ตรัง, กกต.ตรังเข้มแจ้งความเอาผิด 75 อบต.ฐานไม่ยื่นบัญชีรายจ่ายหาเสียง ( ข่าวตรัง )
นายธรรมศักดิ์ ตันวโรภาส ประธาน กกต.ตรัง
ประธานกรรมการการเลือกตั้งตรัง ให้พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดตรัง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ที่ได้เลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 รวม 75 ราย เนื่องจากไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งต่อ กกต.ประจำจังหวัดตรัง ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง
นายธรรมศักดิ์ ตันวโรภาส ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดตรัง ได้รับมอบอำนาจจากทาง กกต.กลาง ให้พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดตรัง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้สมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ได้เลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 รวม 75 ราย และนายอารม นิมิสวิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภา อบต.หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านนา อำเภอปะเหลียน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2548
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งต่อ กกต.ประจำจังหวัดตรัง ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง (พ.ร.บ.) สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2544 ตามมาตราที่ 55 และมาตรา 117
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าว พนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดตรัง ได้แบ่งกันเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.โกศล ปราบกรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองตรัง ดังนี้ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ต.ต.อุทัย บุญรอด หัวหน้างานสืบสวนนำรายชื่อผู้สมัครนายก และสมาชิกสภา อบต.ที่ไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายเข้าแจ้งความพร้อมหลักฐาน จำนวน 23 ราย
จากนั้นวันที่ 4 กรกฎาคม นายศิริชัย นารถไพรินทร์ พนักงานสืบสวน นำรายชื่อผู้สมัครนายกและสมาชิกสภา อบต.ที่ไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายเข้าแจ้งความพร้อมหลักฐาน จำนวน 25 ราย และวันเดียวกัน นายปัญโย สูเหตุ พนักงานสืบสวน นำรายชื่อผู้สมัครนายก และสมาชิกสภา อบต.ที่ไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่าย เข้าแจ้งความพร้อมหลักฐาน 27 ราย โดยแจ้งความดำเนินคดีอาญา ในมาตรา 55 ที่ระบุว่า ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งต่อ กกต.ประจำจังหวัด และในมาตรา 177 ที่ระบุว่า ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งต่อ กกต.ประจำจังหวัด ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความจริง ตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี แต่ถ้าข้อความในบัญชีรายรับและรายจ่ายที่ได้ยื่นไว้ตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง เป็นเท็จ ผู้ได้รับเลือกตั้งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
สำหรับผู้สมัครในตำแหน่งนายก อบต.ที่ไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายต่อ กกต.มี 5 คน ได้แก่ นายปกครอง ศรีจันทร์ทอง กับ นายวิว ศรีจันทร์ทอง อบต.เขาวิเศษ นายพงษ์ศักดิ์ ชุมสกุล อบต.ตะเสะ นายสุวิทย์ ชูชนะ อบต.ย่านตาขาว และ นายขิน เรืองรมย์ อบต.บ้านควน
นอกจากนั้น ยังมีชื่อของ นายประยุทธ หลงขาว สมาชิกสภา อบต.หมู่ที่ 3 ตำบลปะเหลียน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2548 ถูกทาง กกต.ประจำจังหวัดตรัง เข้าแจ้งความไว้ด้วย หลังจากที่เพิ่งจะถูก กกต.กลาง สั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้ง และถูกดำเนินคดีทางแพ่ง ด้วยการชดใช้เงินในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2549 ที่ผ่านมา โดยอำเภอเมืองและวังวิเศษ มีผู้สมัครถูกแจ้งความดำเนินคดีสูงสุด คือ 17 คน รองลงมา คือ อำเภอห้วยยอด มีเท่ากัน คือ 14 คน อำเภอกันตัง 9 คน อำเภอสิเกา 7 คน อำเภอย่านตาขาว ปะเหลียน กับนาโยง มีจำนวนเท่ากัน คือ 3 คน และกิ่งอำเภอหาดสำราญ 2 คน
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์