนจำเป็นต้องมีคนทำงานเพิ่มขึ้น ก็เห็นด้วย แต่คงจะเพิ่มจำนวนอย่างเดียวไม่ได้ เพราะผู้ที่จะมารับผิดชอบ ต้องรู้เท่าทันสถาน การณ์ด้วย
?มท.1? ชี้ปล่อยข่าวให้ยุ่งเหยิง
ส่วนที่โรงแรมแชงกรี-ลา นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกฯออกมาประกาศเตือนการเกิดเหตุระเบิด ว่า เป็นเรื่องความไม่ประมาท จึงต้องเตือนหน่วยงานราชการและประชาชนให้ระมัดระวัง เมื่อถามว่าการข่าวได้รายงานความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างไร นายอารีย์ กล่าวว่า เมื่อทราบแล้วจะต้องระมัดระวังอย่างไรแล้วแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ แต่เกรงว่าจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกหรือไม่ นายอารีย์กล่าวว่า คงไม่ เพียงแต่เตือนกันไว้ ความประมาทเป็นสิ่งที่ไม่ดี โดยตนได้ประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้ระวัง และให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการในบางจุดสำคัญ ๆ ส่วนกรณีมีข่าวลือเรื่องปฏิวัติซ้อนนั้น อย่าไปพูด เพราะพูดไปก็มากเรื่องเปล่า ๆ อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอารีย์ กล่าวว่า ไม่ทราบคนปล่อยข่าวเรื่องนี้ คงต้องการปลุกกระแสให้เกิดความ ยุ่งเหยิง
โฆษกคมช.เอาหัวเป็นประกัน
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวยืนยันเหตุลอบวางระเบิด ว่า ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ และเป็นไปไม่ได้ที่ คมช.จะสร้างสถานการณ์ก่อเหตุขึ้นเอง เพราะที่ผ่านมา คมช. อาสาเข้ามาหยุดการใช้อำนาจของรัฐบาลเก่า ซึ่งเป็นหนทางสุดท้าย ที่จะทำให้ประชาชนไม่แตกแยก จนถึงวันนี้ การดำเนินการมาได้ถึง 1 ใน 3 ของที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาสร้างความกดดันให้กับ ตัวเอง อีกทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ได้เน้นเสมอว่า เราเป็นกองทัพของประชาชน ถ้าสร้างสถานการณ์เอง แสดงว่าเรากลืนอุดมการณ์
?ผมเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่า คมช.ไม่มีทางที่จะวางระเบิด ขอเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน ก่อนที่จะนำข้อมูลเอามาเผยแพร่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสน ซึ่งนายกฯ ได้สั่งให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นผู้ให้ข่าวแต่ผู้เดียว? พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
อจ.มองกลบปัญหารัฐบาล
ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร นำโดยนายสุวิทย์ เลิศไกรเมธี ผู้ประสานงานเครือข่าย ได้แถลงประณามผู้ก่อเหตุวางระเบิดในกรุงเทพฯ ว่า เป็นอาชญากรและผู้ก่อการร้าย ไม่ต่างจากคณะรัฐประหาร ที่ใช้วิธีการเดียวกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง คือการสร้างความสะพรึงกลัวและก่ออาชญากรรมทางการเมือง โดยทางเครือข่ายฯ มีความเห็นเหตุการณ์ระเบิด 5 ข้อดังนี้ 1.ถูกใช้เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมในการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยไม่ยอมยกเลิกกฎอัยการศึกและใช้อำนาจเผด็จการมากยิ่งขึ้น โดยจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่าจะต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่อเนื่องอีก 1-2 เดือน อาจกลายเป็นเงื่อนไขให้มีการคงกฎอัยการศึกไว้และต่อไปจะมีการบังคับใช้กฎอัยการศึกอย่างจริงจัง 2.กลบปัญหาอื้อฉาวที่รุมเร้ารัฐบาล และ คมช. มาตลอด 3 เดือนรวมถึงอาศัยเหตุการณ์นี้โยนความผิดให้กลุ่มอำนาจเก่า ผู้เสียประโยชน์ หรือพวกป่วนเมือง
จ่อคิวชุมนุมต้านบึ้มการเมือง
