ตรัง-หลังชาวบ้านเกาะสุกรประท้วงเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่และมีการปาไข่ใส่บ้านพักผู้ว่าฯตรังเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นยอมสลายตัวแล้วด้วยข้อเรียกร้องร้องใหม่อีก3ข้อ
เมื่อเวลา15.00น.วันนี้(28เม.ย.)ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตรังชาวบ้านตำบลเกาะสุกรอำเภอปะเหลียนจังหวัดตรังประมาณ20คนนำโดยนายสิงห์สยามมุกดาปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสุโสะอำเภอปะเหลียนจังหวัดตรังและอดีตปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสุกรยังคงรวมตัวกันชุมนุมประท้วงโดยยึดบริเวณทางขึ้นศาลากลางจังหวัดตรังมาตั้งแต่เวลา21.00น.วันที่27เมษายน2552ที่ผ่านมาพร้อมยังคงยื่นข้อเสนอเดิมที่จะต้องให้มีการย้ายนายสมพงษ์อนุยุทธพงศ์ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและนายจิรวัชร์สิงห์ดีรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
รวมทั้งยังคงเรียกร้องให้ทางจังหวัดย้ายนายสยมพรพักตร์จันทร์ปลัดอบต.เกาะสุกรออกจากพื้นที่โดยทันทีเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งข่มขู่นางสาวอิงดาวเทศนอกตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลซึ่งเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจของอบต.เกาะสุกรให้กระทำการที่ไม่เหมาะสมอีกทั้งมักพูดจาในเชิงลามกอนาจารและเสียดสีนางสาวอิงดาวบ่อยครั้งจนสร้างความเสื่อมเสียให้กับพนักงานจ้างคนดังกล่าวอย่างมาก
นอกจากนั้นนายสิงห์สยามแกนนำการชุมนุมประท้วงของชาวตำบลเกาะสุกรในครั้งนี้ยังได้กล่าวโจมตีการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังที่ไม่ยอมออกมาแก้ปัญหาให้กับประชาชนพร้อมกับได้มีการทำหุ่นกระสอบป่านขึ้นจำนวน2ตัวเพื่อเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและรองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งหากทั้ง2คนไม่ยินยอมให้เข้าพบและรับขอเรียกร้องทั้งหมดก็จะมีการเผาหุ่นทั้ง2ตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามข้อร้องเรียนต่อไป
ส่วนจังหวัดตรังได้ออกหนังสือด่วนที่สุดในการสั่งย้ายให้นายสยมพรพักตร์จันทร์ปลัดอบต.เกาะสุกรผู้ถูกร้องเรียกเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ณที่ว่าการอำเภอปะเหลียนแทนแต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมองว่าเป็นการเอื้อต่อพวกพ้องเพราะแม้จะมีการย้ายนายสยมพรออกจากเกาะสุกรแต่ยังคงอยู่ในพื้นที่อำเภอปะเหลียนยังไม่ถือว่าเป็นการลงโทษและยังถือว่าเป็นการอยู่ในพื้นที่เช่นเดิมอีกทั้งนายสยมพรอาจจะมีการใช้อำนาจในการกลั่นแกล้งนางสาวอิงดาวได้อีกจึงได้มีการฉีกหนังสือด่วนที่สุดฉบับดังกล่าวทิ้งไป
ต่อมานายสาธรวงศ์หนองเตยผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)หรือผู้ช่วยรัฐมนตรีนายสาทิตย์วงศ์หนองเตยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าวทั้งหมดโดยขอเป็นคนกลางในการเข้าเจรจาต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังโดยมีนางสุรียาเพชรอินทร์แกนนำผู้ชุมนุมเข้าร่วมในการเจรจาหาข้อตกลงในครั้งนี้ซึ่งมีข้อสรุปออกมาทั้งหมด3ข้อคือ
ข้อ1.ย้ายนายสยมพรให้มาช่วยราชการที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดตรังแทนการช่วยราชการที่อำเภอปะเหลียน
ข้อ2.ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยจะต้องเป็นคณะกรรมการจากจังหวัดทั้งหมดพร้อมตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนร่วมด้วยจำนวน10คนและภายใน15วันจะต้องมีการดำเนินคดีทางวินัยกับนายสยมพรตามกระบวนการสอบสวนทันที
ข้อ3.จะต้องไม่ดำเนินคดีแก่นายสิงห์สยามมุกดาปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสุโสะแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นผู้นำขบวนชาวบ้านไปปาไข่ใส่บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเมื่อวันที่27เมษายน2552ที่ผ่านมา
สำหรับข้อเสนอทั้ง3ข้อของผู้ชุมนุมในครั้งนี้ได้มีการจัดทำขึ้นมาเป็นจำนวน2ฉบับเพื่อให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเก็บไว้1ฉบับและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเก็บไว้อีก1ฉบับเพื่อถือเป็นสัญญาที่จะนำมาตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการชุดตรวจสอบที่จะต้องให้แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ก่อนกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดแยกย้ายกลับไปโดยสงบซึ่งในส่วนของนางสาวอิงดาวผู้เสียหายในครั้งนี้ก็ยังได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.ปะเหลียนเพื่อดำเนินคดีทางอาญาแก่นายสยมพรในข้อหากระทำอนาจารแก่ผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์