ไฟลามเข้ากรุง วันเดียวไหม้ 3 ราย ( ข่าวทั่วไป )

กรณีไฟหนาวโหมเผาชุมชนไผ่สิงโตวอดไปกว่า 50 หลัง รวมทั้งรถที่จอดริมถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เสียหายกว่า 20 คัน ในช่วงดึกของวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.ทองหล่อ โดยความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (22 ธ.ค.) พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานทราบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากบ้านของนายบุญมี สมพงศ์ อายุ 80 ปี เป็นคนเก็บของเก่าขาย ปลูกเพิงพักไม่มีเลขที่ ขณะหุงต้มอาหารด้วยเตาฟืน สะเก็ดไฟอาจไปติดฝาบ้านจนเกิดไฟลุก ขณะนี้ให้พนักงานสอบสวนจาก บก.น.5 และ สน.ทองหล่อ ร่วมกันสอบพยานแวดล้อมและจะนำตัวนายบุญมีมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าทางสำนักงานเขตคลองเตยได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือชาวชุมชนคลองไผ่สิงโต บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก ตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเต็นท์บริเวณศูนย์รับเลี้ยงเด็กชุมชนคลองไผ่ จัดเป็นที่พักชั่วคราว มีเจ้าหน้าที่จากกองพลทหารม้าที่ 2 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และสภากาชาดไทย นำข้าวของเสื้อผ้าเครื่องใช้และอาหารมาแจกให้แก่ชาวบ้าน พร้อมนำห้องสุขามาให้บริการ ชาวบ้านที่ถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง ทางการจะช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท ส่วนบ้านที่ไฟไหม้เพียงบางส่วนรายละ 1,500 บาท อีกทั้งหากประสบปัญหาด้านอุปกรณ์การประกอบอาชีพ ทาง กทม.มอบเงินทดแทนรายละ 15,000 บาท และขอให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่ประมาท เพราะช่วงหน้าหนาวมักจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้ง่าย เหตุไฟหนาวกระหน่ำซ้ำ โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. พ.ต.ท.ภากร สมุทรคีรี พงส. (สบ.2) สน.บางรัก รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารสี่พระยาทาวเวอร์อินน์ เลขที่ 468 ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ มี พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. และรถดับเพลิง 20 คัน ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 9 ชั้น เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันจำนวนมากทะลักออกมาจากชั้น 3 ทราบว่ามีผู้อาศัยวิ่งหนีตายขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงนำรถกระเช้าขึ้นไปลำเลียงผู้ติดอยู่ลงมา นำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด 12 คน แยกเป็นส่งโรงพยาบาลเลิดสิน 5 คน มีนายวีซเซีย เธียซา และนายอเนสเซน ชาวกินี ถูกกระจกบาดที่ข้อมือ ขณะปีนออกมาทางหน้าต่าง นายควิบนี ชาวจีน น.ส.มีนา และ น.ส.สมพร ไม่ทราบนามสกุล โรงพยาบาลสมิติเวช 2 คน มี น.ส.พรณภัทร ชวนคิด อายุ 25 ปี นายมานาบุ จาวา อายุ 38 ปี ชาวญี่ปุ่น โรงพยาบาลจุฬาฯ 3 คน มี น.ส.เกษร แซ่ลี้ อายุ 26 ปี น.ส.กาญจนา ชูสาร อายุ 28 ปี และนาย ซาโน ซามูด อายุ 40 ปี ชาวแกมเบีย และโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน 2 คน คือนายธนสิทธิ์ อมตะวีรกุล อายุ 29 ปี และ น.ส.จุฬารัตน์ โตเนตรสุวรรณ อายุ 24 ปี ส่วนใหญ่มีอาการสำลักควันไฟ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำนานประมาณ 30 นาที กลุ่มควันจึงเจือจางหายไป
นายสุภพ ซ่อมประดิษฐ์ อายุ 47 ปี รองกรรมการบริหารของอาคาร เปิดเผยว่า ที่บริเวณชั้น 1-2 ปิด ไม่ได้ทำอะไร ส่วนที่บริเวณชั้น 3 เปิดเป็นห้องอาหาร ส่วนบริเวณชั้น 4-9 เปิดเป็นห้องพัก มีอยู่ประมาณ 70 ห้อง มีลูกค้าพักอยู่ 20 ห้อง ขณะเกิดเหตุมีควันเกิดขึ้นภายในห้องอาหาร ประตูล็อกจึงให้เจ้าหน้าที่ทุบเข้าไป พบว่ามีควันหนาแน่นไฟลุกอย่างรวดเร็ว พนักงานและลูกค้าต่างวิ่งหนีกันอย่างอลหม่าน ตร.ประสานกองพิสูจน์ หลักฐานตรวจสอบ เพื่อเร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้

ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.ธีรชาติคุ้มสังข์ พงส.(สบ 1) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุไฟไหม้ชุมชนนางนอง 2 สันติสุข ซอยวุฒากาศ 26 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จึงประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย กทม. พร้อมรถจำนวน 15 คันที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันกว่า 50 หลัง ต้นเพลิงเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 20/6 ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ใกล้กันมีโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ย มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึง ป.6 กว่า 200 คน ครูต้องรีบพาเด็กวิ่งหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย จนท.ระดมฉีดน้ำประมาณ 30 นาที ไฟจึงดับ เผาบ้านไปกว่า 15 หลัง สอบสวนนางกาญจนา เลิศแล้ว อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิงทราบว่ากำลังทำความสะอาดเก็บกวาดบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่แผงวงจรไฟฟ้าบนห้องนอนชั้น 2 พบไฟไหม้บนฟูกที่นอนจนลุกลามไปทั้งหลัง ตร.คาดว่าสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร จึงประสานเจ้าหน้าที่ กทม.เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
รายล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.ท.เกริกสิน เนียมนัด พงส.(สบ 2) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุไฟไหม้ ที่บริษัท ที เอ็ม ดี จำกัด เลขที่ 713/51-53 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ตรวจสอบเป็นอาคารสูง 4 ชั้น โดยชั้น 1 และ 2 เปิดกิจการขายเครื่องทำกรองน้ำ ส่วนชั้น 3 และ 4 เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ต้นเพลิงลุกไหม้บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเสียหายเพียงเล็กน้อย สาเหตุคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัด

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์