“ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม” พร้อมคณะลงพื้นที่เมืองหมูย่าง ร่วมประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติ พร้อมตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำป่าถล่ม 2 น้ำตกดัง ก่อนเดินทางไปให้กำลังครอบครัวผู้สูญเสีย
วันนี้ (22 เม.ย.) เวลา 11.00 น.นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เดินทางไปยังหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดตรัง เพื่อร่วมประชุมการป้องกันและเตรียมพร้อมต่ออุบัติภัย และการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยยั่งยืน เพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่ายในอนาคต อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม 2 น้ำตกชื่อดังของจังหวัดตรัง ได้แก่ น้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 38 ศพ เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ได้มีผู้แทนจากส่วนราชการ เช่น เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อป.พร.) นำโดย นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จากตัวแทนชุมชนใกล้เคียงน้ำตกในเขตเทือกเขาบรรทัด เช่น น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกไพรสวรรค์ ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว น้ำตกโตนเต๊ะ ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน ตลอดจนตัวแทนจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) มาเข้าร่วมประชุมจำนวนประมาณ 50 คน
นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ในระยะหลังมานี้ได้มีอุบัติภัยต่างๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ทางรัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญกับการรวมพลังของทุกภาคส่วนในการวางแผนเตรียมพร้อม และจัดการกับอุบัติภัยทุกรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ปลอดภัยและยั่งยืน โดยไม่ได้มุ่งแต่รายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
โดยเรื่องดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีการรวมพลังของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งมีกลไกการจัดการเชิงพื้นที่ที่ให้ความสำคัญกับบทบาทภาคประชาชนและชุมชนท้องถิ่น โดยมีภาคราชการให้การสนับสนุน
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ ตนได้รับฟังปัญหาและข้อคิดเห็นในการหามาตรการดูแลพื้นที่ท่องเที่ยว หรือการเตรียมพร้อมต่อภัยพิบัติ และป้องกันไม่ให้พื้นที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ซึ่งจากการประชุมขับเคลื่อนทางสังคมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้ง พม.และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้มีข้อเสนอ ว่า ภายใน 4-6 เดือนนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์อาสาสมัครบรรเทาและฟื้นฟูปัญหาจากภัยพิบัติขึ้น เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานที่จะเป็นตัวกลางในภาคประชาชนในการเชื่อมโยงถึงหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาร่วมมือทางข้อมูล และทรัพยากร เพื่อช่วยลดช่องว่างในสถานการณ์ภัยพิบัติขนาดใหญ่ โดยในระยะแรกจะเน้นเฉพาะภัยพิบัติธรรมชาติก่อน
สำหรับด้านความช่วยเหลือต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 38 ราย จากเหตุการณ์น้ำป่าถล่ม 2 น้ำตกชื่อดังของจังหวัดตรังนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตรัง มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้วรายละ 2,000 บาท และทางศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 14 ยังได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้เพิ่มอีกรายละ 2,000 บาท หลังจากนั้น ตนก็จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล และให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ทั้งในเรื่องของสุขภาพจิต และในเรื่องการแก้ปัญหาด้านอื่นๆ ต่อไป
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางไปตรวจสภาพพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์น้ำป่าถล่มที่บริเวณน้ำตกสายรุ้ง หมู่ที่ 4 ตำบลนาชุมเห็ด อำเภอย่านตาขาว ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตมากถึง 31 ศพ ก่อนที่จะเดินทางไปให้กำลังใจครอบครัวที่ต้องสูญเสียสมาชิกไปหลายคน ซึ่งมีบ้านอยู่ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว และอำเภอวังวิเศษ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์