ตำรวจจังหวัดตรัง ตั้งด่านตรวจค้นรถที่สัญจรผ่านเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน กรณีถูกใช้เป็นทางผ่านของขบวนการก่อความไม่สงบ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (5 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองตรัง ฝ่ายป้องกันและปราบปราม นำโดย ร.ต.อ.นิกร ปานแก้ว รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.อ.เมืองตรัง นำโดย ร.ต.อ.ปราโมทย์ สังข์ทอง รองสารวัตรจราจร ได้นำกำลังรวมจำนวนกว่า 20 นาย ร่วมกันตั้งด่านตรวจสกัดรถยนต์ต้องสงสัย ที่บริเวณถนนสายตรัง-พัทลุง ขาเข้าตัวเมืองตรัง
ในการตรวจค้น จะมีการเน้นเฉพาะรถยนต์ต้องสงสัยที่มาจากพื้นที่เป้าหมายจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นอกจากนั้น ในการตรวจค้นยังได้มีการนำเครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบมือถือ จำนวน 1 เครื่อง มาตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ทั้งภายในรถยนต์และตัวบุคคล เพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งอาจจะเดินทางเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดตรังหรือจังหวัดใกล้เคียง โดยใช้เส้นทางจังหวัดตรังเป็นทางผ่านในการเดินทาง และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ถึงเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การตรวจค้นดังกล่าวปรากฏว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง ตรัง ได้รับแจ้งว่า พบรถกระบะต้องสงสัย 1 คัน จอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมธรรมรินทร์ธนา โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนห้วยยอด ในเขตเทศบาลนครตรัง จึงนำกำลังไปทำการปิดกั้นพื้นที่ เพราะทราบว่ารถคันนี้จอดทิ้งไว้ถึง 2 วันแล้ว และสงสัยว่าอาจจะมีวัตถุระเบิดอยู่ภายใน แต่ต่อมาไม่นานได้ มีผู้มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ และเมื่อตรวจสอบภายในแล้วไม่พบสิ่งของต้องสงสัยใดๆ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์