ชุดพิทักษ์ป่าตรวจสอบไม้ทุเรียนร่วม 100 ท่อนลอยน้ำหลังผู้ว่าฯ ไฟเขียวกวาดจับขบวนการลักลอบตัดไม้และผู้บุกรุกป่า เปรียง โดยป่าที่ตรวจสอบพบมีการตัดขายมากที่สุดยังคงเป็นป่าทุ่งหว้า ป่าตระ ป่าห้วยหลอด ป่าเขาขุมทรัพย์ ซึ่งจัดเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดสตูล
ชุดเฉพาะกิจในการป้องกันรักษาป่าจังหวัดสตูลนำกำลังเข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบลำเลียงไม้จำนวนมากมาทางน้ำเกรงว่าจะเป็นไม้ผิดกฎหมาย โดยการจากการเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ทุเรียนที่มีการตัดภายในสวนของตนเองก่อนปล่อยไป ซึ่งภาระกิจนี้เป็นหนึ่งในการทำงานภายใต้การนำของนายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สั่งการให้ชุดป้องกันรักษาป่าสตูลที่มีการสนธิกำลังกันหลายฝ่ายในการร่วมกันป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ รวมทั้งเอาผิดผู้ที่บุกรุกผืนป่าต้นน้ำอย่างจริงจัง หลังมีรายงานว่าทั้งชาวบ้านและนายทุนมีการตัดโค่นเพื่อทำการเกษตรปลูกต้นยางพาราหลังมีราคาสูงในระยะนี้ทำให้มีการบุกรุกป่ามายิ่งขึ้น ในขณะที่นายทุนก็มีการสั่งไม้เนื้อแข็งจากผืนป่าสตูลไปขายยังจังหวัดข้างเคียงกันเป็นจำนวนมาก
ด้านนายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สต.2 ทุ่งหว้า ยอมรับว่า ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ ป่าสงวน ป่าเขตห้ามล่า และป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่มีทั้งสิ้น 18 ป่านั้นมีการตรวจสอบทั้งภาคผืนดินและตรวจหาค่าพิกัดทางดาวเทียมพบว่ามีการบุกรุกเพิ่มอีก 500 กว่าแปลง แม้บางจุดมีการตรวจสอบว่ามีการบุกรุกก่อนหน้านี้ แต่จุดที่ถูกบุกรุกส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อการเกษตรมากกว่าการบุกรุกเพื่อตัดไม้ส่งขาย
โดยไม้ที่มีการลักลอบตัดขายนั้นยอมรับว่าทำให้ยากต่อการป้องกันที่จะทำได้เพียงการตรวจสอบก่อนที่จะมีการลำเลียงไม้ออกนอกพื้นที่ซึ่งทางจังหวัด โดยเฉพาะชุดเฉพาะกิจป้องกันรักษาป่าที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการ ก็มีการทำงานอย่างจริงจังทั้งในด้านการข่าว และการสร้างเครื่อข่ายกับชาวบ้านในการช่วยแจ้งเบาะแสทันที่ที่พบจะเข้าทำการตรวจสอบใบอนุญาตขนย้าย และที่มาของไม้ โดยไม้ที่ถูกลักลอบตัดจะเลือกตัดเฉพาะไม้ที่สมบูรณ์ตามที่ลูกค้าต้องการ อย่าง ไม้หลุมพอ ไม้เปรียง โดยป่าที่ตรวจสอบพบมีการตัดขายมากที่สุดยังคงเป็นป่าทุ่งหว้า ป่าตระ ป่าห้วยหลอด ป่าเขาขุมทรัพย์ ซึ่งจัดเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดสตูล
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์