3. เป็นการประจานคณะรัฐประหารและผู้เกี่ยวข้อง ถึงความบกพร่องในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4.ความประมาทของ คมช.จากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.สนธิ ประธาน คมช.ในทำนองว่าเป็นการกระทำของผู้เสียประโยชน์มากกว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ สะท้อนให้เห็นว่าประธาน คมช.กำลังตั้งมั่นอยู่ในความประมาท เพราะตราบใดยังไม่มีข้อสรุปจากเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ เหตุการณ์อาจซ้ำรอยกับรัฐบาลเก่าที่มองปัญหาภาคใต้เป็นแค่เรื่องโจรกระจอก 5.ส่งผลต่อจิตวิทยาของประชาชน ทำให้เกิดความหวาดกลัว ไม่มั่นใจในความปลอดภัยไปทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 ม.ค. ทางเครือข่ายฯ ยังยืนยันชุมนุม เวลา 15.30 น. ที่สนามหลวง โดยจะใช้ชื่อ ?ชุมนุมต้านระเบิดการเมือง? นอกจากจะเป็นการไล่คณะรัฐประหารแล้ว ยังเป็นการต่อต้านความรุนแรงทางการเมืองด้วย
?จาตุรนต์? สอนมวย ?บิ๊กแอ้ด?
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาระบุว่าผู้ลอบวางระเบิดหลายจุดในกท. และมือปล่อยข่าวปฏิวัติซ้อน มีความเชื่อมโยงกัน ว่า รัฐบาลและคมช. ควรมีหลักฐานให้ชัดเจนก่อนออกมาพูด การสรุปอย่างนั้นง่ายเกินไป ที่ห่วงมากคือการให้ข่าวของนายกฯ ไม่ใช่การปล่อยข่าวลือ แต่เป็นการแจ้งต่อสังคมว่าภายใน 1-2 เดือนนี้ จะเกิดเหตุการณ์ความ วุ่นวายอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการประกาศโพนทะนาในเรื่องที่ไม่สมควรพูดอย่างยิ่ง ถ้ามีข่าวแบบนั้น นายกฯ ต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่หาวิธีการป้องกัน และบอกให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่ใช่ไปประกาศแบบนี้ การพูดของนายกฯ ครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด แสดงให้เห็นถึงความไม่มีประสบการณ์ในการชี้แจงกับสาธารณชน จึงพูดในสิ่งที่จะไปกระทบกระเทือนต่อกระบวนการยุติธรรม กระทบการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ กระทบความรู้สึกประชาชน
?นพดล? ติงนายกฯอย่าชี้นำ
ด้าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร ได้กล่าวปฏิเสธถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมเดินทางกลับเข้าประเทศ ว่า เป็นแค่ข่าวลือ จึงขอให้ยุติการกระทำและได้หันมาสมานฉันท์มากกว่าทำลายกัน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง เพราะอาจมีเหตุระเบิดอีกครั้งภายในช่วง 1-2 เดือนนี้ ว่า เรื่องนี้ไม่ส่งผลดีต่อประชาชนและการลงทุนในประเทศ เพราะเมื่อทราบข่าวแล้ว ควรหาทางป้องกันอย่างเงียบ ๆ แต่ที่น่าตกใจคือนายกรัฐมนตรี รู้ล่วงหน้าแต่เหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลและคมช.มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลโดยตรง ไม่ควรไปโทษคนอื่น หรือฟันธงเพื่อชี้นำ ต้องปล่อยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสืบสวนสอบสวน ทำความจริงให้ปรากฏ
ป้อง ?แม้ว? ไม่ได้โยนบาปพูโล
นายนพดล กล่าวถึงกรณีนายคัสตูรี มาห์โกตา หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศขององค์การปลดปล่อยสหรัฐปัตตานี (พูโล) เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ พร้อมกับโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมากล่าวหาอย่างไร้หลักฐานว่าเป็นคนฝักใฝ่แต่ประโยชน์ส่วนตน ว่า ในจดหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีการระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด เพียงแต่เสนอแนะต่อรัฐบาลและ คมช.เพราะไม่อยากให้ด่วนสรุปตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป ก่อนที่จะมีการสอบสวนอย่างรอบคอบ ส่วนใครจะร้อนตัวออกมาแสดงตัวก็เป็นเรื่องของเขา เพราะความจริงความไม่สงบในภาคใต้ ก็ไม่รู้อย่างแท้จริงว่า มีกลุ่มขบวนการกี่กลุ่ม ที่ร่วมก่อความไม่สงบ และสังคมคงจะพิจารณาได้ ว่ากลุ่มที่ออกมากล่าวอ้างนั้น มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน
