ตรัง, สั่งปิดเกาะหลาวเหลียงหลังหินถล่มทับคนกุ๊กดับอนาถ ( ข่าวตรัง )

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประสานให้เจ้าของรีสอร์ทจัดอพยพคนบนเกาะออกจากเกาะหลาวเหลียงให้หมด และประกาศเป็นเขตอันตราย หลังจากที่เกิดเหตุหินหล่นทับกุ๊กเสียชีวิต จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

จากกรณีที่ได้มีเหตุก้อนหินขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 5-6 ตัน ถล่มลงมาบนเกาะหลาวเหลียง ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ทางฝั่งทิศใต้ที่มีแนวเขตติดต่อกับจังหวัดสตูล ภายในพื้นที่ตำบลเกาะสุกร เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ทำให้นายประทีป ชิดใจเดียว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ที่ 2 ตำบลนาเรียง อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกำลังทำงานอยู่ภายในเอ็กซ์ไซด์ รีสอร์ท ในตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก เสียชีวิตทันที โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (2 พ.ค.) นายกิตติคุณ ธรรมโชติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ตามธรรมชาติ เนื่องจากเกาะหลาวเหลียงมีลักษณะเป็นเขาหินปูน และธรรมชาติของหินปูน ก็จะแบ่งออกเป็นชั้นๆ จึงสามารถไหลเลื่อน หรือผุกร่อนจนแยกหลุดออกมาได้ทุกขณะ

อย่างไรก็ตาม พื้นที่บนเกาะหลาวเหลียงทั้งหมดเป็นเขตสัมปทานรังนกนางแอ่น ที่อยู่ในการดูแลของคณะกรรมการในระดับจังหวัดตรัง ทำให้ทางอุทยานแห่งชาติไม่อาจเข้าไปดำเนินการอะไรได้มากนัก นอกจากควบคุมดูแลไม่ให้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยการตรวจสอบสภาพรอบนอก และบินสำรวจทางอากาศ

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินงานของทางเอ็กซ์ไซด์ รีสอร์ท นั้น เป็นการจัดการกันเองในระบบครอบครัวของผู้รับสัมปทานรังนก ซึ่งเป็นการกางเต็นท์ชั่วคราว ครั้งละประมาณ 20-30 หลัง และยังเป็นการจัดกรุ๊ปทัวร์มาเองทั้งหมดด้วย ซึ่งบุคคลภายนอกไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้โดยตรง ทั้งนี้ จะมีการจัดการท่องเที่ยวเป็นรูปแบบเดินป่า และดำน้ำดูปะการัง เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวทางทะเลทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้ประสานให้เจ้าของรีสอร์ทจัดอพยพทุกคน ทั้งเจ้าหน้าที่ คนงาน และนักท่องเที่ยว ออกจากพื้นที่เกาะหลาวเหลียงให้หมด และประกาศเป็นเขตอันตราย โดยไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งหลังจากนี้ไปคาดว่าทางเจ้าของรีสอร์ท อาจจะมีการดำเนินกิจการสัมปทานรังนกเพียงอย่างเดียว

ส่วนความรับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตนั้น ทราบว่า ทางเจ้าของยินดีจัดการให้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นคนงานของทางรีสอร์ทโดยตรง ซึ่งนอกเหนือจากนายประทีป จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยกุ๊ก ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของทุกๆ ปีแล้ว ยังรับจ้างในการเฝ้าดูแลรังนกอีแอ่นอีกด้วย

ร.ต.ต.โอภาศ ไชยบุญ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.ปะเหลียน เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติได้เดินมารับศพของผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังบ้านเกิดแล้ว โดยมีสภาพศพที่แหลกเหลวไปทั้งร่างกาย ในลักษณะลำตัวพับ เนื่องจากเหตุเกิดขณะที่ นายประทีป กำลังนั่งขูดปลาเพื่อทำอาหารเช้าให้กับทางรีสอร์ท และเสียชีวิตขณะที่ภายในมือของเขายังคงกำมีดทำครัวอยู่ ส่วนเจ้าของรีสอร์ทนั้นทราบชื่อ คือ นายพาณิชย์ ภิญโญวัฒนากร อายุ 28 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

ด้าน นายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดมาตรการป้องกันและเตือนภัยที่เกิดจากธรรมชาติ โดยให้ทุกฝ่ายมีการตื่นตัว พร้อมเร่งดำเนินการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น น้ำตก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลนั้น ได้กำชับให้นายอำเภอ หรือองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผ่นป้ายประกาศให้นักท่องเที่ยวรู้จักเที่ยวอย่างปลอดภัย และให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์จริง เพื่อประกอบในการตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม จากภาวะฝนตกหนักในช่วงนี้ รวมทั้งเป็นช่วงที่กำลังเข้าสู่ฤดูฝน จึงอยากฝากเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง ด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ภูเขา ถ้ำ และน้ำตก ซึ่งอาจเกิดภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ และขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามฟังพยากรณ์อากาศ จากทางกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นระยะๆ ด้วย

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์