แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ตรัง, ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลปลาทะเลตรังตายเกลื่อน ( ข่าวตรัง )

ปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิน้ำนั้น ส่งผลให้ปลาในทะเลบริเวณตรังน็อกตาย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแถบชายทะเลฝั่งอันดามัน แต่ไม่อันตรายอย่างใด
      
จากกรณีที่ได้เกิดปัญหาปลาทะเลน้ำลึกในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล และในหลายเขตพื้นที่ของจังหวัดกระบี่ และตรัง ได้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำในลักษณะทุรนทุรายและตายลงในที่สุดก่อนที่จะถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง
      
ขณะเดียวกัน น้ำทะเลในพื้นที่เหล่านั้นก็มีการเปลี่ยนเป็นสีแดง เบื้องต้นสาเหตุการตายของปลาดังกล่าวคาดว่าน่าจะมาจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำนั้น
      
วันนี้ (2 เม.ย.) นายจรัญ ขุนณรงค์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดตรัง ยังพบปรากฏการณ์ดังกล่าวน้อยกว่าในส่วนของจังหวัดสตูลและกระบี่ ซึ่งจะพบในแนวเขตเกาะลันตาแถบหินม่วง-หิน แดง และจากการตรวจสอบตัวอย่างปลาที่เสียชีวิตจากปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่พบสารพิษ จึงเชื่อว่าการตายของปลาไม่ได้เกิดจากการวางยา หรือการระเบิดโดยฝีมือของมนุษย์ และน่าจะเกิดจากสาเหตุธรรมชาติ
      
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คงมาจากผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำเนื่องจากภาวะโลกร้อนจนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และเกิดกระแสน้ำเย็นไหลผ่าน
      
ทั้งนี้ เมื่อปลาน้ำลึกต้องเจอสภาพน้ำเย็นจัดจึงไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายได้ ทำให้ต้องหนีมาหาน้ำอุ่นเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องตายเช่นเดียวกับการน็อกปลาในน้ำแข็งทั่วไป ซึ่งขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้จัดหน่วยออกลาดตระเวนเพื่อทำการตรวจสอบว่ายังคงมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกหรือไม่
      
พ.ต.อ.เลิศชาย ถิ่นรัตน์ ผู้กำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดตรัง กล่าวถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา โดยในส่วนของจังหวัดสตูลจะเกิดขึ้นมากที่สุด รองลงมาอยู่ในส่วนของจังหวัดกระบี่ และตามด้วยจังหวัดตรัง ที่บริเวณเกาะไหง และเกาะกลาง ทำให้ฝูงปลากระเบนจำนวนมาก ต้องว่ายน้ำหนีจากทางทิศใต้ขึ้นมายังทิศเหนือ ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้ก็ไม่เคยมีใครเคยพบเห็นมาก่อน เช่นเดียวกับการที่น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดง
      
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เลิศชาย คาดว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 อย่างน่าจะเกิดจากธรรมชาติ โดยการตายของปลานั้นมาจากการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิน้ำใต้ทะเล ทำให้เกิดแก๊สใต้น้ำทำให้ปลาไม่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้ทัน ส่วนการที่น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงนั้น เป็นการเพิ่มจำนวนของแพลงตอน หรือที่เรียกกันว่าขี้ปลาวาฬนั่นเอง
      
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่คิดว่าเป็นผลมาจากการปล่อยถ่ายน้ำมันลงสู่ทะเล ซึ่งขณะนี้ทางกองบังคับการตำรวจน้ำได้ทำความเข้าใจกับท่องเที่ยวไปแล้วว่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแถบชายทะเลฝั่งอันดามันแต่ไม่อันตรายอย่างใด โดยเกิดมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือภาวะโลกร้อน

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215