ระบุควรให้เกียรติอดีตนายกฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศเตรียมที่จะเสนอยกเลิกหนังสือเดินทางทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่อยากด่วนสรุปว่า จะมีการดำเนินการไปในทางใดทางหนึ่ง แต่ก็หวังว่าการดำเนินการทุกอย่าง จะมีการปฏิบัติไปตามกฎ ระเบียบ ที่เป็นธรรม และควรต้องให้เกียรติพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีตามสมควร
กทม.คุมเข้มตลาดจตุจักร
วันเดียวกัน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่า ร่วมประชุมกับตำรวจทหารและผู้บริหารตลาดนัดจตุจักร เพื่อหารือมาตรการความปลอดภัย ก่อนจะออกตรวจตราความปลอดภัยในบริเวณตลาดนัดจตุจักรพร้อมกับแจกถุงขยะใสให้ผู้ค้า โดยนายอภิรักษ์กล่าวว่า ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบทหารจากกองทัพภาคที่ 1 รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเพิ่มเติมให้ตรวจตราตามจุดต่าง ๆ ให้มากขึ้น เนื่องจากในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินเลือกซื้อของกันคับคั่งกว่า 200,000 คน ต่อวัน จึงต้องคุมเข้มพื้นที่เป็นพิเศษ รวมทั้งให้เก็บขยะทุก 1 ชม. เพื่อตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย และรณรงค์ให้ผู้ค้าเปลี่ยนมาใช้ถุงขยะใสแทนถุงดำ เพื่อจะได้สังเกตได้ง่าย และหากพบเหตุผิดปกติให้แจ้งไปที่สน.บางซื่อหรือ โทร.1555 ของกทม. ได้ทันที
ย้ำเด็กได้ชมห้องนายกฯชัวร์
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ?สายตรงทำเนียบ? ว่า ในวันเด็กปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 ม.ค. รัฐบาลได้จัดงานวันเด็กเหมือนเช่นทุกปี แต่อาจจะเพิ่มการดูแลความสะดวก ความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับกิจกรรมในวันเด็กนั้น ได้เปิดห้องทำงานของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้เด็กเข้าชม รวมทั้งส่วนราชการต่าง ๆ ของทำเนียบรัฐบาล ก็จะจัดกิจกรรมมากมาย เพื่อให้เด็กได้รับความรู้ ความสนุกสนานอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะตรวจเข้มในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมฝากให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ให้ดูแลพื้นที่ให้รัดกุมมากที่สุด
?ศธ.? การันตีเด็ก ๆ ปลอดภัย
ขณะที่นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิ การ กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยในงานวันเด็กแห่งชาติ 2550 ว่า ได้วางมาตรการที่รัดกุมกว่าทุกปี โดยมีการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครอง สถานศึกษา หรือ หน่วยงานต่าง ๆ โดยขอให้เด็กนำสิ่งของติดตัวมาให้น้อยชิ้นที่สุด เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้อาจจะต้องมีการขอตรวจสอบทั้งอาวุธหรือวัตถุต้องสงสัยก่อนเข้างาน เช่นที่สนามเสือป่า จะตั้งกองอำนวยการร่วม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารติดต่อให้ถึงกันอย่างสะดวกรวดเร็วและจะมีการประสานกับทุกฝ่ายในการวางระบบรักษาความปลอดภัย การพลัดหลงของเด็ก แต่จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิด อาจทำให้ผู้ปกครองคิดว่าไม่ปลอดภัยแล้วไม่นำเด็กออกไปร่วมกิจ กรรมนั้น จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัย โดยได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบในการเข้าไปดูแล
เด็กโทรฯ ป่วนเอาผิดผู้ปกครอง
