ตรัง, ตรังรณรงค์ปลูกข้าวโพดหวานแก้ปัญหาเกษตรกรว่างงานหน้าแล้ง ( ข่าวตรัง )

อำเภอเมืองตรัง จัดโครงการรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดหวาน ช่วงหน้าแล้ง แก้ปัญหาเกษตรกรว่างงาน-ส่งเสริมรายได้ใช้พื้นที่นาข้าวเดิมกว่า 300 ไร่ คาดสร้างรายได้เพิ่มอีกรายละเท่าตัวผ่านมา 3 ปี ประสบความสำเร็จดีเยี่ยม เกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว 50 ราย เตรียมขยายเพิ่มเติม
      
นายภูวนารถ สินทรัพย์ นายอำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง ได้จัดโครงการ “ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ประจำปี 2550” ด้วยการเปิด “โรงเรียนข้าวโพดหวาน” ขึ้นในพื้นที่หมู่ 4 บ้านนางน้อย ต.นาพละ อ.เมืองตรัง ทั้งนี้ ได้ทำการปลูกข้าวโพดหวาน ลูกผสมเดี่ยว พันธุ์อินทรี 2 ในพื้นที่นาข้าว หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จสิ้นลงไปแล้ว มีเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 50 ราย
      
โดยใช้พื้นที่นาข้าวทั้งหมด 300 ไร่ ปกติแล้ว การทำนาของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลนาพละ จะเป็นการทำนาน้ำฝนปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเกษตรกรแต่ละราย จะมีการทำนาเฉลี่ยคนละ 4 ไร่ และได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 500 กิโลกรัม มีรายได้เฉลี่ยรายละ 16,000 บาท จึงถือเป็นรายได้ที่ต่ำ ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ
      
ดังนั้น ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ตำบลนาพละ และผู้นำชุมชน จึงได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง ในการส่งเสริมให้เกษตรกร ปลูกพืชหน้าแล้ง โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพดหวาน ซึ่งเป็นพืชอายุสั้น และได้ผลตอบแทนสูง โดยได้ดำเนินการติดต่อกันมาแล้ว 3 ปี ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา
      
ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการโดยผ่านขบวนการโรงเรียนเกษตรกร ในการเรียนรู้ และวางแผนร่วมกัน ทำให้ได้รับผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 2,097 กิโลกรัม จำหน่ายได้ราคากิโลกรัมละ 15 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงิน กว่า 8,181,000 บาทต่อราย ส่งผลให้เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยคนละ 16,000 บาท

นอกจากนั้น พื้นที่ปลูกข้าวโพดหวานดังกล่าวยังอยู่ติดกับฝายกั้นน้ำ จึงทำให้ไม่ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง พร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง จากสำนักงานชลประทานเขต 16 สงขลา ในการส่งน้ำจากฝายกั้นน้ำ เข้าสู่แปลงปลูกข้าวโพดหวานทั้งหมด
      
อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านพ้นไป 3 เดือน หลังจากนี้แล้ว เกษตรกรก็สามารถเก็บผลผลิตออกมาจำหน่ายได้ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะมีการจัดงานวันข้าวโพดหวานขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะถือเป็นโครงการที่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน และปัญหาการว่างงานของเกษตร ในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดียิ่ง

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์