ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

ตรัง, คดียิงทนายความเมืองตรังไม่คืบ ? ตร.สอบภรรยาคนเจ็บให้การมีพิรุธ ( ข่าวตรัง )

ผู้กำกับการ สภ.อ.นาโยง จ.ตรัง แจงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในคดียิงทนายความชื่อดัง เผยเนื่องจากพยานในเหตุการณ์ คือภรรยาของคนเจ็บกลับไม่ให้การใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แถมยังให้การมีพิรุธ ตั้งกรรมการดูแลคดี หาปมเหตุจ้างวานฆ่าหรือแค้นส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีที่ นายศักดิ์ชัย ธรรมโชโต หรือ ทนายเจี๊ยบ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ที่ 5 ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา นายสมควร จิตรแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาโยงเหนือ ได้ถูก 2 คนร้ายประกบยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลนาข้าวเสีย

โดยอยู่ห่างจากบ้านพักเพียงแค่ 500 เมตรเท่านั้น ขณะที่ นายศักดิ์ชัย กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากการทำธุระ พร้อมกับ นางดลตรี ธรรมโชโต ภรรยา และลูกน้อยวัยเพียงแค่ 1 ขวบ 5 เดือน เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการสังหาร ว่า น่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องการทำงานในการว่าความคดีต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องหนี้สินนั้น

เมื่อวันที่ 09.00 น.วันนี้ (7 พ.ค.) พ.ต.อ.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการ สภ.อ.นาโยง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตัวแทนทนายความในจังหวัดตรังกว่า 10 คน นำโดย นายอภิชิต วิโนทัย ประธานสภาทนายความจังหวัดตรัง ได้เดินทางมามอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ในเร็ววันนี้ และยังรู้สึกหวั่นเกรงต่อความไม่ปลอดภัยของทนายเจี๊ยบ ในขณะนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรังด้วย

ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อรูปคดี โดยเฉพาะจากภรรยาของผู้บาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นประจักษ์พยานปากเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และยังมีการให้การที่เป็นพิรุธอีกด้วย

เนื่องจากขณะเกิดเหตุภรรยา และลูกได้นั่งมาด้วยกัน กับรถจักรยานยนต์ที่ผู้บาดเจ็บเป็นคนขี่ แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดภรรยาและลูก ถึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้คำให้การบางส่วนขาดความเป็นจริง

และเมื่อสืบถามถึงปัญหาต่างๆ ของทนายเจี๊ยบ ว่า เคยมีปัญหาในเรื่องใดกับใครหรือไม่ ภรรยาของเขากลับพูดเพียงอย่างเดียวว่าไม่รู้ ไม่ทราบ จึงทำให้คำให้การต่างๆ ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเลย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าห้าที่ตำรวจเองได้ตั้งประเด็นของการสังหาร ไปที่การว่าความในเรื่องของคดีหนี้สิน ซึ่งบางคดีทนายเจี๊ยบก็อาจช่วยเหลือได้ แต่บางคดีก็อาจช่วยเหลือไม่สำเร็จ หรืออาจรับปากว่าจะช่วย แต่กลับกลายเป็นไม่ช่วย

ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง ก็คือ กรณีที่ทนายเจี๊ยบทำการปล่อยเงินกู้ แล้วมักจะทำการฟ้องร้อง และยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่สร้างความโกรธแค้นก็ได้เช่นกันนอกจากนั้น ผู้บาดเจ็บก็อาจจะมีปัญหาเรื่องครอบครัว ทั้งตัวภรรยาและครอบครัวภรรยา ที่ไม่สามารถตกลงพูดคุยกันได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้แต่งตั้งชุดทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อสืบหาประเด็นและสืบหาตัวคนร้ายว่า เป็นการกระทำด้วยความแค้น หรือเป็นการจ้างวานฆ่ากันแน่ ซึ่งขณะนี้ชุดทำงานกำลังเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และพยายามคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์