รองนายก และสมาชิก อบต.โคกหล่อ ในเมืองหมูย่าง ขนประชาชนร้องนายอำเภอเมืองตรัง ถูกสั่งปลดจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม แถมเอาคืนก๊วนนายก อบต.ที่เป็นชนวนเหตุด้วยการร้องกลับเรื่องทุจริตยาวเหยียด ขีดเส้น 21 ก.พ.นี้ต้องได้คำตอบ
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 11.30 น. นายบรรจบ ภูมิมาตร อดีตรองนายก อบต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง นางสุจินดา ภูมิมาตร อดีตสมาชิกสภา อบต.โคกหล่อ หมู่ที่ 12 นายวิเชียร รักทองหล่อ กำนันตำบลโคกหล่อ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2, 4, 6, 11, 12 และตัวแทนชาวบ้าน รวมประมาณ 30 คน พร้อมป้ายผ้าและผ้าคาดศีรษะข้อความว่า “กู้โคกหล่อ” ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายภูวนาท สินทรัพย์ นายอำเภอเมืองตรัง เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่ได้มีการสั่งปลดนายบรรจบ และนางสุจินดา ออกจากตำแหน่งอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยขอให้มีการสอบสวนใหม่ รวมทั้งขอให้มีการสั่งย้าย ส.ต.อ.สมหวัง เกลี้ยงทอง ปลัด อบต.โคกหล่อ โดยกล่าวหาว่ารู้เห็นเป็นใจกับนายก อบต.ในการกลั่นแกล้งนายบรรจบ และนางสุจินดา ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังถูกร้องเรียนว่ามีส่วนได้เสียโดยตรงในสัญญากับ อบต.โคกหล่อเกี่ยวกับการจัดงานวันผู้สูงอายุของตำบลโคกหล่อ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2549
รวมทั้งยังมีการรู้เห็นและร่วมกันทุจริตเชิงนโยบายจากการดำเนินโครงการต่างๆ ของ อบต.โคกหล่อ เช่น โครงการจัดตั้งสหกรณ์โคกหล่อ จำกัด และโครงการ จ้างเหมาบริการรถยนต์ใช้ในราชการ (ในนามห้างหุ้นส่วนพระอังคาร์สีแดง) แต่กลับมีการนำไปใช้ส่วนตัว และจอดภายในบ้านของนายก อบต.กับปลัด อบต.ทุกคืน ตลอดจนร้องทุกข์กล่าวโทษถึงการทำงานของนายธนพนธ์ ช่วยจันทร์ หัวหน้าส่วนโยธา อบต.โคกหล่อ ว่า เป็นผู้รับเหมางานของ อบต.โคกหล่อเสียเอง โดยใช้ชื่อว่านายประดิษฐ์ เอียดจุ้ย
ดังนั้น จึงขอให้นายอำเภอเมืองตรังตรวจสอบการรับเหมาโครงการต่างๆ และตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย ตลอดจนการหมุนเวียนเงินในบัญชีของนายประดิษฐ์และนายธนพนธ์ พร้อมกับขอให้นายอำเภอเมืองตรังมีคำสั่งย้ายปลัด อบต.โคกหล่อ กับหัวหน้าส่วนโยธา อบต.โคกหล่อภายในวันที่ 21 ก.พ.นี้
นายภูวนาท สินทรัพย์ นายอำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า ผลจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนเป็นที่มาของการสั่งปลดนายบรรจบ และนางสุจินดา ออกจากตำแหน่งนั้น ถือว่าได้พิจารณาด้วยพยานหลักฐานอย่างรอบ และถือว่าสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ได้
สำหรับในการส่วนของการย้ายปลัด อบต.โคกหล่อกับหัวหน้าส่วนโยธา อบต.โคกหล่อจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน โดยรับปากจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มผู้ร้องเรียนที่เดินทางมาในครั้งนี้ ได้ขีดเส้นการทำงานของนายอำเภอเมืองตรังไว้แค่วันที่ 21 ก.พ.นี้เท่านั้น ซึ่งหากถึงกำหนดแล้วยังไม่ทราบผลกลุ่มผู้ร้องเรียนก็จะยกพลมาประท้วงใหญ่อีกครั้ง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์