ที่ บช.น. พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษก บช.น.กล่าวว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 88 สน. ระดม ออกหาข่าว ข้อมูล และหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ก่อกวนโทรศัพท์ขู่วางระเบิด โดยมีศูนย์วิทยุผ่านฟ้า 191 เป็นศูนย์เชื่อมข้อมูลเพื่อสืบหาคนร้ายและให้รายงานผลการปฏิบัติงานภายใน 7 วัน จึงขอความร่วมมือและฝากถึงประชาชน ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลาน และนักเรียน อย่าคึกคะนองโทรศัพท์มาขู่เหตุระเบิด เพราะในทางกฎหมายถือว่าได้กระทำความผิดแล้วและผู้ปกครองต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

โฆษก บช.น. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้กำชับตำรวจให้เพิ่มจุดเซฟตี้โซน ให้มากกว่าเดิม โดยให้นำอาสาสมัครแจ้งข่าวอาชญากรรม ตำรวจบ้าน อาสาจราจร เพื่อนบ้านเตือนภัย เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่กับตำรวจท้องที่ ส่วนมาตรการป้องกัน ประสานความร่วมมือกับโรงแรม ห้างสรรพสินค้า บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดตั้งไว้ในอาคาร ช่วยสอดส่องดูแลบ้านเมือง หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบโทรฯ แจ้งตำรวจทันที อีกทั้งให้เพิ่มกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหันหน้าไปบริเวณรอบนอกอาคาร เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย
ปล่อยเด็กมือบอนกลับบ้าน
เวลา 11.45 น. วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ. วรนิตย์ สวนคร้ามดี ผกก.ศส.บชน. ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.จีรยุทธ จิตใจกล้า รอง สว.สส. นำตัว ด.ช.ซัน (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป. 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง พร้อมผู้ปกครองมาสอบปากคำ เนื่องจากช่วงเช้าวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายโทรศัพท์ไปยังศูนย์วิทยุผ่านฟ้า (191) แจ้งว่า จะเกิดระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เวลา 11.30 น. และจากการสืบสวนพบว่าโทรฯมาจากโทรศัพท์มือถือของมารดา ด.ช.ซัน จึงเดินทางไปนำตัวทั้งหมดมาจากบ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง
จากการสอบปากคำทราบว่า วันเกิดเหตุมารดาของ ด.ช.ซัน ได้ไปรับลูกมาจากโรงเรียน เนื่องจากเป็นห่วงลูก จากนั้นได้ปล่อยให้ลูกชาย นั่งเล่นอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ส่วนพ่อกับแม่ขายกาแฟอยู่หน้าบ้าน แต่ ด.ช.ซัน เกิดความซุกซน จึงนำโทรศัพท์มือถือมากดเล่น แต่ด้วยความไร้เดียงสาและคึกคะนอง จึงโทรฯ ไปแจ้งว่ามีระเบิด แต่ไม่มีเจตนาจะก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงถ่ายรูปทำประวัติพร้อมว่ากล่าวอบรมตักเตือนผู้ปกครองให้ดูแลลูกให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายอย่างนี้อีกต่อไป
วอนช่วยแจ้งเบาะแสมือบึ้ม
วันเดียวกัน พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าถึงเหตุระเบิด ในกรุงเทพฯ ว่า พนักงานสอบสวนทำงานกันอย่างต่อเนื่องโดยสอบปากคำพยานที่เป็นผู้บาดเจ็บไปแล้วกว่า 10 ปาก รวมถึงประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงและผู้บาดเจ็บ แต่ยังไม่ได้อะไรมากนัก สำหรับภาพโทรทัศน์วงจรปิดในแต่ละจุดนั้น ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว แต่ภาพที่ได้ไม่ ชัดเจน จึงมอบหมายให้ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง จึงยังไม่สามารถออกภาพสเกตช์คนร้ายได้ และขอยืนยันไม่รู้ข่าวออกมาได้อย่างไร อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ได้กำหนดเวลาว่าต้องทำคดีให้เสร็จภายใน 3 วัน 5 วันเพียงแต่กำชับให้ทำคดี อย่างรอบคอบตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏเท่านั้นและอยากขอความร่วมมือกับประชาชนหากรู้เบาะแสกลุ่มคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัย สามารถโทรฯ แจ้งมาที่ศูนย์วิทยุ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะปิดเป็นความลับและให้ความคุ้มครองเป็นอย่างดี
