ตรัง, จับหมอฟันชาวจีน ตระเวนทำฟันเถื่อนที่ ตรัง ( ข่าวตรัง )

สาธารณสุขตรังร่วมกับเจ้าหน้เที่ตำรวจนำกำลังตรวจค้นและจับกุมหมอฟันชาวจีนดัดแปลงรถยนต์เป็นคลีนิกเถื่อนตระเวนให้บริการทำฟันกับประชาชนโดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุมได้ยกแก๊ง

วันนี้ (3 พ.ย.) นายแพทย์วิรัช เกียรติเมธา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากกรณีที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลใช้รถยนต์เป็นพาหนะ มาดัดแปลงเป็นคลีนิกทำฟันเคลื่อนที่หรือทำฟันเถื่อนออกตระเวนให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรัง ดังนั้น ตนจึงได้ออกหนังสือคำสั่งด่วนที่สุดให้กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และตำบลได้ดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังรถทำฟันเคลื่อนที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบโดยการแจ้งประสานไปยังผู้นำชุมชนและประชาชน

กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา นายดำรงค์ แจ้งไข สาธารณสุขอำเภอรัษฎา ได้รับแจ้งจากพื้นที่ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา ว่า พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยมาเร่หาบุคคลที่จะทำฟันในหมู่บ้าน พื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.รัษฎา นำกำลังไปทำการตรวจค้นและจับกุม 3 ผู้ต้องหา ทราบชื่อ คือ นายสมหวัง สิ่น เฟิ่น อายุ 37 ปี ชาวสัญชาติจีน ซึ่งมาจากมณฑลเสฉวน นายอรุณ พันธรักษา ซึ่งทำหน้าที่คนขับรถ และนางเกตุธิดา ธัญรัตนศรีสกุล ซึ่งทำหน้าที่เป็นล่าม

พร้อมกับของกลาง คือ รถกระบะ 1 คันและอุปกรณ์ทำฟันเคลื่อนที่ชุดใหญ่ โดยตั้งข้อหาว่า กระทำผิดฐานประกอบโรคศิลปะ หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่า ตนเป็นผู้มีสิทธิทำการประกอบโรคศิลปะ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มาตราที่ 30 ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้กันนายอรุณ และนางเกตุธิดา ไว้เป็นพยาน

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวด้วยว่า รถเร่ตระเวนให้บริการทำฟันแก่ประชาชนเหล่านี้ นอกจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนที่หลงเชื่อรับบริการด้วย เพราะผู้ที่ทำฟันนั้นไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องและเฝ้าระวัง หากพบเห็นขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการจับกุมตัวได้ทันที

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์