ตรัง - บรรยากาศการลงทะเบียนของผู้ประกันตนตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ ที่ จ.ตรัง วันสุดท้ายค่อนข้างเงียบเหงา ผู้ประกันตนมายื่นคำร้องประมาณ 32,000 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90
วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบรรยากาศ การยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ผู้ประกันตนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท วันสุดท้าย ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ตามโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ จำนวน 2,000 บาท ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดตรัง ปรากฏว่า บรรยากาศทั่วไปค่อนข้างเงียบเหงา โดยมีผู้ประกันตนทยอยเดินทางเข้ามายื่นคำร้องอย่างต่อเนื่อง แต่มีจำนวนน้อยกว่าในช่วงวันแรกๆ ที่มีประกาศให้ผู้ประกันตนเข้าขอยื่นคำร้องได้ ซึ่งในวันนี้คาดว่าน่าจะมีผู้ประกันตน มาขอยื่นคำร้องไม่ต่ำกว่า 100 คน
นางประไพจิตร อ้นจู ประกันสังคมจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประกันตนในจังหวัดตรัง มายื่นคำร้องประมาณ 32,000 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของจำนวนผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์ โดยอีกร้อยละ 10 ที่เหลือคาดว่า น่าจะเป็นผู้ประกันตนที่มีการย้ายที่อยู่อาศัย และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ทำงานมากกว่า 1 แห่ง จึงมีเงินค่าจ้างรวมต่อเดือนเกิน 15,000 บาท รวมทั้งผู้ประกันตนบางรายมีความเข้าใจว่าตนเอง มีการสิ้นสภาพการเป็นลุกจ้างก่อนการประกาศใช้นโยบายดังกล่าว จึงไม่สามารถรับสิทธิได้ และไม่ได้เข้ามาขอยื่นคำร้อง
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2551 เป็นต้นมา ยังคงได้รับสิทธิการคุ้มครองเป็นผู้ประกันตน ตามสิทธิประโยชน์อีก 6 เดือน ซึ่งยังคงสามารถเข้ายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือจากนโยบายดังกล่าวได้ แต่ผู้ประกันตนในกรณีดังกล่าวอาจขาดความเข้าใจ และไม่ได้เข้ายื่นคำร้องขอดังกล่าว แต่คาดว่า รัฐบาลคงจะมีการขยายเวลาให้กับผู้ประกันตนในกรณีดังกล่าว ซึ่งจะต้องติดตามข่าวในระยะต่อไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์