“ทวี สุระบาล” อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย รับยุบพรรคไทยรักไทย ส่งผลดีที่ไม่ต้องลาออกจากพรรค เพราะเท่ากับหมดสิ้นสมาชิกภาพโดยปริยาย ลั่นอยู่กับพรรคจนวาระสุดท้ายแล้ว มิฉะนั้นก็ต้องลาออกจากพรรค เพราะถอดใจอยู่ใต้ชื่อไทยรักไทย ทำผลงานดีอย่างไรคนใต้ก็ไม่ยอมรับ กรุยทางอยู่กับพรรคไหนก็ได้แต่ขออยู่ในสนามเลือกตั้งใหญ่
วันนี้ (30 พ.ค.) นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และอดีต ส.ส.ตรัง 6 สมัย กล่าวเปิดใจว่า การตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย ของตุลาการรัฐธรรมนูญในวันนี้ ว่า ไม่มีความหมายกับตัวเองเลย เพราะตนตั้งใจที่จะอยู่กับพรรคไทยรักไทยเป็นวันสุดท้าย เพราะจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่หากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ก็จะส่งผลดีต่อตัวเอง คือ เพราะเท่ากับหมดสิ้นสมาชิกภาพไปโดยปริยาย และเท่ากับว่า ตนได้อยู่กับพรรคไทยรักไทยจนวาระสุดท้าย
นายทวี กล่าวอีกว่า ตนได้ประกาศการลาออกจากสมาชิกพรรคไทยรักไทยให้บรรดาพรรคพวก และคนใกล้ชิด ได้รับรู้มานานแล้วว่าจะอยู่กับพรรคไทยรักไทย จนถึงวันที่ศาลตัดสินคดียุบพรรค คือ วันที่ 30 พฤษภาคมนี้เท่านั้น โดยเป็นไปตามการขอร้องของบรรดาพรรคพวกที่ให้เหตุผลว่า คนใต้ไม่ชอบพรรคไทยรักไทย และไม่ชอบคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อให้ตนเองมีผลงานจนล้นจังหวัดตรังอย่างไร แต่หากยังอยู่กับพรรคไทยรักไทย ก็จะไม่เลือกไปเป็น ส.ส.
นายทวี กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวก็วางแผนไว้แล้วว่า ตัวเองเป็นนายทวีมาได้ก็เพราะคนชื่อป๋าเปรม ซึ่งเป็นทหารและเป็นที่เคารพนับถือของคนไทยทั่วประเทศ ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่มาทำการรัฐประหารในครั้งนี้ ก็เป็นทหาร และจากการคลุกคลีก็รับทราบมาแน่นอนแล้วว่า หลัง คมช.หมดหน้าที่ คนใน คมช.ส่วนหนึ่ง ก็จะไปตั้งพรรคการเมือง เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อรับใช้ประเทศชาติต่อไป และตนจึงตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ต่อไป
นายทวี กล่าวต่อว่า ตนมองว่า พรรคไทยรักไทย จะถูกยุบหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าคนในพรรคจะโดนอะไรบ้าง แค่ไหน ส่วนตัวนั้นสังกัดพรรคอะไรก็ได้ ที่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชน และยืนยันว่า จะเล่นการเมืองในสนามใหญ่เท่านั้น ไม่คิดจะลงเล่นในสนามท้องถิ่นอย่างแน่นอน แต่ที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าสนใจจะลงชิงนายก อบจ.ตรัง นั้น เพราะต้องการกระตุ้นให้คนที่ทำงานอยู่ใน อบจ.ขณะนี้ ได้เร่งทำผลงานและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์