ท้าเอาหมายมาจับได้เลยคุยฟุ้งมีเทปมัดมือระเบิด แอ้ดย้ำปมกลุ่มอำนาจเก่ามติครม.ให้ล่าถึงผู้บงการบีบอยโผล่ยันIRKไม่เกี่ยว
?บิ๊กจิ๋ว?ท้าลั่นคมช.เอาหมายจับมาจับได้เลย อย่ามากล่าวหาลอยๆว่าพัวพันบึ้มกรุง เย้ยถ้ารู้ดีว่าใครทำ ทำไมไม่จับแม่งให้หมด อ้างต่างชาติพูดกันเยอะ?มันทำกันเอง? ไปเปิดดูเทปก็รู้ฝีมือใคร แนะคมช.รีบคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะผู้นำไม่มีความสามารถในการปกครอง เสธ.หมึกก็โต้ไม่ได้โดนสอบ คมช.โทร.มาถามสารทุกข์สุขดิบเท่านั้น เย้ยอีก?เถาถั่ว ใช้ต้มถั่ว ไยร้อนรุ่มเช่นนี้? ขณะที่?สุรยุทธ์?ประชุมครม.มีมติให้จับตัวการบึ้ม กับเตรียมคุมเข้มงานวันเด็ก ยังย้ำเป็นระเบิดการเมือง โกวิทโต้ข่าวลือโดนปลดไม่จริงก่อนเข้ารายงานผลสอบกับนายกฯ เลขาฯคมช.ยอมรับเรียกเสธ.ไอซ์มาคุยจริง ?ปานเทพ?สวนกลับแม้วอย่าแก้ตัว ปชป.ก็อัดแม้วอย่าปลุกระดมประชาชน ชัดแล้วรหัส?ไออาร์เค?เป็นแค่โลโก้แก๊งโจ๋บีบอย ไม่เกี่ยวบึ้ม
แอ้ดประชุมครม.นัดแรกปี50
ความคืบหน้าระเบิด 8 จุดป่วนทั่วกรุง เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 3 ม.ค.2550 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นประธานการประชุมครม.นัดแรกของปี 2550
นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.ถึงเหตุระเบิด 8 จุดในกทม.และปริมณฑลว่า แม้ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้จะไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดชนวน แต่กระทรวงไอซีทีสั่งการให้เก็บข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่กทม.ตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุคือวันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว หากฝ่ายความมั่นคงต้องการก็สามารถตรวจสอบได้ทันที เพราะได้บันทึกข้อมูลการใช้ไว้ตลอดเวลา
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าในกทม.มีคนใช้โทรศัพท์มือถือจำนวนมาก ต่อนาทีใช้เป็นล้านๆสาย ซึ่งทำให้การตรวจสอบทำได้ยาก โดยเฉพาะคืนวันที่ 31 ธ.ค. มีคนใช้โทรศัพท์มือถือ และส่งเอสเอ็มเอสเยอะมาก ดังนั้นในทางปฏิบัติคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกๆฝ่ายให้ช่วยกันตรวจสอบดูความน่าสงสัย
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้สั่งการให้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยหรือนักการเมืองคนใดเป็นพิเศษหรือไม่ รมว.ไอซีที กล่าวว่า ตนยังไม่มีเบอร์ผู้ต้องสงสัย ทางฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้แจ้งให้ตรวจสอบ
ขณะที่พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งเข้าร่วมประชุมครม.ด้วย ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิด 8 จุดในกทม.
พม.เน้นให้เยียวยาเหยื่อระเบิด
ส่วนนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจเหยื่อเหตุการณ์ระเบิดกทม.และปริมณฑล ว่า เรื่องช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหน้าที่หลักของกระทรวงมหาดไทยและกทม. ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีความห่วงใยและไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน และคาดหวังว่าสังคมของเราจะไม่ใช้ความรุนแรง เป็นสังคมที่มีสันติสุข แก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.2549 เป็นจุดหักเหของสังคม ที่ดูว่าประเทศไทยมีการใช้ความรุนแรงชนิดไร้ขอบเขต เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติให้ดี ใช้ความพยายามร่วมกัน โดยเฉพาะภาคประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยกันสร้างสังคมสันติสุขและไม่ใช้ความรุนแรงให้ได้
รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สังคมไทยถูกมองว่าเป็นสังคมที่ใช้ความรุนแรงชนิดไร้ขอบเขต ซึ่งเป็นอันตรายหากไม่ระมัดระวังอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มากขึ้น เพราะถือว่าทำได้ และคนที่เคยทำจะทำอีก อย่างไรก็ตามในส่วนที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้สร้างความสมานฉันท์ในชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างกระบวนการแบบสันติสมานฉันท์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสถาบันพระปกเกล้า เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เพราะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกและทัศนคติของคน จะต้องเน้นให้การศึกษา การเรียนรู้ และฝึกการปฏิบัติ และเย็นวันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประชุมที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือกันว่าในสภาวะสังคมที่เกิดความรุนแรงแบบกระจาย ซึ่งแต่เดิมมีเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น จะต้องเร่งหาทางแก้ไข โดยตั้งสติให้ดี
?ส่วนตัวคิดว่าเหตุการณ์ที่มีการใช้ความรุนแรงน่าจะเกิดจากการสะสมของความขัดแย้ง และการใช้กำลัง ทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงขอวิงวอนทุกฝ่ายหันมาใช้แนวทางสันติวิธี ในการลดความขัดแย้ง ซึ่งปีใหม่ให้หันมาใช้ สวัสดี สันติปีใหม่ และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้ปีใหม่มีสันติ? นายไพบูลย์ กล่าว
มติครม.ล่าจอมบงการบึ้มกรุง
ต่อมาเวลา 12.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์แถลงผลการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมครม.ได้หยิบยกเหตุการณ์ระเบิดทั่วกทม.และปริมณฑล ในวันที่ 31 ธ.ค.มาหารือโดยครม.มีมติสำคัญ 2 ประเด็น คือ 1. การหาทางที่จะต้องนำผู้ลงมือดำเนินการมาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้ และ 2.การป้องกันเหตุร้ายโดยเฉพาะในเดือนม.ค.2550 จะมีงานสำคัญอีกงานหนึ่งคืองานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งในการจัดงานดังกล่าวจะต้องป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้น และเพื่อให้เกิดความรอบคอบส่วนราชการต่างๆ จะมีการหารือร่วมกันและเสนอแนวทาง มาตรการ และวิธีการต่างๆ ในวันที่ 5 ม.ค. นอกจากนั้นจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับเยาวชนและผู้ปกครองให้รับทราบว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ทั้งในเรื่องการจัดงาน มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อช่วงปีใหม่
นายกฯกล่าวว่า มาตรการการป้องกันทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) จะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประสานงานและดูแลเฝ้าระวังว่าจะมีมาตรการ วิธีการเฝ้าตรวจเพิ่มเติมอย่างไร สิ่งที่สำคัญคือการขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน คงไม่มีใครอยากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนว่า ภัยรูปแบบใหม่ ที่เราจำเป็นต้องหาทางแก้ไขนั้นต้องการความร่วมมือ ต้องการความเข้าใจจากประชาชนการร่วมมือระหว่างกันและระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า มาตรการที่ได้ดำเนินการมาในช่วง 2-3 วัน ถือเป็นมาตรการเบื้องต้น เราจะมีการชี้แจงและทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น จะมีการรวมศูนย์ของจุดที่จะสามารถรายงานหากผู้ใดสังเกตเห็นสิ่งของหรือบุคคลที่น่าสงสัย เราจะได้กำหนดศูนย์โทรศัพท์ ศูนย์การรับเรื่องราวต่างๆให้เป็นศูนย์แห่งเดียว ซึ่งจะชี้แจงให้ประชาชนทราบต่อไป
ย้ำเป็นบึ้มหวังผลการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความคืบหน้าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งจะหารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกอ.รมน. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ได้ข้อมูลจากนั้นจะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบความคืบหน้าโดยเร็วที่สุด เมื่อถามว่า ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสบ้างหรือยัง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้คงต้องขอเวลาให้ตนติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมอบหมายให้ทาง กอ.รมน.เป็นศูนย์รวมของการดำเนินงาน
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีหลักฐานอะไรยืนยันว่า เป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง นายกฯกล่าวว่า เป็นการสรุปเชิงวิเคราะห์ทางด้านการข่าวเท่านั้น ตามที่ได้ชี้แจงเมื่อวันที่ 1 ม.คก็เป็นผลวิเคราะห์ของทางเจ้าหน้าที่ที่วิเคราะห์ว่าจำนวนของวัตถุระเบิดที่วางในจุดต่างๆ ห้วงเวลาที่กำหนดให้เกิดเหตุการณ์ และปริมาณ-ชนิดของวัตถุระเบิดที่ใช้งาน น่าจะเป็นการหวังผลทางการเมือง ถือเป็นการวิเคราะห์ทางด้านการข่าว ยังไม่สามารถที่จะระบุเป้าชี้ชัดลงไปได้ อย่างที่บอกไว้ว่าต้องรอผลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในส่วนของตำรวจที่จะมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
เมื่อถามว่า ผู้ลงมือหวังผลทางการเมืองถึงขั้นไหน นายกฯกล่าวว่า ทำให้เกิดความระส่ำระสายขึ้น และลดความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ดำเนินงาน เราสามารถวิเคราะห์เบื้องต้นได้เพียงเท่านี้ เมื่อถามว่า จากการรวบรวมหลักฐานคิดว่าจะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐาน จะขอติดตามข้อมูลจากกอ.รมน.และสตช.ต่อไป
วอนประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้ประเด็นยังเป็นเรื่องผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากการที่ได้พูดในวันที่ 1 ม.ค. ได้ให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานและฟังข้อมูลจากส่วนราชการหลายๆด้าน เมื่อถามว่า จะมีการกำชับเจ้าหน้าที่ในการดูแลอย่างไรเพราะปัจจุบันมีการแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ต่างๆจำนวนมาก นายกฯ กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษตามที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปตรวจสอบในแต่ละจุด เราพร้อมรับข้อมูลและตรวจสอบ เพียงแต่ขอความร่วมมือจากประชาชนโดยเฉพาะตามแหล่งชุมชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า หรือสถานที่ที่ประชาชนไปอยู่รวมกันจำนวนมาก หากเห็นอะไรผิดสังเกตก็ขอให้แจ้งทันที
