รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเต้นหลังพบว่ามีการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นจำนวนมากจนเหลือพื้นที่ป่าในขั้นวิกฤต โดยเฉพาะในพื้นที่กันตัง จึงเตรียมแก้ปัญหาด้วยการเน้นงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อทุกแขนงเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับชาวบ้านในพื้นที่
นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดตรัง พบปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมากมายมหาศาล แต่ในการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีนั้นมักจะไม่ค่อยพบตัวผู้ก่อเหตุ
โดยก่อนหน้านี้ พื้นที่ป่าไม้ในจังหวัดตรัง เคยมีอยู่ประมาณ 1,475,625 ไร่ ประกอบด้วย ป่าในพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ป่าไม้ถาวร ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอุทยานแห่งชาติ ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และป่าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่า จนกระทั่งเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมาพบว่า พื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดตรังเหลือเพียง 711,065 ไร่ จนนับว่าอยู่ในขั้นวิกฤต
นอกจากนั้น จากการรายงานผลการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ว่าด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2549 - 31 มีนาคม 2550 มีคดีเกิดขึ้นทั้งหมด 75 คดี และมีป่าไม้ถูกบุกรุกทำลายไป 970.84 ไร่ โดยอยู่ในพื้นที่อำเภอกันตังมากที่สุด มีป่าไม้ถูกบุกรุกทำลาย 390.92 ไร่ รองลงมา คือ อำเภอวังวิเศษ มีป่าไม้ถูกบุกรุกทำลาย 222.61 ไร่
ดังนั้น ต่อจากนี้ไปทางจังหวัดตรังจะต้องเน้นงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อทุกแขนงเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ รวมไปถึงนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์