ลูกเรือประมงสตูลเข้าใต้ท้องเรือเพื่อถ่ายน้ำเน่าเสียภายในห้องเก็บปลา แต่แก๊สพิษนั้นมีความรุนแรง ทำให้เมื่อเข้าไปในห้องแล้วหมดสติ ทำให้เสียชีวติ 5 คน และหมดสติแต่ช่วยเหลือมาได้ 2 คน
วันนี้ (6 มี.ค.) นายสายชล โชติกันตะ อายุ 42 ปี บ้านเลข ที่ 141/1 ถ.สมันตประดิษฐ์ ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ไต๋กงเรือประมงอวนซังสองสัญชาติ ชื่อเรือ ประมง FSF 1858 ซึ่งมีลูกเรือประมงบนลำ เรือ 23 คน รีบนำเรือเข้าฝั่งขึ้นที่ท่าเทียบเรือแพหลวง หมู่ที่ 3 ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล หลังลูกเรือประมง 5 คน ได้เสียชีวิตขณะลงไปใต้ท้องเรือเพื่อถ่ายน้ำเน่าเสียภายในห้องเก็บปลาออก
โดยระหว่างลงไปในห้องเก็บปลา ซึ่งมีปากทางเข้าห้องกว้างเพียง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ซึ่งทางลงห้องได้เพียงครั้งละ 1 คนนั้น ลูกเรือประมงที่ลงไปก่อนหน้าคนแรกได้ร้องขอความช่วยเหลือ และเงียบหายไปและลูกเรือประมงที่เหลือจึงลงไปช่วย แต่กลับหมดสติและทนแก๊สพิษจากปลาเน่าไม่ไหวเสียชีวิตคาห้องเก็บปลาพร้อมกันถึง 5 คน
โดยระหว่างนั้นได้ช่วยเหลือลูกเรือประมงขึ้นกลับมาได้เพียง 2 คน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองสตูล คือ นายปองไทย อายุ 37 ปี และนายไร สิงห์หาย อายุ 41 ปี ส่วนลูกเรือประมงอีก 5 คน ที่เสียชีวิตไปนั้นทางไต๋กงเรือทราบเพียงชื่อเล่น คือ นายมาย อายุ 30 ปีชาวจังหวัดตรัง, นายเก่ง อายุ 31 ปี กทม., นายไข่ อายุ 30 ปีจังหวัดตรัง, นายปัญญา อายุ 25 ปี จังหวัดสกลนคร และนายไชยา อายุ 28 ปี จ.สกลนคร ซึ่งทั้ง 5 คนได้มาเป็นลูกเรือประมงตังเกกับเรือประมงลำนี้ได้ไม่ถึงเดือนก่อนมาเสียชีวิต
ด้าน นายสายชล ไต๋กงเรืออวนซัง กล่าวว่า โดยปกติจะมีการถ่ายน้ำเน่าเสียจากห้องเก็บปลาอยู่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้สังเกตว่า ภายในห้องเก็บปลามีน้ำเน่าเสีย มากทำให้เกิดแก๊สปลาเน่าขึ้นทำให้ลูกเรือหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทางมูลนิธิธรรมรังสีได้รีบรุดมารับศพและประสานให้ญาติผู้เสียชีวิตมารับไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์