บึ้มซีคอนฯ สงสัยทหารเอี่ยว
แหล่งข่าวระดับสูงจาก คมช.เปิดเผยว่า ภายหลังที่มีการตรวจสอบภาพในวิดีโอวงจรปิดเพื่อค้นหาผู้ลอบวางระเบิดในห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ พบว่าชายต้องสงสัย ที่วางถุงพลาสติกแล้ววิ่งหนีออกมาอย่างมีพิรุธนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบย้อนกลับไปแล้วพบว่าชายคนดังกล่าว มีความเกี่ยวพันอย่างชัดเจนกับอดีตนายทหารยศร้อยเอกที่ถูกออกจากราชการ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่า ดร.ไฮโซและปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยชื่อดัง ในเบื้องต้น คมช.จะนำตัวร้อยเอกคนดังกล่าว มาเค้นสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่เกรงจะเกิดคำครหา จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีรวบรวมหลักฐาน ก่อนจะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับ
วัตถุต้องสงสัยโผล่รายวัน
ช่วงสายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบวัตถุต้องสงสัย ถูกนำมาวางไว้ที่ริมกำแพงหน้าบ้านเลขที่ 7/458 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา ไปตรวจสอบ พบถุงพลาสติกสีดำ ภายในมีวัตถุทรงกลม ห่อหุ้มด้วยผ้า มีสายไฟร้อยระโยงระยาง จึงนำล้อยางมาครอบไว้เพื่อป้องกันอันตราย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองสรรพวุธทหารเรือ มาตรวจสอบ พบว่าภายในมีลูกเหล็กทรงกลมคล้ายระเบิดลูกเกลี้ยง มีสายไฟพันล้อมรอบลักษณะคล้ายต่อเชื่อมวงจร จึงใช้เครื่องมือตัดขั้ววงจร และพบว่าสายไฟไม่ได้เชื่อมต่อกัน จึงนำออกมามอบให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์
ตื่นทหารเคลื่อนกำลังพล
ขณะเดียวกันภายในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ห้าแยก ณ ระนอง แขวง-เขตคลองเตย พบวัตถุต้องสงสัยเป็นกล่องกระดาษถูกนำมาวางทิ้งไว้ ด้านนอกมีสายไฟห้อยอยู่ 1 เส้น ถูกพันด้วยเทปกาวอย่างดี ตรวจสอบพบว่าภายในมีเพียงปูนขาว ไล่เลี่ยกัน ที่ถนนพระราม 4 พบวัตถุต้องสงสัยเป็นถุงกระดาษสีน้ำตาล ถูกนำมาวางไว้ที่ป้ายรถประจำทาง ตรวจสอบภายในเป็นเสื้อผ้าสตรี ส่วนที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการลำเลียงกำลังทหาร และยานพาหนะ ต่าง ๆ อาทิ รถฮัมวี่ รถยีเอ็มซี หลายสิบคัน เพื่อขึ้นขบวนรถไฟไปสลับกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่ได้เข้ามาปฏิบัติภารกิจพิเศษในกรุงเทพฯ แต่อย่างใด แต่ประชาชนที่ทราบข่าวพากันตื่นตระหนก เพราะนึกว่าจะเกิดเหตุร้าย เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ป่วนชายลึกลับโผล่สนามบิน
เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต. ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ตำรวจท่องเที่ยวและทหาร ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่บริเวณประตู 7 ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ รับแจ้งว่ามีชายรูปร่างสูง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ใส่เสื้อสีดำ สงสัยซุกซ่อนวัตถุระเบิดในกระเป๋าหนีบใบเล็กสีดำ เข้ามาในสนามบิน จึงระดมไปตรวจสอบและพบชายลักษณะต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง จึงเชิญตัวมาสอบสวน และทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่การท่าฯ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ จากการตรวจค้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมเปิดเผยชื่อ จึงลงบันทึกไว้ ก่อนปล่อยตัวไป
ปล่อยข่าว ?แม้ว? บินกลับไทย
