นักเรียนในจังหวัดสตูลรวมกลุ่มทำไต้ ขายให้กับธุรกิจท่องเที่ยวโฮมสเตย์ในพื้นที่หารายได้ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
นักเรียนโรงเรียนบ้านวังปริง ต.ท่าเรือ อ.ท่าแพ จ.สตูล ตั้งกลุ่มทำไต้ (คบเพลิง) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่หาดูยาก มาเป็นหนึ่งในโครงการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติของโรงเรียน ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในงานนี้ ด.ช.วรวุฒิ หล่าด้ำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวังปริง ซึ่งเป็นประธานกลุ่มทำไต้ (คบเพลิง) กล่าวว่า ไต้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำกันมานาน นำมาใช้ทำเป็นคบเพลิงแทนไฟฟ้า ซึ่งก่อนหน้าที่ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยประโยชน์ของไต้นี้สามารถใช้แทนไฟฟ้า และเป็นการประหยัดพลังงาน รวมทั้งยังสามารถใช้ไล่ยุงได้
ประธานกลุ่มทำไต้ กล่าวอีกถึงวิธีการทำไต้ ว่า ไต้ทำได้ไม่ยากนัก ใช้เวลาทำประมาณ 5 - 10 นาทีเท่านั้น เพียงแค่นำเปลือกของต้นเสม็ดมาฉีกแล้วนำมาผสมกับน้ำมันยางนา คลุกให้เข้ากัน แล้วนำมาใส่ในกระบอกที่ทำจากใบกระพ้อที่ผูกกับเถาวัลย์ย่านนา จนแน่น และสามารถนำมาใช้ได้เลย ส่วนราคาตกอยู่ที่อันละ 20 บาท
โดยกลุ่มนักเรียนที่รวมตัวกันทำไต้นี้ สามารถนำไต้ที่ทำเสร็จแล้วมาขายให้กับทางสหกรณ์โรงเรียนบ้านวังปริง และสามารถส่งขายที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่มีไฟฟ้าใช้ สร้างรายได้ให้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี
ทางด้านนายเก็ม หมีดหรน ผอ.โรงเรียนบ้านวังปริง กล่าวด้วยว่า ในอนาคตจะทำให้คบเพลิง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไต้” นี้ เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนบ้านวังปริง และเป็นสัญลักษณ์ของตำบลท่าเรือ อ.ท่าแพ ต่อไป ในส่วนของนักเรียนกลุ่มนี้จะผลักดันให้มีการทำอย่างต่อเนื่องโดยจะทำเป็นของชำร่วย ขายให้กับนักท่องเที่ยว
พร้อมทั้งกล่าวถึงแนวคิดการทำคบเพลิง หรือ "ไต้" นี้ คือมาจากพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงความตอนหนึ่งว่า หากไฟดับเราจะทำอย่างไร นี้คือคำตอบของการ ทำ “ไต้” ขึ้นมา และ“ไต้” นี้เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่มีมานาน แล้ว และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาทำ “ไต้” นี้ ไม่ว่าจะเป็นเปลือกต้นเสม็ด ต้นกระพ้อ เถาวัลย์ ก็มีอยู่หลังโรงเรียนทั้งสิ้น
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์