กลุ่มสำรวจฯ ทะเลและชายฝั่งระบุเต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์ เผยสาเหตุเพราะติดอวนประมง-ถูกขโมยไข่เต่า เตรียมโครงการอนุบาล “เต่าตนุ” เพิ่มขึ้น 50%
นส.อุมา เกื้อกูล กลุ่มสำรวจและศึกษานิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ดูแลฝั่งทะเลสงขลา พัทลุง นครศรี ธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส เปิดเผยว่า ทางกลุ่มสำรวจฯ มีโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์เข้าทุกขณะในฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่าง สาเหตุเพราะติดอวนชาวประมงและเต่าวางไข่ถูกแอบขโมย จึงทำให้รอดชีวิตประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
“ไข่เต่าและเต่ามีความต้องการของตลาดสูงมากโดยเฉพาะ ในท้องตลาดราคาจะสูงมาก ไข่เต่าฟองละ 25 บาท เต่าทะเลมีหลายพันธุ์ มีน้ำหนักประมาณ 50 -100 กก. ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จึงมีโครงอนุรักษ์เต่าทะเล มีการอนุบาลเต่าตนุ ในปี 2549 เป็นปีแรกประมาณ 400 ฟอง
“โดยนำไข่เข่าเต่าตนุมาอนุบาลให้ได้ประมาณ 1 ปี แล้วปล่อยลงสู่ทะเลอนุบาลที่ศูนย์สงขลา ประมาณ 100 ฟอง นอกนั้นนำไปอนุบาลที่ศูนย์ชุมพร ระนอง และที่ศูนย์ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และในปี 2550 ทางศูนย์ฯ วางนโยบายอนุบาลเต่าตนุ เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์”
นส.อุมา ยังเปิดเผยว่า ก่อนจะปล่อยเต่าตนุลงสู่ทะเลมีการติดไมโครชิปไว้ที่เต่าตนุเพื่อจะได้รับทราบการเคลื่อนไหวจะไปขึ้นที่ไหน ถ้าไปฝั่งอินโดจีนก็จะได้รับทราบ เต่าทะเลโดยเฉพาะเต่าตนุจะมีมากที่เกาะกระ เป็นเขตอนุรักษ์ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เต่าจะวางไข่ชายหาดเกาะกระตลอดทั้งปี แต่จะวางมากที่สุด ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม ส่วนฝั่งทะเลอ่าวไทย ปัตตานี และนราธิวาส ยังไม่ได้สำรวจเพราะสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่
“เต่าตนุ เป็นสัตว์น้ำอนุรักษ์และหายากในปัจจุบัน ทราบมาว่าเต่าตนุจะติดอวนชาวประมง แล้วจะนำไปขายให้กับแพปลา ส่วนไข่เต่าเมื่อวางไข่ที่ชายหาด จะมีคนมาแอบขโมยจนเหลือน้อย ประมาณ 1% จากที่วางไข่ประมาณ 1,000 ฟอง
“และจากการสำรวจตรวจพบที่ชายหาดเกาะกระ เต่าตนุเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากเพราะรับประทานไปแล้วมีความเชื่อว่าอายุวัฒนะ เพื่ออนุรักษ์เต่าตนุอย่าให้สูญพันธุ์ จึงขอความร่วมมือชาวประมง เมื่อเต่าตนุ ติดอวนแล้ว ก็ควรปล่อยลงทะเลด้วย”
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์