บรรยากาศการซื้อขายชุดนักเรียนก่อนเปิดเทอมใน จ.ตรัง ผู้ค้าบ่นอุบยอดขายตก เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา การใช้จ่ายของประชาชนจึงประหยัดและรอบคอบในทุกๆ ด้าน
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้ออกไปทำการสำรวจการจำหน่ายเสื้อผ้าชุดนักเรียน ในช่วงใกล้เปิดภาคเรียนการศึกษาใหม่ ประจำปี 2550 ของบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองในจังหวัดตรัง พบว่าส่วนใหญ่ต่างเร่งเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาให้กับบุตรหลาน ก่อนโรงเรียนเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับการหาซื้อหนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียน โดยเฉพาะชุดนักเรียนนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการเริ่มต้นเปิดภาคเรียนใหม่ โดยสถานการณ์การจำหน่ายชุดนักเรียนในปีนี้บรรดาผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ต่างระบุว่า บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบเหงามาก และต่างไปจากปีก่อนๆ ที่มีความคึกคักมากกว่า
ทั้งนี้ เนื่องจากทางพ่อแม่ผู้ปกครอง 1 คน จะหาซื้อชุดนักเรียนให้บุตรหลาน คนละ 2-3 ชุด และจะซื้อชุดใหม่ในทุกๆ ปี แต่เนื่องจากในปัจจุบันนี้พบว่า ผู้ปกครองต่างๆ เริ่มซื้อข้าวของลดน้อยลง ทำให้ยอดการจำหน่ายซื้อชุดนักเรียนลดลงไปกว่าร้อยละ 50 แม้ทางร้านจะได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลดราคาแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุหลัก ที่ทำให้การซื้อขายชุดนักเรียนลดน้อยลงไปนั้น มาจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ทางพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ต่างใช้จ่ายอย่างประหยัด โดยบางคนจะนำชุดเก่า มาปรับปรุงแก้ไขใหม่ หรือไม่ก็จะนำเอาชุดนักเรียนของพี่ มาให้น้องสวมใส่ต่อในปีนี้
นอกจากนั้น ปัญหาหลักที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ การที่โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ มีการเปลี่ยนรูปแบบชุดนักเรียนทั่วไป มาเป็นชุดยูนิฟอร์มประจำโรงเรียน โดยจะดำเนินการตัดเย็บและจำหน่ายให้กับนักเรียนเองทั้งหมด ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าการไปซื้อผ้ามาตัดเป็นชุดนักเรียนเอง
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนรัฐบาลอีกบางแห่ง ที่ได้การนำชุดนักเรียนมาจำหน่ายกันเอง เพื่อหารายได้เข้าสู่โรงเรียน ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองบางส่วน ก็จะซื้อหากับทางโรงเรียน เนื่องจากถูกต้องตามกฎระเบียบ และถือว่าเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการดูแลตัวเด็ก เพราะชุดนักเรียนนั้น สามารถบ่งบอกถึงต้นสังกัดของตัวเด็กได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์