ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ตรัง, โรงตึ๊งตรังยืมเงินสำรอง 10 ล้านรับสภาพเศรษฐกิจขาลง ( ข่าวตรัง )

โรงรับจำนำตรังขอยืมเงินสำรองจากเทศบาลนครตรัง รองรับความต้องการของชาวบ้านที่ขาดรายได้ เผยในรอบ 10 ปีไม่เคยยืมเงินต้นสังกัด ระบุชาวบ้านนำสิ่งของมาจำนำกันมาก เพราะต้องการเงินทองไปใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม

นายวัฒน์ สุขชมทอง ผู้จัดการ สถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ เทศบาลนครตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงที่ใกล้สถานศึกษากำลังจะเปิดภาคเรียนได้จัดเตรียมเงินทุนหมุนเวียนสำรองไว้ประมาณ 20 ล้านบาทเพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ของผู้ปกครองนักเรียนและนักศึกษาเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาประกอบกับในช่วงนี้สภาวะเศรษฐกิจก็แย่ลงอย่างมาก

เพราะแม้ว่าราคายางพาราจะดีแต่สภาพฝนฟ้าอากาศกลับไม่เอื้ออำนวยประชาชนยังอยู่ในช่วงหยุดกรีดยางพารา และราคาน้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ประชาชนต้องหันมาใช้บริการสถานธนานุบาล โดยในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สถานธนานุบาลเทศบาลนครตรัง ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต้นสังกัดเลย แต่มาในปีนี้ จำเป็นต้องยืมเงินจากเทศบาลนครตรังมาสำรองไว้ประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน

นายวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับสิ่งของมีค่าที่ประชาชนนิยมมาจำนำคือ ทองคำรูปพรรณ หรือประมาณ 95% ส่วนที่เหลือจะเป็นสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ วีดีโอ วิทยุเทป หรือประมาณ 5% แต่ในส่วนของโทรศัพท์มือถือนั้น สถานธนานุบาลไม่รับจำนำ

สำหรับอัตราดอกเบี้ยคิดในขั้นต่ำ เช่น เงินต้นไม่เกิน 3,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาทต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 3,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน และเงินต้นเกินกว่า 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน โดยสามารถจำนำได้นานถึง 4 เดือนและยังผ่อนผันต่อไปได้ให้อีก 30 วัน ขณะเดียวกัน ประชาชนก็สามารถที่จะผ่อนส่งเงินต้นได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนที่มาใช้บริการก็มีหลากหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่เกษตรกร ไปจนถึงระดับข้าราชการ

นายวัฒน์ เปิดเผยด้วยว่า ยิ่งช่วงนี้ บรรยากาศดูจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ชาวบ้านมีค่าครองชีพ และภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากกองทุนหมู่บ้าน จากธนาคารคนจน หรือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ซึ่งทั้งหมดประชาชนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีการผ่อนส่ง แต่เมื่อหมุนเงินไม่ทันก็จำต้องมาพึ่งพาสถานธนานุบาล ประกอบกับในช่วงนี้ทองคำก็มีราคาสูงขึ้นจากเมื่อก่อนที่รับจำนำในอัตราบาทละ 4,000-5,000 บาท

แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นเท่าตัว ในอัตราบาทละ 8,000 บาท ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สถานธนานุบาลมีเงินไม่พอและต้องไปยืมเงินจากเทศบาลนครตรังมารองรับ อย่างไรก็ตาม สำหรับในการไถ่ถอนสิ่งของมีค่าคืนนั้น ถ้าเป็นทองคำรูปพรรณ ประชาชนจะไม่ขาดส่งดอกเบี้ยจนเป็นเหตุให้สถานธนานุบาลต้องยึดทรัพย์จำนำ อันเนื่องมาจากทองคำมีราคาแพงนั่นเอง

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์