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดมั่นใจหรือไม่ว่าจะจับตัวคนร้ายได้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน วันนี้ตนยังไม่ได้รับข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเป็นเพียงการวิเคราะห์การใช้วัตถุระเบิด เวลา และสถานที่ที่วาง
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุว่าวัตถุพยานที่เคยพบและมีหลักฐานในการก่อความไม่สงบในภาคใต้ ยังไม่สามารถชี้ชัดหรือจับตัวคนร้ายได้ แต่ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงวันเดียว รัฐบาลกลับสรุปทันทีว่าเป็นเรื่องของผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดได้แต่เพียงว่าเราวางน้ำหนักไว้ว่าในส่วนของใครเท่านั้น แต่ไม่ได้ชี้ชัดในตัวบุคคล สื่อมวลชนเองต้องช่วยทำความเข้าใจตรงนี้ด้วย คิดว่าสื่อมวลชนคงไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมาอีก ถ้ามีสื่อใดคิดใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นการมองภาพในลักษณะที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มดังกล่าวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำตรงนี้และไม่ทราบข้อมูล คงต้องรับฟังข้อมูลจากาเจ้าหน้าที่ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีหน้าที่ที่จะไปตรวจสอบในเรื่องต่างๆ เพราะมีหน่วยงานที่ทำอยู่แล้ว
โกวิทเมินข่าวลือจะโดนปลด
ก่อนหน้านี้ เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบคดีระเบิด เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ที่ร.พ.ราชวิถี ร.พ.จุฬาฯ และร.พ.ตำรวจ โดยเข้าพูดคุยและมอบเงินช่วยเหลือคนละ 10,000 บาท
พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจและทหารระดมกำลังร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายด้วย ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งหากมีความคืบหน้าทางคดีตำรวจจะแจ้งพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคมช. รับทราบทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่าใกล้ได้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งดำเนินการอยู่ไม่ต้องห่วง เชื่อว่าสาเหตุที่คนร้ายเลือกก่อเหตุวันที่ 31 ธ.ค.เพราะเป็นวันที่คนออกมาเที่ยวมากจึงเลือกก่อเหตุ เมื่อถามถึงมีกระแสข่าวว่าจะถูกปลดจากตำแหน่งผบ.ตร. เนื่องจากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.อ.โกวิท ตอบว่า ?ไม่มี ไม่มีอะไร?
สนธิ-โกวิทเข้ารายงานแอ้ด
พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า สั่งการให้ตั้งพนักงานสอบสวนสอบรวมเหตุระเบิดเป็นชุดดียวกัน ส่วนเหตุที่จ.นนทบุรีนั้น เกิดในพื้นที่บช.ภาค 1 จึงแยกชุดพนักงานสอบสวนแยกออกไป แต่ได้ให้ประสานงานกันและสอบสวนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยเหตุผลที่ต้องแยกพนักงานสอบสวนเป็น 2 ชุด เนื่องจากคนละพื้นที่แต่ก็ประสานกันตลอด พยานหลักฐานชิ้นเดียวกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดความคืบหน้าในการสอบสวนได้ เนื่องจากผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)เป็นผู้ให้ข่าวแต่เพียงหน่วยเดียว
ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้มากที่สุด ทั้งในที่เกิดเหตุ และส่วนอื่นๆโดยรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ชัดเจนว่าจะเกี่ยวพันไปถึงผู้ใดบ้างแล้วส่งให้กอ.รมน. พิจารณาให้ข่าว ขณะนี้ว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มใด
เมื่อถามว่าจะนำสำนวนคดีระเบิดในกทม.หลายครั้งก่อนหน้านี้มาพิจารณาด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า คงแสวงหาพยานหลักฐานทุกทาง อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเราต้องเอามาพิจารณาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้รวบรวมมาได้ทั้งพยานบุคคล และนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งหมด ขณะนี้กำลังหาความชัดเจนของพยานหลักฐานที่มี
ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. พร้อมด้วย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ได้เดินทางเข้าหารือกับพล.อ.สุรยุทธ์ที่ห้องทำงาน ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที คาดว่าเป็นการมารายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เข้าหารือกับพล.อ.สุรยุทธ์ด้วย
ผบช.น.ตั้งทีมสืบสวนคลี่คดีบึ้ม
วันเดียวกัน พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. มีคำสั่งบช.นที่ 1 /2550 เรื่องแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2549 และวันที่ 1 ม.ค.2550 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดสถานที่สำคัญต่างๆทั่วกรุงเทพฯจำนวน 8 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บช.น.อาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 18 วรรค 4 แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนจำนวน 42 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รองผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รองผบช.น. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.จักรี ภู่พันธ์ศรี รองผบก.น.1 เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ รองผบก.น.2 เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.สุวิชญ์ อิ่มใจรัชต์ รองผบก.น.4 เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.ชาญ ชุณหวงศ์ รองผบก.น.5 เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผบก.ศูนย์สืบสวน บช.น. เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน ฯลฯ
ต่อมาพล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายสอบสวน พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รองผบช.น. ฝ่ายปราบปราม เรียกตัวแทนตำรวจฝ่ายสืบสวนในสังกัดบช.น.มาประชุมเพื่อวางแนวทางการทำงานและสรุปความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
แฉภาพวงจรปิดไม่ชัดเจน
พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวภายหลังประชุมว่า บช.น.มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน จำนวน 42 นาย โดยมีพล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รองผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเหตุร้ายแรง เกี่ยวกับความความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ โดยเบื้องต้นได้เรียกพยาน ซึ่งเป็นผู้เสียหายและได้รับบาดเจ็บเข้ามาสอบปากคำแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมาก เนื่องจากไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์โดยตรง ส่วนโทรทัศน์วงจรปิดที่ได้จากบริเวณที่เกิดเหตุภาพก็ยังไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถยืนยันผู้กระทำผิดและภาพสเกตช์ของคนร้ายที่ก่อเหตุได้ นอกจากนี้ในส่วนของบช.น.จะประชุมสรุปคดีและความคืบหน้าในทุกวันจันทร์
พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจที่ได้รับมอบหมายให้สอบสวนคดีนี้ แม้ว่าจะเป็นคดีสำคัญและมีความสลับซับซ้อน โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและขั้นตอนทางกฎหมาย นอกจากนี้ทางบช.น.ได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกองปราบ และบช.ภาค 1 เพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด
?สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุจะถูกแจ้งดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหลัก ประกอบด้วย ทำให้เกิดระเบิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้เสียทรัพย์สินทางราชการ ส่วนอีก 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ทางตำรวจจะแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยต้องขึ้นอยู่กับสถานที่เกิดเหตุ เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุบางแห่งไม่ใช่สถานที่ราชการ? รองผบช.น.กล่าว
สั่งคุมเข้มที่ราชการ-ที่สาธารณะ
พล.ต.ต.เจตน์ กล่าวว่า ส่วนวัตถุพยานที่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่าไออาร์เคนั้น เบื้องต้นยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะเกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 8 จุดหรือไม่ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษจะมีการเขียนมาก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสามารถพบได้ตามที่สาธารณะทั่วไป ทำให้ประเด็นตัวอักษรภาษาอังกฤษยังไม่มีน้ำหนัก
รองผบช.น. กล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกัน ขณะนี้ได้พิจารณาโดยนำแผนปฏิบัติการต่างๆ ที่บช.น.มีอยู่แล้วหรือแผนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินออกมาให้เป็นแนวทางปฏิบัติ โดยจะมีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานที่ราชการและที่สาธารณะที่มีประชาชนรวมตัวอยู่อย่างมาก เนื่องจากตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะทำการก่อเหตุลอบวางระเบิดขึ้นอีกครั้ง แต่ตำรวจก็ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยไว้อย่างรัดกุมแล้วเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
รายงานแจ้งว่า ในที่ประชุมฝ่ายสืบสวนของบช.น.ได้หยิบยกประเด็นเรื่องภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดขึ้นมาหารือ โดยฝ่ายสืบสวนประสานขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนต่างๆที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ เพื่อขอวิดีโอเทปภาพในวันที่เกิดเหตุมาตรวจสอบหาตัวผู้ต้องสงสัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณระหว่างหน้าบช.น.และหน้าวังปารุสกวันมีตำรวจนำกรวยจราจรมาตั้งไว้ตลอดแนว เพื่อป้องกันและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ง่าย หากมีวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้บริเวณนี้ นอกจากนี้หลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทั่วกรุงเทพฯจำนวน 8 จุด พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. สั่งการให้นำป้ายห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาวางไว้ทุกจุดขึ้นลงอาคารบริเวณชั้น 2 และ 3 ของบช.น.
