ตรัง - เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตรัง ยอมรับพระตุ๊ด เณรแต๋วระบาดทุกจังหวัด แต่ในทางศาสนาไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรงเท่ากับการเสพเมถุน ทว่าเจ้าอาวาสต้องดูแลและรับผิดชอบให้เข้มงวด เพื่อไม่ให้แสดงออกอันสร้างความเสื่อมเสีย แก่พระพุทธศาสนา แนะหากไม่สามารถอยู่ในความถูกต้องแล้วก็ควรที่จะลาสิขาบทออกไป อย่าแฝงกายในผ้าเหลือง เพื่อการใช้ชีวิตตามความต้องการของจิตใจ
พระมหาเฉลิมพงษ์ กตปุญโญ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตรัง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ (พระอารมหลวง) เปิดเผยถึงกระแสข่าวของพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่ถูกนำมาเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ จนเป็นข่าวโด่งดังในช่วงก่อนหน้านี้ว่า พระตุ๊ด เณรแต๋วนั้นมีอยู่ทุกจังหวัด เพียงแต่จะมีการแสดงออกซึ่งจริตที่เป็นอยู่ในแต่ละตัวบุคคลหรือไม่ การแสดงออกซึ่งจริตที่ไม่เหมาะสมออกสู่สาธารณะ ถือเป็นการประพฤติที่ผิดกริยวัตรของพระสงฆ์ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง
ดังนั้น พระผู้ปกครองหรือเจ้าอาวาสวัดจะต้องเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในการอบรมแก่พระตุ๊ด เณรแต๋วเหล่านั้นที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อไม่ให้สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา โดยพระภิกษุหรือสามเณรที่ทราบตัวเองว่ามีจริตที่ไม่เป็นชายแท้หรือมีจริตดังกล่าวติดตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเข้ามาสู่ร่มกาสาวพักตร์ก็ควรที่จะต้องปฏิบัติตนตามหลัก 4 กริยวัตรของสงฆ์ โดยจะต้องไม่แสดงจริตดังกล่าวในที่สาธารณะ เพื่อเป็นตัวอย่างอันดีงามในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา
พระมหาเฉลิมพงษ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวของพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่เคยเกิดขึ้นมานั้นมิได้ส่งผลกระทบต่อพระภิกษุ สามเณรทั่วไป เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจว่าเป็นเพียงเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น โดยไม่มีการกล่าวรวมทั้งหมด ต่างไปจากกระแสข่าวของสงฆ์ที่ลักลอบเสพเมถุน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพระสงฆ์ สามเณรเป็นอย่างมาก เนื่องจากสงฆ์ยังคงต้องออกไปบิณฑบาต
ดังนั้น เมื่อมีกระข่าวดังกล่าวออกมา จึงสร้างความเข้าใจที่ผิดแก่ประชาชน โดยแท้จริงแล้วสงฆ์ก็ยังเป็นปุถุชนทั่วไป ที่จะต้องละทางโลกให้ได้ทั้งหมด เพื่อการปฏิบัติธรรมให้บรรลุถึงโสดาบัน
ทั้งนี้ หากแต่สงฆ์รูปใดไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ควรที่จะลาสิกขาออกไป เพื่อการใช้ชีวิตตามความต้องการของจิตใจ และไม่ควรแฝงกายในผ้าเหลือง จนสร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ตาม การที่เป็นพระตุ๊ด เณรแต๋ว หรือสงฆ์ที่ลักลอบเสพเมถุนนั้น ถือว่าไม่ได้เกิดมาจากสุขภาพจิตที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะความต้องการส่วนบุคคลที่ไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนา เนื่องจากสุขภาพจิตทั่วไปของสงฆ์ส่วนใหญ่ดีกว่า ประชาชนทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะสงฆ์ไม่ต้องประสบกับภาวปัญหาของสังคมโลก
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์