การจัดเก็บรังนกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดตรังยังวุ่นวายไม่เลิก เหตุยังคงมีการฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากไม่สามารถเจรจาการจ่ายค่าภาษีให้กับทางจังหวัดเป็นเงินร่วม 25 ล้านบาทได้
นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท เจต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานการจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง มีกำหนด 4 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2546 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 ด้วยวงเงินประมูล 135,000,000 บาท แต่ในที่สุดบริษัท เจต้า ไม่ได้ส่งเงินค่าภาษีอากรให้กับทางจังหวัดตามสัญญาแต่อย่างใด
ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง ได้พิจารณายกเลิกสัญญาการให้สัมปทาน และอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครองสงขลา ได้ยื่นฟ้องบังคับให้บริษัท เจต้า ชำระหนี้ แต่ศาลปกครองสงขลา ได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบรรณ
โดยให้เหตุผลว่า คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลภาษีอากร ต่อมาพนักงานอัยการเจ้าของคดีก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด แต่ศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษายืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น
นายเชิดพันธ์ กล่าวต่อว่า มาถึงขณะนี้พนักงานอัยการก็ได้รวบรวมหลักฐาน ส่งไปให้ศาลภาษีอากร สำนักงานภาษีอากร สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว เช่น บันทึกปากคำ รวมทั้งเงินค่าธรรมเนียม และอื่นๆ สำหรับเงินที่จังหวัดตรัง เรียกค่าเสียหายจาก บริษัท เจต้า ซึ่งเป็นอดีตผู้รับสัมปทานรังนกอีแอ่นจังหวัดตรังนั้น มีทั้งสิ้น 25,393,022.3 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
อนึ่ง การให้สัมปทานรังนกนางแอ่นของจังหวัดตรัง ในปัจจุบันนั้น ได้แบ่งออกเป็น 3 สัญญา คือ ท้องที่อำเภอปะเหลียน วงเงินสัมปทาน 92,500,000 บาท ท้องที่อำเภอกันตัง วงเงินสัมปทาน 16,600,000 บาท และท้องที่อำเภอสิเกา วงเงินสัมปทาน 300,000 บาท รวมวงเงินสัมปทานทั้งหมด 109,400,000 บาท มีกำหนด 4 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม และวันที่ 10 มกราคม 2548
อย่างไรก็ตาม เฉพาะในท้องที่อำเภอสิเกา ผู้รับสัมปทานต้องจ่ายอากรปีละ 60,000 บาท โดยแบ่งชำระปีละ 3 งวด คือ งวดที่ 1 ภายในวันที่ 30 มกราคมของปี 30,000 บาท งวดที่ 2 ภายในวันที่ 30 เมษายนของปี 20,000 บาท และงวดที่ 3 ภายในวันที่ 30 กรกฎาคมของปี 10,000 บาท
แต่ผู้รับสัมปทานได้มีการค้างค่างวด รวมทั้งเงินค่าปรับจนถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2549 เป็นเงิน 64,287 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะกรรมการได้เรียกผู้รับสัมปทาน คือ นายคงศักดิ์ ปฏิเวช มาชี้แจงถึงสาเหตุของปัญหาที่ไม่สามารถจ่ายค่างวดได้จากนั้นจะมีการนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์