?วินัย?เรียกเสธ.ไอซ์มาคุยจริง
วันเดียวกัน พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ต้องคอยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปและรายงานมา ซึ่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนหารือกับพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ว่าในวันที่ 3 ม.ค.นี้ ขอให้สรุปความคืบหน้าเพิ่มเติม เพื่อให้นายกรัฐมนตรี และประธานคมช.รับทราบโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบาะแสที่ตำรวจได้มาเกี่ยวพันกับบุคคลใดบ้าง พล.อ.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เมื่อถามถึงกรณีคมช.เชิญพล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ?เสธ.ไอซ์? ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และอดีตหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 10 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าพบ พล.อ.วินัย กล่าวว่า คงจะสอบถามจากทุกๆคน ที่เจ้าหน้าที่เห็นว่าน่าจะสอบถาม
ต่อข้อถามว่าแสดงว่าบุคคลที่เชิญมาน่าจะเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ พล.อ.วินัย กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ เมื่อถามว่าพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ เป็นบุคคลหนึ่งที่เชิญมาใช่หรือไม่ พล.อ.วินัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าได้ติดต่อประสานไปหรือยัง
โต้ข่าวลือคมช.คุมตัวบิ๊กจิ๋ว
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมาทหารเข้าควบคุมตัวพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ พล.อ.วินัย กล่าวว่า ?ไม่จริง เรื่องนี้เป็นข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ เรายังไม่เคยพูดถึงเลย? เมื่อถามว่าพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. ระบุว่ามีผู้ลงมือก่อเหตุอยู่ในหมู่บ้านชัยพฤกษ์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.วินัย กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่จากที่นายกฯ และประธานคมช. ระบุว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งมาจากการประเมินทางด้านหน่วยข่าวทั้งหมด เพราะรายงานให้ทราบอย่างนั้น ซึ่งเป็นไปตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้เหตุและประเมินสาเหตุให้ทราบ
ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีการติดตามสถานการณ์อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก พล.อ.วินัย กล่าวว่า คงต้องเข้มงวดกันมากขึ้นเรื่องงานมวลชน โดยเฉพาะประชาชนทุกหมู่เหล่า คงต้องช่วยกันร่วมมือ สังเกตและให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ เพราะกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ทำอย่างนี้ส่งผลเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งเรื่องความสงบเรียบร้อยในสังคมและความเชื่อมั่นของต่างชาติ
เมื่อถามว่าการจัดงานวันเด็กที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไร พล.อ.วินัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพิจารณากันอยู่ว่าจะวางมาตรการป้องกันอย่างไร คมช.ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ส่วนทางทหารเตรียมพร้อมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา
ชี้แม้วมีสิทธิออกมาปฏิเสธ
เมื่อถามว่าขณะนี้สามารถตัดประเด็นความเชื่อมโยงกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ พล.อ.วินัย กล่าวว่า ไม่ได้ตัด ทางหน่วยข่าวที่ประเมินจากสภาพแวดล้อมต่างๆและหลักฐานข้อมูลที่มียังไม่ได้ตัดประเด็นภาคใต้จนเป็นศูนย์ แต่ประเด็นผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าประเด็นอย่างอื่น ซึ่งเป็นการประเมินในเบื้องต้น
ต่อข้อถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น พล.อ.วินัย กล่าวว่า ?ใครๆก็ชี้แจงได้ทั้งนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยที่อาจจะพาดพิงไปถึงใคร ก็มีสิทธิที่จะออกมาพูดอย่างไรก็ได้? เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณระบุว่ารัฐบาลและคมช.รีบออกมาด่วนสรุปประเด็นการก่อเหตุเร็วเกินไป พล.อ.วินัย กล่าวว่า คงไม่ใช่รัฐบาลและคมช. แต่เป็นรายงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะนายกฯฟังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และการสรุปจากผู้ที่มีหลักฐาน เบาะแส มีวิธีคิด และแนวคิด ที่จะคิดว่าแนวโน้มน่าจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่สัญลักษณ์ IRK ที่พบบริเวณจุดเกิดเหตุและทั่วกทม.หลายจุด พล.อ.วินัย กล่าวว่า ?กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ และมีคนออกมารับแล้วว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย? เมื่อถามว่าจะให้เวลาตำรวจสรุปคดีนี้นานเพียงใด พล.อ.วินัย กล่าวว่า ในอดีตเราเห็นอยู่ว่าเมื่อให้เวลาไปเขาก็ทำไม่ได้ ตนคิดว่าอย่าไปกดดันเจ้าหน้าที่ ควรให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่มี
?อยากเรียนว่าอย่าไปใจร้อน กดดัน เพราะคดีลักษณะเช่นนี้ในอดีตที่ผ่านมาเคยจับใครได้บ้าง ดังนั้น คงต้องใจเย็น และขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ประชาชนที่ทราบเบาะแสควรให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะไปพิสูจน์ทราบเองว่าเบาะแสเหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะบางทีอาจจะมีการแกล้งกันก็ได้ เช่นเมื่อวานนี้มีโทรศัพท์เข้ามาป่วนจำนวนมาก ซึ่งพวกนี้จิตวิปริตชอบเห็นบ้านเมืองอยู่ในความวุ่นวาย และชอบเห็นประเทศชาติตกอยู่ในความเสียหาย? ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าว
แม้วยังดิ้นกลับเมืองไทย
บ่ายวันเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงจดหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ กรณีการชี้แจงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในกทม.ว่า หลังจากที่ตนนำจดหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน ได้โทรศัพท์หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณมองว่า มีความจำเป็นต้องชี้แจงต่อประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเมื่อได้ชี้แจงจดหมายเชื่อว่าประชาชนจะเชื่อในสิ่งที่ได้ชี้แจง พร้อมกันนี้พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ พร้อมกับติดตามข่าวในประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การกลับเข้าประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นกับข้อกล่าวหา แต่จะหารือกับผู้มีอำนาจก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณทำจดหมายชี้แจง ทางคมช.และรัฐบาลได้ติดต่อถึงพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูล แต่อยากให้คมช.และรัฐบาลได้การหารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อลดความหวาดระแวงต่อกัน เพราะคำว่าสมานฉันท์ต้องเกิดจากการกระทำไม่ใช่แค่คำพูด และควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย อย่ากล่าวหาโดยไม่มีข้อมูล
ทรท.ท้า?แอ้ด-คมช.?สาบาน
ที่พรรคไทยรักไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย แถลงว่า ในวันที่ 12 ม.ค.พรรคจะมีพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสปีใหม่ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ในวันดังกล่าวพรรคจะนำสำเนาจดหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค ฉบับชี้ตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ระบุทำนองว่า เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในกทม.ที่ส่งมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.มาแจกจ่ายให้กับสมาชิกพรรคและจะกระจายไปทั่วประเทศ
นายจตุพร กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ และคมช. กล่าวคำสาบานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด เพื่อสร้างสถานการณ์กลบข่าวปัญหาการถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ของพล.อ.สุรยุทธ์ และปัญหาทะเบียนสมรสซ้อนของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคมช. รวมถึงข่าวงบฯลับ 1 พันล้าน ที่ใช้สำหรับการรัฐประหาร คมช.กำลังใช้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเครื่องมือ เพื่อต่ออายุให้ตัวเองอยู่ในอำนาจนานขึ้น โดยไม่ใช้วิธีแก้ไขปัญหาให้ประเทศ
?ขอเตือนว่าเวลานี้ประชาชนเฝ้าดูอยู่ หากคมช.ใช้วิธีรังแกฝ่ายตรงข้าม ใช้ศาลเตี้ย กล่าวหาเขาลับหลัง พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาต่อสู่คดี คมช.ก็ห้ามเข้าประเทศ จึงขอถามว่าคมช.ยังเป็นคนอยู่หรือไม่? นายจตุพรกล่าว
เติ้งติงคมช.-รัฐบาลไม่เด็ดขาด
นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ นายทะเบียนพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า นายกฯ ควรจะพูดความจริงกับประชาชน ไม่ใช่ออกมาพูดเพื่อกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เรื่องนี้ขอเรียกว่าไม่ใช่มืออาชีพ เพราะยังไม่ทันค้นหาความจริง ก็โยนความผิดให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไร้คุณธรรม เช่น การระเบิดรถไฟใต้ดินที่ลอนดอน สิ่งแรกที่ผู้นำของอังกฤษทำคือ บอกความจริงกับประชาชน ไม่ใช่โกหกมดเท็จ เพื่อหวังประโยชน์ส่วนตัว
ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงเหตุวางระเบิดในกทม.หลายจุดว่า ตนขอประณามคนที่ทำว่ามีจิตใจเหี่ยมโหดทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทำลายประเทศชาติทางอ้อม ทำให้ความน่าเชื่อต่อชาวต่างประเทศลดลง คนไม่มาท่องเที่ยว คนที่ทำต้องมีผู้บงการอย่างแน่นอน โดยผู้บงการต้องเป็นคนที่รอบรู้ เชี่ยวชาญทางด้านระเบิด ไม่อย่างนั้นคงกำหนดจุดไม่ได้ว่าลูกไหนวางตรงไหน จะระเบิดเมื่อไหร่ ส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่ หรือเหตุเกิดเพราะอะไรคงเดายาก อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวน และหาสาเหตุให้ได้ แต่เท่าที่ดูตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ขึ้นมาดำเนินการ เพราะถ้าทำคงทำตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว คงไม่ปล่อยให้มาถึงรัฐบาลนี้
?จะเป็นฝีมือของกลุ่มไหน รัฐบาลและคมช.ต้องรีบดำเนินการ ผมขอติงรัฐบาลว่าไม่ฉับไว อ่อนไป หรืออาจจะดีมากเกินไป ต้องทำงานให้เร็ว เข้มแข็ง และเด็ดขาดกว่านี้ ผมเป็นห่วงในปีนี้ว่าเหตุการณ์มันจะไม่หยุดเพียงเท่านี้จะมีการลองของไปอีก จะต้องมีมาตรการที่กระชับและป้องกันให้ได้? นายบรรหารกล่าว
กลัวคนหมั่นไส้เพราะเชียร์คมช.
