นายอำเภอย่านตาขาวจังหวัดตรัง ยันการซ่อมแซมเมรุวัดอัมพวันโปร่งใส หลังชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากปล่องเมรุเกิดพังลงมาขณะที่กำลังมีการฌาปนกิจศพ
จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของวัดอัมพวัน (โคกมะม่วง) หมู่ที่ 10 ตำบลเกาะเปียะ หลังปล่องควันของเมรุวัดได้พังลงมา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ขณะทำการฌาปนกิจศพนางลับ นะวะกะ อายุ 84 ปี และต่อมาทางวัดได้รับการบริจาคเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 300,000 บาท มาเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมเมรุเผาศพที่แตกร้าว แต่ระยะเวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้วก็ยังมิได้มีการดำเนินการใดๆ ในขณะที่เจ้าอาวาสวัดอัมพวันชี้แจงว่าผู้ที่ออกมาร้องเรียนในครั้งนี้เป็น เพราะความไม่พอใจส่วนตัวนั้น
นายวีระพงศ์ หลีเจริญ นายอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า ตนพร้อมฝ่ายต่างๆ เช่น ผู้กำกับการ สภ.อ.ย่านตาขาว เคยเข้าไปประชุมรับฟังถึงปัญหาเรื่องนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเงิน 3 แสนบาทที่ทางวัดได้รับบริจาคมาจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อนำมาซ่อมแซมเมรุที่ได้พังลงมานั้น แต่เนื่องจากนายช่างระบุว่าไม่สามารถซ่อมแซมได้ ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องทำการก่อสร้างเมรุขึ้นมาใหม่บริเวณหน้าวัด แต่เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอเอกสารสิทธิ ขณะนี้จึงยังไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรได้
แต่คาดว่าเมื่อเรื่องเอกสารสิทธิที่ดินของวัดแล้วเสร็จเรียบร้อยก็คงจะดำเนินการก่อสร้างเมรุขึ้นมาใหม่ทันที ส่วนเงินจำนวน 3 แสนบาทที่ทางวัดได้รับบริจาคมาจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น นายอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า ทางเจ้าอาวาสวัดอัมพวันได้ทำสัญญากู้ยืมถูกต้องและนำเงินไปใช้จ่ายในการบริหารกิจการของวัดด้านอื่นๆ ไปพลางก่อน
โดยมิได้มีการอมเงินหรือนำเงินไปใช้ในทางไม่เหมาะสม และได้ทำบัญชีหรือรายงานค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ตรวจการจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้เดินทางมาเห็นด้วยตาแล้วว่า เมรุหลังเก่าไม่สามารถซ่อมแซมได้จริงๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลาทางเจ้าอาวาสก็จะนำเงินที่ยืมไปทั้งหมดกลับคืนมา เพื่อให้การก่อสร้างเมรุเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์