ตรัง, ญาติร้องสื่อ คดีสังหารแคชเชียร์โรงแรมชื่อดัง ไม่คืบ ( ข่าวตรัง )
ญาติๆ ร่ำไห้ในงานศพของนางสาวทัศนีวรรณ
ญาติสาวแคชเชียร์โรงแรมชื่อดังเมืองตรัง ที่ตกเป็นเหยื่อมือมีด ร้องสื่อมวลชนให้ติดตามคดี หลังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากฆาตกรมีญาติเป็นตำรวจคอยอำนวยความสะดวกเรื่องหลบหนี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(25 ส.ค.) บรรดาพ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ของนางสาวทัศนีวรรณ ศรีสุวรรณ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ที่ 3 ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพนักงานแคชเชียร์ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ด้วยน้ำตานองหน้า ภายในงานเผาศพของนางสาวทัศนีวรรณ ซึ่งจัดขึ้น ณ วัดศรีสุวรรณาราม หรือวัดพ่อท่านคลิ้ง ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง หลังจากถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 21 กรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณริมถนนภายในซอยจำปี บนถนนเพลินพิทักษ์ ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง
สืบเนื่องจากในขณะที่นางสาวทัศนีวรรณ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อของหน้าปากซอย แต่ถูกนายสมเกียรติ หรือยาว รักษารักษ์ อายุ 25 ปี ชาวหมู่บ้านหินคอกควาย ตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ที่มาคอยดักรออยู่แล้ว โบกให้จอดรถเพื่อพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกัน หลังจากที่ผ่านมา นายสมเกียรติได้พยายามติดตามขอความรักจากนางสาวทัศนีวรรณ มาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมเล่นด้วย
ครั้งล่าสุดนางสาวทัศนีวรรณก็ยังตอบปฎิเสธความรักอีก ทำให้นายสมเกียรติเกิดความโมโหสุดขีด ชักอาวุธมีดออกมาแทงใส่ร่างนางสาวทัศนีวรรณ ถูกเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ขวา 1 แผล จนเสียชีวิต
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุได้ประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองตรัง ก็ได้ออกหมายจับนายสมเกียรติ ผู้ต้องหารายนี้ทันที ดังนั้น บรรดาพ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ของนางสาวทัศนีวรรณ จึงตัดสินใจเก็บศพเอาไว้ เพื่อรอการจับกุมตัวผู้ต้องหา แล้วจะได้นำตัวมาขอขมาศพผู้ตาย แต่หลังจากระยะเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทางญาติของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับชั้นประทวนนายหนึ่ง สังกัด สภ.อ.เมืองตรัง ได้เดินทางมาพบกับญาติของผู้ตายเพื่อพูดคุย และได้เสนอที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ 300,000 บาท แต่ขอให้ทางฝ่ายของนางสาวทัศนีวรรณ ยุติในเรื่องของการติดตามคดี
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางญาติของผู้ต้องหาก็ได้เงียบหายไป ดังนั้น บรรดาพ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ของผู้ตาย จึงได้เดินทางมาสอบถามความคืบหน้าของรูปคดี แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากทาง สภ.อ.เมืองตรัง พร้อมทั้งเกรงว่าคดีนี้จะเงียบหายไปตามกาลเวลา เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีญาติเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าตำรวจด้วยกันไม่กล้าจับกุมตัวมาดำเนินคดี จึงได้รวมตัวกันออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว ให้ติดตามการทำงานของทาง สภ.อ.เมืองตรัง ในคดีนี้
พ.ต.ท.สพชัย พึ่งพา รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน (สส.) สภ.อ.เมืองตรัง กล่าวถึงคดีนี้ว่า ตนได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนออกติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้แล้ว ซึ่งทราบว่ายังคงหลบหนีอยู่ และก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งหากญาติของผู้ตายหรือบุคคลใดพบเห็น หรือทราบเบาะแสของผู้ต้องหา สามารถแจ้งรายละเอียดมาได้ที่ สภ.อ.เมืองตรัง หรือแจ้งมายังตนเองได้โดยตรง ซึ่งก็ยินดีที่จะมอบเงินให้เป็นขวัญกำลังใจ สำหรับผู้ที่ให้ความร่วมมือในการสะสางคดีทันที 2,000 บาท
พ.ต.ท.สพชัย กล่าวอีกว่า หากมีการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้เมื่อไหร่ และผลการสอบสวนโยงใยไปถึงอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่ถูกทางฝ่ายญาติผู้ตายกล่าวหานั้น ว่า ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีคดีจริงๆ ก็จะต้องมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ในข้อหาให้ความช่วยเหลือและให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา ซึ่งตนเองก็จะไม่ไว้หน้า ถึงแม้ในอดีตจะทำงานในสังกัดเดียวกันก็ตาม
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
English