นายบรรหาร กล่าวอีกว่า พูดถึงตำรวจในการเข้าคลี่คลายปัญหาต่างๆ นั้นรู้สึกหนักใจ เพราะหลังจากมีรัฐประหาร มีการเผาโรงเรียนและสถานที่ราชการหลายแห่ง แต่ไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้เลย บางทีเหมาว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ดังนั้น ตำรวจต้องเข้มแข็งกว่านี้ ในยามภาวการณ์ที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม 2 วันมานี้ตนไม่เห็นหน้าพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เลย ทั้งออกมาให้สัมภาษณ์หรือลงพื้นที่เกิดเหตุ มีแต่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนเดียว ตนไม่รู้ว่าท่านไปอยู่ที่ไหน ไม่เข้าใจว่าบ้านเมืองเรามีผบ.ตร.หรือไม่ หรือถูกยุบไปแล้ว คนอื่นลงพื้นที่ไปดูพื้นที่กันหมด ผู้ว่าฯกทม.ก็ลงไปทุกจุด แต่ผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบบช.น.และบช.ก.กลับไม่รู้อยู่ที่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นยังไม่ถึง 24 ช.ม. แต่รัฐบาลและคมช.ระบุสาเหตุน่าจะมาจากกลุ่มอำนาจเก่าเสียประโยชน์ทางการเมือง ถือเป็นการด่วนสรุปหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คงจะตอบไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่เหตุทางภาคใต้ก็ต้องเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งวางแผน ไม่เช่นนั้นจะระเบิด 8-9 จุดได้อย่างไร แสดงว่าวางแผนไว้อย่างดีเยี่ยม ตนเชื่อว่าเป็นกลุ่มแน่ แต่จะเป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่คงให้ความเห็นไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเขียนจดหมายชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นายบรรหาร กล่าวว่า ท่านอยู่ต่างประเทศเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นธรรมดาที่ต้องชี้แจงมาว่าไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง ใครจะมาชี้แจงว่าเกี่ยวข้องคงเป็นไปไม่ได้ เราต้องเชื่อท่านไว้ ตนก็อยากรู้ว่าใครทำ แต่ตนเชื่อว่าใครทำบาป ใครทำกรรมไว้ บาปกรรมต้องตอบสนองคนที่สั่งทำแน่นอน ตอนนี้ตนก็หวาดเสียว ได้สั่งเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังคอยตรวจตราให้ดี โดยเฉพาะถังขยะ เพราะตนยิ่งชอบเชียร์คมช.อยู่ ไม่รู้ว่าเชียร์มากไปคนจะหมั่นไส้เอาหรือเปล่าก็ไม่รู้
จวกบิ๊กจิ๋วพูดกลับไปกลับมา
ต่อข้อถามว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นต้นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย นายบรรหารกล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองมีแน่นอน หนีไม่พ้น เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จะหาข้อยุติได้ก็คือรัฐธรรมนูญเสร็จและมีการเลือกตั้ง ตราบใดที่ไม่มีรัฐธรรมนูญ ไม่มีการเลือกตั้ง เหตุการณ์ก็จะเป็นแบบนี้ตลอด ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดี
นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้สัมภาษณ์ว่านายบรรหารและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชอบออกมาสนับสนุนคมช.อยู่เรื่อยๆ ถือว่าเป็นคนใช้ไม่ได้นั้น ว่า ตอนนี้ตนกลายเป็นคนใช้ไม่ได้ในสายตาพล.อ.ชวลิตไปแล้วหรือ พูดเช่นนี้ทำให้เกิดความแตกแยกในพวกเรากันเอง ทั้งที่ควรต่อสู้ในเรื่องประชาธิปไตยดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมาตนมีจุดยืนตลอด และคิดว่าจะหาสิ่งที่ดีกว่านี้ในตอนนี้คงไม่มีหรอก ถ้ามีการก่อความวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าอนาคตการเมือง ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ดังนั้น เมื่อมีคมช.อยู่ตรงนี้เราก็ควรให้กำลังใจรัฐบาล และคมช.ทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 1 ปีออกรัฐธรรมนูญมาให้ได้ก็ถือว่าจบ จะมาต่อสู้กันเองจะไม่ดี
หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวด้วยว่า หากมองสิ่งที่พล.อ.ชวลิตพูดอย่างที่เคยบอกว่าจะมีปฏิวัติซ้อน แต่อีกวันกลับบอกว่าไม่ได้พูด หรืออย่างกรณีโบกี้รถไฟของนายกฯ ที่เขายายเที่ยง วันหนึ่งก็บอกว่าไม่ทราบ ไม่รู้ พออีกวันก็บอกว่าที่พูดเรื่องนี้เพื่อต้องการเตือนนายกฯ ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ไม่รู้ว่าทำไมพล.อ.ชวลิตพูดวันนี้อย่าง พรุ่งนี้อีกอย่าง
?ผมเป็นคนมีจุดยืน ไม่พูดจาเหลาะแหละเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตอนนี้อายุก็มากแล้ว 70 กว่า ก็ไม่รู้จะอยู่ไปได้สักกี่วัน ขณะนี้ก็มีหลายคนเตือนผมอย่าพูดมาก เพราะพูดมากไปแล้ว? นายบรรหารกล่าว
สั่งสอบเส้นทางเงินผู้บงการ
ที่กระทรวงยุติธรรม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เชิญผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกรณีเหตุวางระเบิดเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังประชุมว่า ปลัดกระทรวงยุติธรรม ซักซ้อม 2 เรื่องสำคัญ 1.ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเร่งรัดการจ่ายค่าทดแทนให้กับผู้เสียหายจากเหตุระเบิดให้เรียบร้อย รวมถึงผู้บาดเจ็บชาวต่างชาติ โดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้นำเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าอากาศยานอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มาเทียบเคียงกรณีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากอาชญากรรม ผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าทดแทน 100,000 บาท แบ่งเป็นค่าปลงศพ 20,000 บาท ค่าทดแทนการเสียชีวิต 50,000 บาท และค่าขาดไร้อุปการะ 30,000 บาท สำหรับผู้บาดเจ็บแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ บาดเจ็บเล็กน้อย จ่ายค่าทดแทน 10,000 บาท ผู้บาดเจ็บที่ต้องพักรักษาตัวในร.พ. 20,000 บาท และผู้พิการ 30,000 บาท
นายธงทอง กล่าวอีกว่า ปลัดกระทรวงยุติธรรมยังมีคำสั่งขยายเวลาเปิดศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรมตลอด 24 ช.ม. โดยประชาชนสามารถโทรศัพท์แจ้งเบาะแสข้อมูลต่างๆ ได้ที่หมายเลข 0-2502-6500
ด้านนายจรัญ กล่าวว่า ในเวลา 14.00 น.วันนี้ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม จะเป็นประธานประชุมทุกส่วนราชการในกระทรวง เพื่อระดมข้าราชการและเครือข่ายยุติธรรมชุมชน และอาสาสมัครจากทุกส่วนให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตารายงานข้อมูลป่วนเมืองทุกรูปแบบ หลังจากนี้จะต้องช่วยกันกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักว่ามีคนไม่รับผิดชอบ ไม่คำนึงถึงอะไรนอกจากประโยชน์ส่วนตัวปะปนอยู่ในสังคม ประชาชนจึงต้องช่วยกันแจ้งเบาะแสเพื่อลดพื้นที่ว่างและโอกาสที่คนร้ายจะใช้ก่อกวน ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่นำมาสนับสนุนการก่อวินาศกรรม กฎหมายฟอกเงินให้อำนาจยึดอายัดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด แต่ยังไม่สามารถจัดการกับเงินที่ได้มาอย่างถูกต้องแต่ใช้เพื่อสนับสนุนการกระทำผิด โดยกระทรวงยุติธรรมจะเรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาประชุมในวันที่ 5 ม.ค. เพื่อแก้ไขนิยามคำศัพท์ ของทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงินให้ครอบคลุมถึงทรัพย์ที่มีไว้หรือใช้เพื่อกระทำความผิดมูลฐาน โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาพร้อมกับการแก้ไขเพิ่มเติมมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
เน้นให้ติดกล้องทั่วกรุงเทพฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่าในที่ประชุมครม.ได้มีการหารือกันถึงกรณีที่มีผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่กทม.เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ทางพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. เป็นผู้พิจารณามาตรการในการป้องกัน และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยได้หารือลงในรายละเอียดเรื่องการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี ในพื้นที่สาธารณะของกทม. โดยรมต.หลายคนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากเนื่องจากหลายหน่วยงานมีระบบโทรทัศน์วงจรปิดใช้กันอยู่แล้ว เช่น กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม ซึ่งปัญหาที่พบส่วนใหญ่พบว่ากล้องทำงานบกพร่องและเสียอยู่ อีกทั้งการซ่อมแซมนั้นอะไหล่ค่อนข้างแพง
