ชาวบ้านร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่ามีโรงงานยางปล่อยน้ำเสียลงคลองมานานร่วม 3 ปี ทำให้น้ำเสียจนอุปโภคบริโภคไม่ได้ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านพื้นที่หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 6 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง จำนวน 20 ครัวเรือน ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวถึงความเดือดร้อน จากโรงงานแปรรูปยางพาราแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายตรัง-ห้วยยอด หมู่ที่ 2 ตำบลนาตาล่วง และริมทางรถไฟสายตรัง-กรุงเทพฯ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่า ตัวอาคารของโรงงานแห่งนี้มีสภาพเก่า เนื่องจากเจ้าของได้เลิกกิจการ และปล่อยทิ้งร้างเอาไว้นานแล้ว ทำให้ประตูหน้าต่างเกิดชำรุดทรุดโทรมพังเสียหาย และคงไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อีก
สำหรับบริเวณด้านหลังของโรงงานเป็นที่ราบลุ่ม มีบ่อเก็บน้ำทิ้ง 2 บ่อ แต่ไม่มีเครื่องบำบัดน้ำเสียแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำภายในบ่อน้ำทิ้งนั้น มีสีดำสนิท และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ส่วนใกล้ๆ กับบ่อน้ำทิ้งซึ่งลาดต่ำลงไป พบกับลำห้วยซึ่งมีชื่อว่า \"ห้วยหลักโดน\" ที่มีน้ำไหลรินอยู่ตลอดเวลา โดยน้ำจากห้วยดังกล่าว จะไหลไปออกทุ่งนาข่า เลียบถนนสายเลี่ยงเมือง จากนั้น จะไหลลงสู่คลองปอน พื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลนาตาล่วง และในที่สุดก็จะไหลลงสู่แม่น้ำตรัง
นายประจบ ทองตาล่วง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลนาตาล่วง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ระบุว่า โรงงานแห่งนี้ได้มีการปิดตัวลงอย่างถาวรนานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ช่วงหลังมานี้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ได้ร้องเรียนว่า มีการลักลอบแปรรูปเศษยางพาราภายในโรงงานอยู่บ่อยครั้ง และได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จึงได้เดินทางเข้ามาร้องเรียนต่อตนเองและ อบต.
ทั้งนี้ เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตุการณ์ก็พบการกระทำ ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนเดือนละ 2-3 ครั้งจริงๆ ซึ่งทาง อบต.นาตาล่วง ก็ได้ตักเตือนไปแล้วว่า ขอให้เลิกการแปรรูปเศษยางพาราอย่างเด็ดขาด หรือหากจะดำเนินการ ก็ต้องทำการปรับปรุงซ่อมแซมโรงงาน ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะดำเนินกิจการเสียก่อน แล้วมาขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่หากยังไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทำการเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานต่อไป
นางเจือบ ทองตาล่วง อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 2 ตำบลนาตาล่วง ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับโรงงาน กล่าวว่า ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงประมาณ 20 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงนานประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งคงจะเกิดมาจากการลักลอบแปรรูปเศษยางพารา เพราะหากปล่อยโรงงานทิ้งร้างไว้ภายในระเวลากว่า 3 ปี น้ำเหม็นจากบ่อน้ำทิ้งก็คงจะไม่มีกลิ่นแล้ว
โดยเฉพาะครอบครัวของตน ซึ่งมีผู้คนอาศัยกันอยู่ประมาณ 5 คน รวมทั้งยังมีเด็กเล็กๆ รวมอยู่ด้วย จะได้รับความเดือนร้อนมากที่สุด ยิ่งในช่วงค่ำ และช่วงฝนตกหนัก ทำให้เกิดสภาพอากาศปิด และจะมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง บางครั้งบุตรชายของตนทนไม่ได้ ต้องวิ่งออกไปบอกผู้ที่กำลังแปรรูปเศษยางพาราอยู่ภายในโรงงานว่า ทนไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็ยังคงดำเนินการต่อ จึงขอร้องเรียนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลโดยด่วน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์