ตรัง, เศรษฐกิจตรังสวนค่าเงินบาทแข็ง ท่องเที่ยวเต็งโกยเงิน ( ข่าวตรัง )

พาณิชย์จังหวัดตรังเผย แม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะค่าเงินบาทแข็งตัว แต่การส่งออกตรังในปี 2549 ยังมีมูลค่าเพิ่มสูงขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าลดลง และปีนี้ก็ยังมีแนวโน้มที่ดีจากรายได้การท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ขณะที่ผลของค่าเงินบาท มีส่วนผลักดันให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้ามาด้วยใช้เงินทุนน้อยกว่า ยกเว้นสินค้าราคาเกษตรที่มีราคาตกต่ำลง

นายสุรพล สุวรรณกุล พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยถึงภาวการณ์ส่งออกและนำเข้าของจังหวัดตรัง ว่า ขณะนี้สินค้าส่งออกที่สำคัญของจังหวัดตรัง ได้แก่ ยางพารา ไม้ยางพารา ปูนซีเมนต์ แร่ยิปซั่ม แร่โซเดียม แฟลด์สปาร์ มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 8,712 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2548 ถึง 33 % สำหรับสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ถ่านหิน เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องมือ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ มีมูลค่าการนำเข้า 430.4 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าลดลงจากปี 2548 ที่ผ่านมา ถึง 50.5 %

พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า หากมองถึงค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าสูงขณะนี้จะเกิดทั้งผลดีและผลเสีย โดยผลดี คือ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจให้แก่นักลงทุน ที่จะหันมาเลือกลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากมีการใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่า หรือมีมูลค่าการลงทุนที่ลดลง ส่วนผลเสีย คือ การส่งผลกระทบต่อด้านการส่งออก ที่เกิดจากอัตราการแลกเปลี่ยนที่ลดลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ายังจะส่งผลกระทบต่อสินค้าทางการเกษตร เนื่องจากผู้ผลิตจะต้องซื้อสินค้าในราคาที่ต่ำลง ทำให้ผลผลิตมีราคาลดน้อยลง ส่วนด้านการท่องเที่ยวจะทำให้นักท่องเที่ยวเลือกออกไปเที่ยวยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเลือกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยลดลงตามไปด้วย

นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่ยางพาราซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดตรัง ได้ประสบปัญหาราคาตกลดลงมา ทำให้เศรษฐกิจต้องชะลอตัวลงตามไปด้วย เพราะก่อนหน้านี้มีชาวสวนยางพาราจำนวนมากที่วางแผนในการใช้-จ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว แต่หากราคายางพารายังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ คาดว่ายังคงไม่มีปัญหามากนัก

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2549 มาจนถึงในช่วงไตรมาส ที่ 1 ของปี 2550 ก็มีตัวช่วยที่ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดตรังดีขึ้นมาคือ รายได้จากการท่องเที่ยว ในช่วงไฮซีซั่นนี้ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกในภาคใต้น้อยกว่าปีก่อนๆ ทำให้สะดวกต่อเดินทางมาท่องเที่ยว ในขณะที่การลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากภาคการเกษตร ก็มีภาวะที่ดีขึ้นตามลำดับเช่นกัน

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์