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะได้ดำเนินการประสานกับทางกอ.รมน.เพื่อดำเนินการแก้ไขกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่มีอยู่ในปัจจุบันและทำการจัดซื้อเพิ่มเติมให้ครอบคลุมในหลายๆ จุดในกทม. ดังนั้นการติดตั้งระบบในการป้องกันนี้ถือเป็นมาตรการป้องปราม จึงจะมีการดำเนินการอย่างเต็มที่และเร่งด่วน นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือแจมเมอร์ ซึ่งที่ผ่านมามีการสั่งซื้อจากต่างประเทศในราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นหากประเทศไทยสามารถผลิตได้เองก็จะมีราคาที่ถูกลง ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีรายงานว่าแจมเมอร์ที่สามารถผลิตในประเทศไทย ก็สามารถกันในระบบซีดีเอ็มเอได้ จึงจะได้มีการหารือเพื่อผลิตเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์กันเพิ่มเติมต่อไป
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.หารือกันอย่างจริงจังถึงเรื่องดังกล่าวโดยใช้เวลาคุยกันถึง 2 ชั่วโมงโดยเฉพาะเรื่องทีวีวงจรปิดที่ขาดการซ่อมบำรุงและขาดงบประมาณในการซ่อมบำรุง เพราะเราไม่มีบุคลากรที่เตรียมการทางด้านนี้ไว้ก่อน ซึ่งกระทรวงไอซีทีพร้อมที่จะลงไปดำเนินการแก้ไขและจัดซื้อเพิ่มเติมโดยจะพิจารณาให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในจุดที่จะติดโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมนั้นในครม.ได้พูดคุยกันว่าควรจะเป็นตามสี่แยกต่างๆ จุดสาธารณะต่างๆ แต่ในส่วนของรายละเอียดนั้นจะต้องประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกครั้ง ส่วนกรณีการติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือหรือแจมเมอร์นั้นเชื่อว่าไทยเราจะสามารถพัฒนาเพื่อผลิตเองได้เพราะนำเข้ามีราคาสูงมาก
ยังให้ทหารคุมเข้มสุวรรณภูมิ
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม ได้รายงานต่อที่ประชุมครม.ถึงการจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยคมนาคมขึ้นและได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยสถานที่และดูแลประชาชนโดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ สถานีขนส่งสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก และท่าอากาศยานต่างจังหวัด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจตามสถานที่ต่างๆอย่างเคร่งครัด โดยพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะประธานบอร์ดสนามบินสุวรรณภูมิ ได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยด้วยการส่งกำลังทหารเข้าดูแลพื้นที่บริเวณสนามบินมากยิ่งขึ้น
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข ได้รายงานให้ที่ประชุมครม.ได้ทราบถึงความล่าช้าในการลำเลียงผู้บาดเจ็บไปสู่โรงพยาบาลในช่วงเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ดังนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังจะเสนอพ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน หรือเรียกชื่อย่อว่าพ.ร.บ.อีเอ็มเอส เพื่อทำให้การบริหารจัดการเรื่องการแพทย์ฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีการตั้งศูนย์รับเรื่องราวเป็นหมายเลขโทรศัพท์ 3 ตัวและเป็นเพียงเบอร์เดียวที่จะรับเรื่องราวฉุกเฉินเพราะปัจจุบันมีหลายเบอร์ ซึ่งจะถือโอกาสนี้รีบบูรณาการหน่วยงานต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้เบอร์โทรศัพท์หมายเลขเดียวดังกล่าวสามารถได้รับรายงานทั้ง อาชญากรรม ไฟไหม้ เจ็บไข้ได้ป่วย
เสนอให้งดจัดงานวันเด็ก
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นาทีนี้ไม่ควรเป็นการออกมาพูดจา ตอบโต้กันแต่อย่างใดเพราะยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน รวบรวมข้อมูล ดังนั้น เชื่อว่าถ้าเรานิ่งๆ และรอเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเขาสอบสวน ให้ตำรวจทำหน้าที่แล้วค่อยมาดูกันว่าใครอยู่เบื้องหลังอย่างนั้นจะดีกว่า ดังนั้นการจะออกมาแสดงท่าที ความคิดเห็นต่างๆ ในส่วนของอดีตรัฐบาล ตนขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่าตอนนี้เราควรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไป เราก็อยู่นิ่งและดูสถานการณ์น่าจะเหมาะสมกว่า และเป็นสิ่งที่ดีที่มีคำชี้แจงจากอดีตผู้นำรัฐบาลว่าท่านจงรักภักดีและท่านไม่ทำร้ายประชาชน ดังนั้น อยากให้ทุกคนมาร่วมมือผนึกกำลังกัน และหาตัวกันว่าคนที่กระทำผิดแท้จริงคือใคร
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับกรณีการจัดงานวันเด็กก็ได้พูดคุยถึงความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยโดยนายกฯ ได้ฝากว่าเรื่องการจัดโดยหน่วยราชการต่างๆ ขอให้ใช้พื้นที่ของหน่วยราชการเองเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่ โดยทางกระทรวงกลาโหมพร้อมสนับสนุนเรื่องกำลังพลในเรื่องการดูแลความปลอดภัยเสริมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลอยู่แล้วและมีกอ.รมน.เป็นหน่วยงานกลางที่คอยดูแลและประสานงานเป็นสำคัญ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในเบื้องต้นจากการหารือของผู้อำนวยการกอง และหัวหน้าสำนักงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ของทำเนียบรัฐบาลนั้น มีความเห็นว่าสำหรับงานวันเด็กในปีนี้ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.นั้นทางทำเนียบรัฐบาลไม่ควรมีการจัดงานวันเด็กขึ้น เนื่องด้วยเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นสำคัญ เพราะแม้แต่หากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในบริเวณโดยรอบหรือรอบนอกทำเนียบก็ตามคงไม่ใช่เหตุที่ดีนัก และยิ่งถ้าเกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้นจริงกับเด็กที่มาเที่ยวงาน จนสร้างความแตกตื่น หรือเกิดมีการบาดเจ็บกันเกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ดังนั้น จึงเห็นว่าในปีนี้ทำเนียบไม่ควรจัดงานวันเด็ก แต่อย่างไรก็ตาม คงจะรายงานความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าวให้ที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมจัดงานวันเด็กของส่วนราชการต่างๆ อีกครั้ง โดยที่ประชุมดังกล่าวมีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
บิ๊กจิ๋วก็โวยกลายเป็นแพะ
บ่ายวันเดียวกัน ที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กทม. เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. โดยก่อนการสัมภาษณ์นั้น พล.อ.ชวลิตได้กล่าวย้ำว่าต้องสัญญาก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตามสัญญาถึงจะให้สัมภาษณ์ คือต้องเอาไปออกทุกตัวอักษร ทุกคำพูดเลยจะได้รู้กันของดีๆ ไม่เอาไปออกจะเสียดาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา รู้สึกอย่างไรบ้าง พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่ทราบว่าไปเชื่อมโยงกันได้อย่างไร จึงไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น เป็นแต่เพียงว่าเป็นลักษณะประจำอยู่แล้ว ปกติจะเป็นอย่างนี้ เมื่อหาอะไรไม่ได้ก็จะต้องมีเหตุ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็จะต้องมาลงที่ตัวใช่มั้ย ดังนั้น จะต้องหาเหตุว่าคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ก็จะเป็นลักษณะอย่างนี้เป็นการประจำ โดยเฉพาะพวกมือใหม่ เขาเรียกว่าพวกมือใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ และไม่ค่อยเข้าใจต่อปัญหาต่างๆ ก็จะเป็นอย่างนี้ โดยหาไปเรื่อยว่าคนโน้นเป็น คนนี้มั้ง คนนั้นมั้งก็ว่ากันไป
โต้หมดทั้ง?โบกี้-คมช.ไม่อวยพร?
เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ทำให้ต้องเชื่อมโยงมาถึงตัว พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ก็ไม่ทราบ มันก็เป็นมาตั้งแต่โน้นแล้ว อย่าไปโทษเขาเลย คมช.หรือรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มันทีหลังนะ โน้นมันเชื่อมโยงมา ตั้งแต่ปราบคอมมิวนิสต์ จนมาถึงรุ่นหลังๆ ก็ได้ สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เหมือนกัน ท่านทักษิณก็ยังบอกตรงๆ เช่นกรณีที่เรารับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ และท่านทักษิณก็เอาตนออกจากตำแหน่งหน้าที่นี้ แต่ท่านก็บอกตรงๆ ว่าเป็นเพราะว่ามีคนบอกว่าพี่จิ๋วฝักใฝ่มุสลิม เราก็เตือนแกแล้วบอกว่าระวังนะจะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตนก็เจอเรื่องแบบนี้มาตลอด มายุคนี้ก็เจออีก ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอะไรเขาจึงคิดอย่างนั้น
?เขาบอกว่าเราอยู่เบื้องหลัง อะไรคือสิ่งบอกเหตุ ต้องพูดมา ถ้าไม่พูดเราก็ไม่รู้ จะไปว่าเราเป็นคนไปทำให้เขาเดือดร้อน เดือดร้อนอะไร เช่นไปว่าเขาว่าเป็นทหารไปอยู่รัฐวิสาหกิจทำไมอย่างนี้ก็ผิด ผมบอกหลายทีแล้วว่าให้ไปฟังเทปดู หรือไปถามคนที่รู้เรื่องไปจับข่าวอะไรก็ไม่รู้มาพูดจา หรือไปว่าเขาเรื่องโบกี้รถไฟเหมือนกัน จะต้องไปหาคนที่รู้เรื่อง ไปถามคนไม่รู้เรื่องก็อย่างนี้ หรืออยู่ดีๆ ก็มาบอกว่าโกรธ เนื่องจากว่าตัวเองไม่มาอวยพร ก็รู้อยู่แล้วว่า เราไม่เคยให้ใครมาอวยพร เคยสั่ง เคยบอกทุกครั้ง มีอำนาจทุกครั้งก็บอกว่าเอ็งไม่ต้องมากันนะ เอาแต่การ์ดมาใบเดียวก็พูดกันมาตลอด ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้เรื่อง?พล.อ.ชวลิตกล่าว
ท้าลั่นคมช.ให้เอาหมายมาจับ
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันระหว่างคมช.และรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ก็ยังไม่รู้ว่าเขาคิดกับเราอย่างไร อย่างเช่นบอกว่า เราอยู่เบื้องหลังใครพูดมาซิ อยากให้มาหาหน่อย เอาหมายมาด้วยก็ดี จะได้มาจับกัน จะได้ว่ากันไปเลย เอากระบวนการทางศาลมาเลยก็แล้วกัน เราทำงานอะไรมาตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่สมัยพวกนี้ยังไม่หย่านมแม่เลย เรารับผิดชอบแผ่นดินมา และทำมาจนถึงปานนี้แล้ว ศักดิ์ศรีก็มี ถึงแค่นี้แล้ว คนได้รับเหรียญรามา ถวายสัตย์ปฏิญาณดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโบสถ์วัดพระแก้ว มีใครบ้างที่จะได้รับอย่างนี้มากกี่คน น้อยคนก็รู้กันอยู่ แล้วทำได้อย่างไร เขาผ่านงานมาตั้งเยอะแยะ แสดงถึงความอ่อนด้อยในการปกครอง ความไร้ประสิทธิภาพในการปกครอง การไร้ซึ่งประสบการณ์ในการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นทหารทำไมในเมื่อไม่รู้ว่างานการข่าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ทำไมข่าวเก่งนักล่ะ โอ๋แป๊บเดียวรู้แล้วว่าใครอยู่ข้างหลัง ทำไมไม่จับแม่งให้หมดเสียล่ะจะปล่อยไว้ทำไม
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการด่วนสรุปแล้วเกินไปหรือไม่ เมื่อรัฐบาลและคมช.ว่าเป็นผู้สูญเสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นคนก่อเหตุระเบิด พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า มันก็อย่างนี้ตลอดเวลา ก็บอกแล้วว่าชอบทำแบบนี้ กลัวว่าเขาจะว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่รู้ สพรั่งบอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นรู้หมด รู้มาแล้วเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้ไม่ได้สักรายเลย ก็แสดงว่าตัวเองไม่เห็นความสำคัญ หรือไม่เข้าใจในเรื่องงานข่าวกรอง ซึ่งไม่ใช่ข่าวเละเทะอย่างทุกวันนี้ มันจะต้องเป็นข่าวที่ลึก คุณทักษิณก็เชื่อข่าวอย่างนี้มาทีหนึ่งแล้ว ก็มีปัญหา มาครั้งนี้ก็ซ้ำรอยอีกแหละ มันเป็นแบบนี้ ฉะนั้นใครขึ้นมาเป็นใหญ่ ใครเป็นศัตรูกับตัวก็ยันไปเลยนะ
อ้างต่างชาติยังรู้?ทำกันเอง?
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในช่วงนี้ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า มันล้าหลังไปหมดแล้ว มันฉุดไม่ไหวแล้วแย่ ต่างชาติเขาว่ากันอย่างไรรู้มั้ย ต่างชาติเขาบอกว่า มันทำกันเอง นี่เขาพูดนะ ไอ้เราก็โกรธ และยังนึกเลยว่าไปโกรธแทนเขาทำไมนี่ รู้อย่างนี้อัดซ้ำเข้าไปอีก แต่ก็โกรธมันก็เพราะเป็นน้องเรา เห็นแก่กองทัพ กองทัพของเรา เขาว่านะ ก็บอกให้ไปบอกด้วยว่า เขารู้กันแล้วว่าใครเป็นคนทำเพราะมันมีเทปอยู่ ไปขอเทปเขาดูซิ ถ้ายังไม่รู้ว่าที่ไหนมีเทปก็บ้าแล้ว ปกครองบ้านเมืองกันแบบนี้
เมื่อถามว่า ท่านเชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ประเทศไทยตกเป็นเป้าในการสร้างสถานการณ์เช่นนี้อีก พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่ได้ตกเป็นเป้าใครหรอก ทำกันเอง ตัวเองทำกันเอง คนในประเทศไทยทั้งนั้น คนไทยทำกันเอง ใครจะมาทำเราได้ เมื่อถามว่าน่าจะมีความขัดแย้ง หรือไม่พอใจในลักษณะไหนถึงได้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ก็อย่างว่า คือว่า ผู้ปกครองไม่มีขีดความสามารถในการปกครอง ต้องอยู่ใต้การปกครอง แต่ประชาชนไม่ยอมให้ปกครอง ก็มีปัญหาอย่างนี้ทุกยุคทุกสมัยมันเป็นแบบนี้มา
แนะรีบคืนอำนาจให้ป.ช.ช.
เมื่อถามว่ามียุทธวิธีในการดูแลอย่างไรในฐานะที่มีประสบการณ์ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่มียุทธวิธี หรือรูปแบบฉบับ ในเรื่องการเมืองการปกครองที่สำคัญ คือเรื่องการเมือง หรือให้อำนาจกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ปกติถ้าอำนาจก็เหมือนของประชาชนเลย อย่าไปแย่งชิงให้มาอยู่นานนัก เอามาเพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราวก็เห็นด้วย เสร็จแล้วก็จะต้องคืนให้เขา ปกติน่าจะใช้เวลาสัก 20-30 วัน ก็คืนให้เขาได้ มันสามารถทำได้ ขี้คร้านเขาจะยกย่องชมเชยเราเสียอีก ฉะนั้น ปัจจัยเวลาในเรื่องการคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นเรื่องหลัก ยิ่งขืนอยู่นานจะยิ่งตาย จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกับคนอื่นเขาอีก ก็จะเหมือนกันจะต้องระวังให้ดี นี่เป็นเรื่องของความเป็นจริง มันง่ายๆ แบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้วิเคราะห์การเมืองในช่วงปี 2550 ที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาชี้แจงในเรื่องคดียุบพรรคจะเป็นส่วนปะทุความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่ทราบหรอก แต่ถ้าหากว่าได้แสดงให้พี่น้องให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์แน่นอนพูดกับท่านเถอะ ประชาชนรับฟังทั้งนั้นยกย่องผู้ปกครองเสมอ คนไทยไม่มีใครไม่ยกย่องผู้ปกครอง เมื่อถามว่ามีโอกาสจะกลับมาสร้างศักยภาพ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ทำให้ดีซิ ความเป็นจริงวันนี้ มันถลำลึกไปมากแล้ว เสียหายมาตลอดทุกเรื่อง ฉะนั้น จะต้องแก้ไขด้วยตัวเองเสียใหม่ เอาประชาชนมาช่วยให้มากๆ จำไว้ให้ดีแก้อันไหนไม่ได้ให้ประชาชนแก้เถอะเขาทำได้ ตนทำเรื่องการประชุมเอเปค ที่รับผิดชอบอยู่ ประมาณ 5-6 วัน ไม่มีสักแอะใช่มั้ย แม้แต่ตึงตังรถชนก็ไม่มี ประทัดสักนัดก็ยังไม่มี มากันไม่รู้กี่สิบชาติที่เข้าร่วมประชุม
ย้ำให้ไปดูเทป-จะรู้ว่าใครทำ
เมื่อถามว่า มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในประเทศ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า แน่นอนมันจะไปอยู่ไหนล่ะ เมื่อถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า อันนี้ไม่ใช่ประเทศไทยหรือหนู เวลาหนูเป็นไข้ขึ้นมาทันที ไข้ตัวร้อนจะตายเอา เขาก็จะต้องดูว่าหนูเป็นอะไรก่อนในขณะนี้ ภาคใต้ก็เหมือนแผลอันหนึ่งที่อยู่ในตัวเรา คนก็จะต้องตรวจกันก่อน ไม่ใช่ว่าดูตรงนี้อย่างเดียว หมอก็จะต้องตรวจที่อื่นด้วย ใช่หรือเปล่า ถ้าเผื่อว่าคนบอกว่าเอาเขาไปพาดพิงทำไม ก็มันเป็นแบบนี้ ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แต่จะบอกให้ว่ามาถามกันทำไมเวลานี้ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าใครทำ วันนี้รู้อยู่แล้ว นี่ก็บอกว่าให้ไปหาเทปดู
เมื่อถามว่าความเคลื่อนไหวมีการเชื่อมโยงประเด็นทางการเมืองทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ใครพูดยังไม่ได้บอกเลย เมื่อถามว่าผบ.ทบ.เป็นคนระบุว่ากลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นผู้ก่อเหตุ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามเขา ยังไม่รู้เลยว่า การเมืองจะมายุ่ง
เมื่อถามว่าน่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเฉพาะพลังคลื่นใต้น้ำ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า การเมืองของท่านทั้งหลายหมายความอะไร เมื่อถามว่าผู้สูญเสียอำนาจเป็นคนกระทำ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า สูญเสียอำนาจก็จะต้องออกมาต่อต้านธรรมดา แต่วิถีทางในการต่อต้านเขาก็จะต้องมี นึกออกมั้ย เขาต่อต้านไปและเสียมวลชน มหาชนเขาจะทำเหรอ คนที่ทำอะไรโดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนอะไรต่างๆ มันทำได้อย่างไร มันไม่มีหรอก ฉะนั้นก็ต้องระวังให้ดี ต้องแก้ตัวให้ดีด้วย เพราะมีคนพูดกันอย่างนั้นว่าทำเอง ฉะนั้นจะต้องระวัง ต้องไปดู
เสธ.หมึกโต้โดนเรียกสอบ
ด้านพล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ หรือเสธ.หมึก นายทหารคนสนิทของพล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกฯให้คนใกล้ชิดโทรศัพท์มาสอบถามว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน ว่าจริงๆ แล้วยังงงว่าเรื่องแบบนี้หลุดออกไปได้อย่างไร ได้คุยกันและถามสารทุกข์สุกดิบ อวยพรกันแบบพี่น้อง ไม่รู้หลุดไปได้อย่างไรทางโทรศัพท์มือถือ เมื่อถามว่าช่วงวันหยุดทำอะไรอยู่ พล.ท.พิรัชกล่าวว่า ไม่มีอะไร น้องเขาโทรศัพท์มาถามว่า พี่ทำอะไรอยู่วันนี้ ก็บอกว่าไม่มีอะไรอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน อายุมันมากแล้วไม่เหมาะที่จะไปเที่ยวแล้วเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่าตอนนี้ท่านตกเป็นเป้าว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ระเบิด พล.ท.พิรัชกล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเข้าใจผิด เพราะว่าอะไรที่ทำและเดือดร้อนกับประชาชน คนชื่อ ?หมึก? ไม่ทำหรอกครับ เมื่อถามว่าพอจะทราบหรือไม่ ว่าทำไมถึงได้นำท่านไปเชื่อมโยง พล.ท.พิรัชกล่าวว่า มันคงหาอะไรไม่ได้ก็เลยเอาสักหน่อย เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับตัวตนมาหลายครั้งหลายหน คนตาย คนสูญหาย คนทำชำเรา ใส่ชื่อหมึกไว้ก่อนคงจะถูกบ้าง คงเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานมาหรือไม่ว่าจะเข้ามาตรวจค้นที่บ้านพัก พล.ท.พิรัชกล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ ไม่มี
เมื่อถามว่า มีการเชิญไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างไรบ้าง พล.ท.พิรัชกล่าวว่า ไม่มีครับ น้องเขาคงไม่ทำแบบนี้ เพราะถ้าทำแบบนั้นก็ขัดแย้งกัน เมื่อถามว่า ในฐานะที่ถูกพาดพิงจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร พล.ท.พิรัชกล่าวว่า ไม่หรอกครับ นอกจากเขาจะมาหาที่บ้าน ?เถาถั่ว ใช้ต้มถั่ว ไยร้อนรุ่มเช่นนี้?
