ตรัง, อุกอาจยิงเสี่ยเจ้าของร้านศูนย์ผสมสีเมืองตรังดับ ( ข่าวตรัง )

คนร้ายบุกยิงเจ้าของร้านศูนย์ผสมสีเมืองหมูย่างอุกอาจ กระสุนตัดขั้วหัวใจทะลุหลัง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจขณะนำส่ง รพ.ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (8 ม.ค.) พ.ต.ท.โกศล ปราบกรี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันภายใน หจก.ไทยรุ่งเรืองโลหะ 1993 เลขที่ 298/27 ปากซอย 12 ถนนห้วยยอด ปากทางเข้าสถานีขนส่ง (บขส.) จังหวัดตรัง ในเขตเทศบาลนครตรัง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล ผู้กำกับการ พ.ต.ท.ชัยโรจน์ โพธิปฐม รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม พ.ต.ท.วดล คงแก้ว รักษาการรองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน พ.ต.ต.ปรีดี นาคช่วย สารวัตรป้องกันและปราบปราม พ.ต.ต.นเรศ นุ้ยโดด สารวัตรสืบสวน ร.ต.อ.พิชัย พงศาปาน รองสารวัตรสืบสวน และเจ้าหน้าที่ ตำรวจวิทยาการจังหวัดตรัง

ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด และไทยมุง เป็นจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บมีคนนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ในเขตเทศบาลนครตรัง ไปก่อนหน้านี้แล้ว และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทราบชื่อคือ นายกิตติชัย หรือ โกเส็ง แซ่โง้ว อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว โดยถูกยิงด้วย อาวุธปืนขนาด 9 มม.และอาวุธปืนลูกซองสั้น เข้าที่หน้าอกซ้ายตัดขั้วหัวใจทะลุหลังหลายแผล และที่บริเวณขมับซ้ายอีก 1 แผล ส่วนที่เกิดเหตุพบปลอกระสุน 9 มม.1 ปลอก และหัวกระสุนลูกซองสั้น 1 หัว ตกอยู่

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายมีจำนวน 3 คน ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซู ดีแมคซ์ สีบรอนซ์-เทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และหมวดอักษร แต่เป็นป้ายจังหวัดกระบี่ มาจอดบริเวณหน้าร้านแล้วคนร้าย 2 ใน 3 ได้เดินเข้าไปในร้านโดยคนหนึ่งสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ อีกคนสวมเสื้อเชิ้ตลาย โดยไม่มีการอำพรางใบหน้า ซึ่งในขณะนั้นผู้ตายกำลังขายของให้กับลูกค้าอยู่พอดี แล้วคนร้ายทั้งคู่ ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ประมาณ 2-3 นัด ก่อนที่จะวิ่งขึ้นรถกระบะที่เพื่อน ติดเครื่องรถรออยู่ แล้วหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง

พ.ต.ท.โกศล ปราบกรี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.อ.เมืองตรัง กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ น่าจะเป็นมืออาชีพ เนื่องจากกล้าที่จะก่อเหตุในช่วงกลางวัน และบุกยิงผู้เสียหายถึงภายในร้าน ซึ่งมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ว่าเป็นเรื่องใด โดยอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องธุรกิจ หรือเรื่องชู้สาว แต่คงต้องรอสอบสวนญาติและคนสนิทผู้ตายเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการ สังหารที่แท้จริง

พ.ต.ท.โกศล กล่าวอีกว่า ส่วนป้ายทะเบียนรถกระบะคันที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นการเอาทะเบียนรถของคนอื่นมาสวม อย่างไรก็ตาม เนื่องภายในร้านได้มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพขณะที่คนร้ายลงมือไว้ได้ คาดว่าจะเป็นหนึ่งในเบาะแสที่จะช่วยในการติดตามคนร้ายรายนี้

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์