ตรัง, ผลสอบ รพ.ตรัง สลับตัวเด็กยังไม่คืบ ( ข่าวตรัง )
กรณีโรงพยาบาลเมืองตรังสลับเด็กแรกเกิดกว่า 10 ปี จนกระทั่งทราบความจริงภายหลังนั้น 2 ครอบครัว ประสบเหตุยังไม่ได้รับข้อเท็จจริงที่กระจ่าง แม้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่อ้างว่าเรื่องยุติลงแล้ว ขณะที่ผู้ว่าฯตรัง เผยยังไม่ได้รับรายงานถึงผลการสอบสวน อ้างอยู่ระหว่างติดตามตัวเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานในขณะนั้นมาสอบสวน รวมทั้งการตามตัวพยานและการรวบรวมเอกสารหลักฐาน
วันนี้ (23 ส.ค.) จากกรณีที่โรงพยาบาลย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้มีการสลับตัวเด็กชาย และเด็กหญิงที่คลอดในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2538 ได้แก่ ครอบครัวของนายชำนาญ กับ นางประทุม จันทร์ทอง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 9 ตำบลหาดสำราญ กิ่งอำเภอหาดสำราญ ซึ่งได้มีการเลี้ยงดูเด็กหญิงอรวรรณ (น้องหนึ่ง) จันทร์ทอง กับครอบครัวของนายสมเจตน์ กับ นางวันดี บุญอยู่ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 41/3 หมู่ที่ 3 ตำบลหาดสำราญ กิ่งอำเภอหาดสำราญ ซึ่งเลี้ยงดูเด็กชายจีรวุฒิ (น้องเอก) บุญอยู่ และทั้ง 2 คนขณะนี้เรียนอยู่ในระดับชั้น ป.4 ที่โรงเรียนบ้านหนองสมาน ตำบลหาดสำราญ
จนกระทั่งเมื่อเด็กทั้งคู่มีอายุ 10 ปี ความจริงจึงปรากฎขึ้นเมื่อมีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ต่อจากนั้น ทั้งสองครอบครัวก็ได้พากันเข้าร้องต่อสื่อมวลชนเพื่อขอให้โรงพยาบาลย่านตาขาวรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงประมาณปลายปี 2548 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด โดยมีนายแพทย์ชวลา สัมพันธ์รัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง ขณะนั้น เป็นประธาน ร่วมกับกรรมการจากส่วนราชการอื่นๆ รวม 8 คน โดยนายแพทย์ชวลา สัมพันธรัตน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดตรัง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า การสอบสวนเรื่องดังกล่าวได้สรุปผลเสร็จสิ้นไปนานแล้ว แต่โดยส่วนตัวไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ ขอให้ไปสอบถามจากเจ้าของเรื่องโดยตรงจะดีกว่า
นายแพทย์วิรัช เกียรติเมธา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจผู้สื่อข่าวเลย และเรื่องนี้จบไปนานแล้ว ทำไมจะต้องไปขุดคุ้ยอะไรขึ้นมาอีกจะทำให้เด็กมีปัญหาอีกทำไม
ต่อข้อถามที่ว่า เรื่องที่จบหมายถึงการที่มีผู้ออกมาช่วยเหลือ ด้วยการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กใช่หรือไม่ แต่ในส่วนของผลการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น ไม่ทราบว่า ได้ข้อสรุปอย่างไร นายแพทย์วิรัช กล่าวย้ำว่า ก็เรื่องมันจบแล้ว ส่วนผลการสอบที่ออกมานั้นก็ไม่ได้รายงานถึงตน เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเป็นคนตั้ง และก็ต้องรายงานถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง ฉะนั้น ตนคงให้คำตอบอะไรไม่ได้
นายแพทย์วิฑูรย์ เหลืองดิลก ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นมาตั้งนานแล้ว และได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบแล้วด้วย ฉะนั้น ผู้ที่จะเปิดเผยผลการสอบสวนดังกล่าว ก็ควรจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดดีกว่า
นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานถึงผลการสอบสวนกรณีดังกล่าว แต่เท่าที่สอบถามจากคณะกรรมการล่าสุดได้รับคำตอบว่า อยู่ระหว่างการติดตามตัวเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานในขณะนั้นมาสอบสวน รวมทั้งการตามตัวพยาน และการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ซึ่งบางอย่างก็ไม่มีแล้ว เนื่องจากผ่านมานานมาก และอีกปัญหาหนึ่งก็คือบางคนโยกย้ายไปแล้ว และไม่มีที่อยู่
นอกจากนั้น ยังต้องติดตามญาติๆ ของทั้งสองครอบครัวมาสอบปากคำด้วย แต่เรื่องนี้ตนไม่ทิ้งอย่างแน่นอน และจะต้องติดตามผลจนกว่าจะแล้วเสร็จ รวมทั้งดูแลสุขภาพจิตของเด็กทั้งคู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมสุขภาพจิตคอยให้คำปรึกษา ซึ่งก็น่าดีใจที่เด็กทั้งสองไม่มีปัญหาใดๆ อีกแล้ว
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์