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าจะขอควบคุมตัวพล.อ.ชวลิตและตัวท่านด้วย พล.ท.พิรัชกล่าวว่า เขาคงไม่ทำ ดูแล้วมันก็พี่น้องกันทั้งนั้น คงไม่ทำ เมื่อถามว่าได้เคยหารือกับพล.อ.ชวลิตหรือไม่ พล.ท.พิรัชกล่าวว่า ไม่ได้หารือ
ปชป.อัด?ทักษิณ?ปลุกระดม
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณเขียนจดหมายยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดว่า เป็นสิทธิของพ.ต.ท.ทักษิณที่จะปฏิเสธ แต่คิดว่าจดหมายฉบับนี้ เป็นจดหมายฉวยโอกาสและเป็นจดหมายของคนที่มีอาการสูญเสียอำนาจ และมีความเคียดแค้นต่อคมช. และเป็นการปลุกระดมประชาชน แม้จะพยายามบอกว่าตัวเองยินยอมเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและเพื่อความสมานฉันท์ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเพียงคำพูด แต่พฤติกรรมจะเห็นชัดว่าการกระทำทุกอย่างรวมทั้งจดหมายฉบับนี้เป็นหัวขบวนของคลื่นใต้น้ำ ที่แสดงออกโดยผ่านกลไกอื่น
?เนื้อหาในจดหมายและพฤติกรรมที่ออกมาต่างแสดงให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ให้ความร่วมมือกับคมช.อย่างจริงจัง และขอฝากไปยังคุณนพดลว่า การที่บอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นอดีตนายกฯที่ไม่เคยใช้ความรุนแรง อยากถามว่าเอาอะไรมายืนยัน เพราะช่วง 5 ปีภายใต้การบริหารของพ.ต.ท.ทักษิณ มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดการสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ อยากจะกราบเรียนว่า คนที่เป็นทนายความควรมีจรรยาบรรณ ต้องมุ่งแก้ข้อกล่าวหา แต่ความประพฤติส่วนตัวไม่สามารถรับประกันใครได้ และบอกคุณนพดลด้วยว่า ไม่ทราบว่าเงินค่าจ้างว่าความมันมากแค่ไหน อาจจะทำอะไรที่ผิดจรรยาบรรณของทนายความก็เป็นได้ ก็ต้องเรียนว่ากรณีจดหมายที่ท่านนายกฯทักษิณพยายามฉวยโอกาสในครั้งนี้ก็เหมือนกับคลื่นใต้น้ำ? รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว และว่า ขณะนี้คมช.และรัฐบาลมีงานหนักที่จะต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งกรณีเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นและการตรวจทุจริตคอร์รัปชั่น โดยจะต้องเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้
?ปานเทพ?สวนแม้วอย่าแก้ตัว
ที่รัฐสภา พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สนช.ให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขียนจดหมายจากกรุงปักกิ่ง ปฏิเสธไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิด และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกี่ยวข้องกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเป็นเพียงข้อคิดเห็นเพื่อแก้ตัว เนื่องจากเกิดความรู้สึกว่าถูกพาดพิงจากการที่รัฐบาลและคมช.ชี้แจงพุ่งเป้าไปว่าเกิดจากผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง แต่ไม่ได้เจาะจง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดความสับสน เพราะปัจจุบันประชาชนเฉลียวฉลาด คงนำเหตุผลของแต่ละฝ่ายมาตัดสินว่าจะเชื่อใคร
พล.อ.ปานเทพกล่าวว่า การดูว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจากใครนั้น ต้องดูว่าใครได้ประโยชน์ ซึ่งถ้าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้จริง พวกเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะไม่มีผลที่จะทำให้ประชาชนหนีออกจากพื้นที่หรือหันกลับไปให้ความร่วมมือกับฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ เนื่องจากความมุ่งหมายในการก่อความไม่สงบในภาคใต้ คือต้องการขับไล่คนต่างศาสนา ต่างเผ่าพันธุ์ออกจากพื้นที่ หรือเพื่อข่มขู่ผู้ร่วมศาสนาเดียวกันหรือร่วมเผ่าพันธุ์ให้เกิดความหวาดกลัวไม่ให้ต่อต้าน หรือทำให้กลับมาให้ความร่วมมือกับฝ่ายตัวเอง นอกจากนี้ หากคนในภาคใต้ที่ต้องการขึ้นมาก่อเหตุใน กทม.ก็ทำได้ยากและมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการขนวัตถุระเบิด การเดินทาง หรือการเข้ามาในพื้นที่ไม่คุ้นเคย
บัวแก้วนัดชี้แจงทูต96ประเทศ
?ถ้ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ก่อเหตุระเบิดใน กทม.จริง จะเป็นผลร้ายต่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเอง เพราะจะถูกทั่วโลก รวมถึงกลุ่มประเทศมุสลิมรุมประณาม ผมจึงเชื่อว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในภาคใต้แน่นอน และไม่น่าจะเป็นการก่อการร้ายสากล เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่กรณีของการต่อสู้กับการก่อการร้ายสากล แม้จะมีการอ้างว่าไทยได้ส่งกำลังทหารไปยังประเทศอิรัก แต่เป็นการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนด้วยการส่งทหารช่างและทหารเสนารักษ์ ไม่ใช่การส่งไปรบ? พล.อ.ปานเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงรายงานข่าวที่ระบุว่ามีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ พล.อ.ปานเทพกล่าวว่า ผู้ที่มีความชำนาญในการใช้วัตถุระเบิดส่วนหนึ่งมีพวกทหารและตำรวจ จึงยังไม่สามารถชี้ได้ว่าใช่ทหารหรือไม่ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า วันที่ 4 ม.ค. เวลา 11.00 น. กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญผู้แทนจากเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ต่างประเทศประจำประเทศไทย 96 แห่ง และองค์การระหว่างประเทศอีก 29 แห่ง ให้มารับฟังคำชี้แจงจากนายกฤษณ์ กาญจนกุญชร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯหลายจุดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับข้อเท็จจริง พร้อมทั้งตอบคำถามหรือข้อสงสัยของคณะทูตเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้างความเชื่อมั่นในหมู่มิตรประเทศเกี่ยวกับมาตรการทั้ง 5 ข้อของรัฐบาล
อุ๋ยยันไม่กระทบเศรษฐกิจ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะออกมาตรการอะไรออกมาในเวลานี้นั้นยังตอบไม่ได้ และธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ติดตามในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศเปิดทำการแล้ว ในเรื่องค่าเงินนั้นเวลานี้ยังใช้ได้ และเราเองก็ไม่ต้องการให้แข็งค่ามากไปกว่านี้ เพื่อให้การส่งออกดีขึ้น และตอนนี้ผู้ส่งออกเองก็พอใจ เพราะทำให้การส่งออกเดินต่อไปได้ วันนี้ก็จะขอดูตลาดหุ้นอีกนิดหนึ่งก่อน
?ทั้งหมดเวลานี้ต้องรอทางคมช.ก่อน เพราะถ้าคมช.ดำเนินการอะไรได้เร็ว คิดว่าความเชื่อมั่นจะกลับมาเร็วมันอยู่ที่ตรงนี้เป็นหลัก และถ้าดำเนินการได้เร็วความเชื่อมั่นก็จะกลับมาเร็ว? ม.ร.ว.ปรีดิยากรกล่าว
เมื่อถามว่า ในวันนี้ทาง 3 สมาคม อาทิ สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าฯ และสภาอุตฯ จะมีการประชุม ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า ถ้าคมช.ดำเนินการได้เร็วความเชื่อมั่นจากทาง 3 สมาคมก็จะดีขึ้นอยู่ที่ตัวนี้ วันนี้จึงต้องดูทางคมช. เมื่อถามต่อว่าแล้วทางรัฐบาลจะส่งสัญญาณอะไรออกมาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า การส่งสัญญาณที่ดีที่สุดเวลานี้คือการดำเนินการให้เร็ว และหาตัวผู้กระทำผิดให้เร็ว ซึ่งนั่นคือสัญญาณที่ดีที่สุดที่แสดงความเข้มแข็งเพื่อจะทำให้ภาคเอกชนมั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่รัฐบาลออกมาสรุปว่าการก่อเหตุเกิดจากการกระทำของผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง รองนายกฯกล่าวว่า ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีในเรืองนี้ แต่อะไรก็ตามที่ทำให้เร็วจะช่วยให้ความเชื่อมั่นกลับมาเร็ว พื้นฐานเศรษฐกิจยังไม่มีอะไรเสียแน่นอน ส่งออกยังดีอยู่ ออร์เดอร์เข้ามาเยอะ การลงทุนชัดเจน การลงทุนที่เข้ามาลงทุนโดยตรงเริ่มกลับมาแล้ว อย่างฟอร์ดเองก็เตรียมขยายหมดแล้ว ตอนนี้เรามาเอาใจช่วยคมช.ให้แก้ให้เร็วที่สุด ตอนนี้ยังสู้ได้
สรุปชัดรหัสIRKไม่เกี่ยวบึ้ม