ในขณะเดียวกันช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีผู้ไม่ประสงค์ดี ปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นั่งเครื่องบินกลับเข้ามาในประเทศไทย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ที่รักษาการณ์อยู่ที่สนามบิน ต่างพากันตรวจสอบข้อมูลกันจนเกิดความวุ่นวายเกือบทั้งคืน จนกระทั่งพบว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร และเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือพวกชอบก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเจ้า หน้าที่ตำรวจและทหารก็ยังคงตรึงกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภายในสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเต็มกำลัง
สองแควโทรฯขู่บึ้มรถไฟอีก
ที่ จ.พิษณุโลก ช่วงกลางดึก พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผก.สภ.อ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีคนโทรศัพท์ขู่วางระเบิดที่สถานีรถไฟพิษณุโลก และรางรถไฟสายเหนือ จึงนำกำลังไปตรวจสอบแต่จากการตรวจค้นนานกว่า 3 ชั่วโมง กลับไม่พบวัตถุต้องสงสัยใด ๆ จากนั้นได้เดินเท้าตรวจสอบรางรถไฟทั้งขาขึ้นเหนือและล่องใต้เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัยเช่นกัน ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดเทศบาล 6 (ตลาดร่วมใจ) ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ว่าพบวัตถุต้องสงสัย ที่บริเวณหน้าอาคารที่ 2 จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยทหารจากค่ายสมเด็จพระนเรศวร พบขวดน้ำพลาสติก 2 ใบ ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ มัดด้วยหนังยาง จึงเข้าไปทำการตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงขวดน้ำดื่มเปล่า 2 ใบ และกระ ดาษเขียนรายการซื้อสินค้า ไม่ใช่เป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ที่ชอบสร้างสถานการณ์
โรคจิตโทรฯขู่บึ้มป่วนรพ.
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ทิวธวัช นครศรี ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงราย สั่งการให้ พ.ต.ต. อนันต์เดช ยาวิชัย สว.สส. นำฝ่ายสืบสวนประสานงานกับสำนักงานองค์การโทรศัพท์ เพื่อตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ลึกลับ ที่โทรฯ เข้าไปขู่วางระเบิดโรงพยาบาลเชียงรายประชานุ เคราะห์ ถนนสถานพยาบาล เขตเทศบาลนครเชียงราย จนทางโรงพยาบาลได้ออกประกาศเตือนเสียงตามสาย ให้ช่วยสอดส่องดูบุคคลแปลกหน้า และตรวจหาสิ่งของต้องสงสัยทั่วโรงพยาบาล แต่ไม่พบวัตถุระเบิดตามที่ข่มขู่แต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกโรคจิตหรือกลุ่มสร้างสถานการณ์
?ผบ.ตร.? ตรวจเข้มทุกพื้นที่
เวลา 19.00 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ได้ออกไปตรวจดูแลความเรียบร้อยและการป้องกันเหตุระเบิด โดยได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุลอบวางระเบิด ที่บริเวณหน้าห้างเกสรพลาซ่า ถนนราชดำริ โดยมี พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 และกำลังตำรวจที่คอยดูแลความเรียบร้อย ป้องกันเหตุร้าย ให้การต้อนรับ โดย พล.ต.อ.โกวิท เปิดเผยว่า การออกตรวจสอบความเรียบร้อยในพื้นที่ครั้งนี้ เป็นมาตรการคุมเข้มและป้องกันเหตุระเบิด และเท่าที่ออกตรวจรู้สึกพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจ อาสาสมัครตำรวจบ้าน โดยเน้นย้ำให้ตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะแหล่งชุมชน ส่วนในวันเด็กที่จะถึงนี้คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะได้สั่งให้มีการตรวจตราเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบกำลังดูแลความเรียบร้อยตามสน.ต่าง ๆ.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215