ชาวบ้านอำเภอย่านตาขาว เมืองตรัง เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเงินซ่อมแซมเมรุวัดอัมพวัน 300,000 บาท ซึ่งได้มาจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งยังไม่มีการดำเนินการจากเจ้าอาวาสเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว
นายชลิต รำมะนา อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของวัดอัมพวัน (โคกมะม่วง) หมู่ที่ 10 ตำบลเกาะเปียะ หลังปล่องควันของเมรุวัดได้พังลงมา เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ขณะทำการฌาปนกิจศพ นางลับ นะวะกะ อายุ 84 ปี โดย นายชลิต ได้อ้างถึงหนังสือของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ได้บริจาคเงินมาให้วัดอัมพวัน 300,000 บาท เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมเมรุเผาศพที่แตกร้าว แต่ระยะเวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้ว ก็ยังมิได้มีการนำเงินก้อนนี้ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
พระใบฎีกาประกิตต์ กวิสสโร เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ชี้แจงว่า เมรุของวัดได้แตกร้าวมานานแล้ว ตนจึงทำหนังสือถึงสำนักงานสลากฯ เพื่อของบประมาณมาซ่อมแซม แต่ช่างได้รายงานว่า ฐานของเมรุทรุดโทรมหมดแล้ว ต้องทุบทิ้งและสร้างใหม่ทั้งหมด โดยจะต้องใช้งบประมาณ 800,000 บาท
นอกจากนั้น หากจะสร้างเมรุใหม่ที่จุดเดิม ก็จะก่อให้เกิดมลภาวะและเดือดร้อน ตนจึงคิดว่าน่าจะสร้างใหม่ที่ด้านหน้าของวัด เนื่องจากมีที่ดินเหลืออีก 27 ไร่
แต่มีปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่ปี 2530 เพราะถูกประกาศว่าเป็นที่สาธารณะทำให้ต้องเสียเวลาแก้ปัญหาอยู่นานในส่วนของเงิน 300,000 บาท ที่ได้รับมาจากสำนักงานสลากฯนั้น ตนได้ทำสัญญากู้ยืมเงินก้อนนี้จากทางวัด เพื่อนำมาทดรองจ่ายในการบริหาร เนื่องจากวัดมีหนี้สินอยู่มากมาย ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาก่อสร้างเมรุวัดอัมพวันหลังใหม่ ตนก็จะนำเงินที่ได้ทดรองจ่ายคืนกลับให้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2549 ทางวัดก็ได้เคยเชิญนายอำเภอนาโยง ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา และ ผกก.สภ.อ.ย่านตาขาว มาประชุมชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่สาเหตุที่ตนถูกร้องเรียนในครั้งนี้ เป็นเรื่องไม่พอใจส่วนตัวของผู้ร้อง ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่รับทราบปัญหานี้ดี
นายวีระพงศ์ หลีเจริญ นายอำเภอย่านตาขาว กล่าวว่า ตนพร้อมฝ่ายต่างๆ เคยเข้าไปประชุมรับฟังถึงปัญหาเรื่องนี้มานานแล้วเงินจำนวน 300,000 บาท ที่ได้รับบริจาคมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อนำมาซ่อมแซมเมรุนั้น แต่หลังจากที่ซ่อมไม่ได้ และอยู่ระหว่างการรอเอกสารสิทธิ เจ้าอาวาสได้ทำสัญญากู้ยืมถูกต้องและนำเงินไปใช้จ่ายในการบริหารกิจการของวัดด้านอื่นๆ ไปก่อน
ทั้งนี้ มิได้มีการอมเงินหรือนำเงินไปใช้ในทางไม่เหมาะสม เนื่องจากเจ้าอาวาสได้ทำบัญชี และรายงานค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ตรวจการจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้เดินทางมาเห็นด้วยตาแล้วว่า เมรุหลังเก่าไม่สามารถซ่อมแซมได้และต้องสร้างใหม่ โดยจุดที่เหมาะสมก็เป็นบริเวณพื้นที่หน้าของวัด ที่กำลังรอโฉนดที่ดินจากสำนักงานที่ดินอำเภอย่านตาขาวอยู่ในขณะนี้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์