สำหรับอักษร IRK นั้นเป็นที่แน่นอนแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้เลย โดยพบว่าเป็นการเขียนแบบกราฟฟิตี้ของวัยรุ่นกลุ่มบีบอย ซึ่งความจริงแล้วเขียนว่า IRIE อ่านว่า ?ไอรี่? เป็นโลโก้ของกลุ่มดังกล่าว และนิยมเขียนไว้ตามตู้โทรศัพท์และป้ายรถประจำทาง อย่างไรก็ตาม หลังจากตำรวจเข้าไปตรวจสอบอักษรนี้ ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมือบอนไปขีดเขียนอักษรดังกล่าวไปทั่วเมือง
พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผกก.สด.บช.น. กล่าวว่า ทราบว่ากลุ่มบีบอยเป็นกลุ่มพวกวัยุร่นที่เขียนอักษรดังกล่าว แต่ว่าเด็กกลุ่มนี้ตนได้สั่งให้ชุดสืบสวนไปตรวจดูว่าเด็กๆ ที่เคยเอาตัวมามีในสาระบบหรือไม่ แต่เด็กที่สด.เอามานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่นที่ใช้อักษรนี้ เขียนว่า ไอรี่ เป็นภาษาจาเมกา แปลว่า สุดยอดหรือเยี่ยม ส่วนเด็กที่สด.เอามาไม่เคยพบว่ามีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ พวกที่เขียนอักษรลักษณะนี้จะเป็นกลุ่มบีบอย ฮิพฮอพ จาเมกา
วิจิตรยันไม่ยกเลิกงานวันเด็ก
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานวันเด็กว่า ในที่ประชุมครม.ได้มีการพิจารณาว่า ในการจัดงานที่มีการรวมผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 ม.ค.นี้ ศธ.จะยังคงดำเนินการจัดงานไปตามที่กำหนดไว้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่า การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงปีใหม่ ที่ประชุมครม.จึงเห็นว่าควรให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งศธ. และหน่วยงานอื่นๆ ที่จัดกิจกรรมในวันเด็กแห่งชาติไปหารือถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จะต้องเพิ่มมาตรการดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น โดยสำนักนายกรัฐมนตรีจะรับหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้ทราบว่ามีการจัดกิจกรรมที่ใดบ้าง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แน่ใจว่าสามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ ทั้งนี้ในส่วนของศธ.นั้น ในวันนี้ตนจะได้หารือรายละเอียดร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักของศธ. ถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยทั้งในการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ และวันครู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 ม.ค.นี้ด้วย ว่าจะต้องวางมาตรการพิเศษเพิ่มเติมอย่างไร และจะได้นำข้อมูลไปประสานร่วมกับสำนักนายกฯ ในวันที่ 5 ม.ค.นี้
?เรื่องนี้คงประมาทไม่ได้ ซึ่งจากบทเรียนที่เกิดทำให้ต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวดมากขึ้น โดยตระหนักถึงปัญหาแต่ไม่ตระหนกถึงขั้นว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะอยู่ในวิสัยที่ระมัดระวังได้ ซึ่งการดำเนินชีวิตตามปกติเป็นเรื่องจำเป็น หากยิ่งไปกลัวไปงด ไปยกเลิกจนหมด ในที่สุดแล้วผลกระทบจะเกิดมากขึ้นจนไม่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างมั่นใจว่าฝ่ายที่ดูแลรักษาความปลอดภัยมีมาตรการและสามารถป้องกันได้? นายวิจิตรกล่าว และว่า สำหรับกิจกรรมที่จะจัดในงานวันเด็กนั้น คาดว่ากิจกรรมหลักๆ ส่วนใหญ่จะยังคงไว้ อาทิ กิจกรรมที่สนามเสือป่า เปิดทำเนียบให้เด็กได้เข้าไปชมห้องทำงานของนายกฯ
จิ๋วโต้รับเงินแม้ว1.5พันล้าน
ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิตให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในที่ประชุมตำรวจสันติบาลมีการระบุชื่อพล.อ.ชวลิตชัดเจน ว่ารับเงินจำนวน 1,500 ล้านบาทจากพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ทำไมไม่มีการตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน ถ้ามีหลักฐานก็ไปเอามาเปิดเผยได้เลย อย่ามากล่าวหากันลอยๆ เหตุการณ์ระเบิดในกทม.ก็มีเทปอยู่แล้ว ทำไมไม่ไปขอดู รู้อยู่นะว่ามีใครไปทำอะไรไว้บ้าง ซึ่งตนก็มีเทปม้วนนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก ขอตรวจสอบให้ชัดก่อน
พล.อ.ชวลิตกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการทำงานของรัฐบาลและคมช. ควรจะกลับไปทบทวนบทบาทการทำงานของตัวเอง ว่ามีจุดบกพร่องหรือไม่อย่างไร อย่างเช่นงานด้านการข่าว ซึ่งงานข่าวลับจริงๆ แล้วมีหรือไม่ สะเปะสะปะกันหมด ไม่ใช่พอเกิดเหตุการณ์เพียง 2 วันก็ออกมาวิเคราะห์กล่าวหากัน นอกจากนี้จากการรายงานข่าวของต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าคมช.เป็นคนทำเอง ด้วยสาเหตุต่างๆ แต่ตนพยายามอธิบายชี้แจงแทนคมช.ว่าเข้ามาทำงานเพื่อความเสียสละ แต่ต้องทำงานด้วยความเข้าใจ อย่าไปคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว
ย้ำอีกรอบไม่เกี่ยวระเบิดกรุง
?ผมจะยังคงทำงานด้านการเมืองต่อไปอีก แต่การทำงานด้านการเมืองไม่ใช่เป็นพรรคการเมือง เพราะสามารถทำงานในองค์กรเอกชน มูลนิธิ หรือหน่วยงานอื่นก็ได้ ซึ่งเป็นไปตามที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่ได้ให้โอวาทไว้ในช่วงปีใหม่ที่ว่าการดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหน้าที่ของคนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะข้าราชการทหารหรือตำรวจ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว ก็คงจะเกิดในทำนองเดียวกันอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงเลือดตกยางออก หรือต้องเสียเลือดเสียเนื้อ?
พล.อ.ชวลิตกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่รัฐบาลหรือคมช.มีความหวาดระแวง และการกล่าวหาตน มองได้สองพวกหรือสองกลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มการเมือง คือกลุ่มที่กลัวตนจะกลับมาเล่นการเมืองอีก และอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่อยากจะเข้ามาเล่นทางด้านการเมือง กลัวว่าพล.อ.ชวลิตอยู่จะไม่ได้เข้ามา ก็พยายามดิสเครดิต อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในครั้งนี้ ทั้งนี้ถ้าน้องๆ มีปัญหาก็สามารถปรึกษาหารือตนได้เสมอ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางคมช.กำลังจับตานายทหารที่ใกล้ชิดกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งมีข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุระเบิดได้เดินทางไปที่โรงงานแห่งหนึ่งในอ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ศปศ.คมช.ได้เดินทางไปสอบนายทหารยศร.อ.คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนสนิทของเสธ.คนดัง เนื่องจากสงสัยว่าอาจรู้เห็นกับการวางระเบิดครั้งนี้ด้วย
พระราชทานหรีดงานศพเหยื่อ
เวลา 19.15 น. นายสุขสันต์ วนะภูติ รองผวจ.อุตรดิตถ์ ผู้แทนพระองค์ได้อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ประดับในงานศพของนายสงกรานต์ กาญจนะ ที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดบริเวณป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ณ ศาลาธรรมสังเวช วัดปากฝาง ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานเงินพระราชานุเคราะห์การศพจำนวน 20,000 บาทให้กับนายสัมพันธ์ กาญจนะ บิดาผู้เสียชีวิตครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ให้ผู้แทนนำหรีดพร้อมเงินในนามกองทัพบกช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาท, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส่งหรีดพร้อมเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการจัดทำพิธีศพจำนวน 10,000 บาท กองบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มอบเงินช่วยเหลืออีก จำนวน 15,000 บาท พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ส่งตัวแทนมอบหรีดร่วมในงานศพ
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์