พังงา, ศาลพังงาสร้างผลงานไกล่เกลี่ยคดีสำเร็จกว่า 96% ( ข่าวพังงา )

ศาลจังหวัดพังงาสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม ไกล่เกลี่ยคดีสำเร็จกว่า 96% ทุนทรัพย์ 92 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับที่ดินที่รอฟ้องศาล ส่วนคดีบ้านในไร่สำเร็จบางส่วน รอไกล่เกลี่ยอีกรอบวันที่ 8-10 ส.ค.นี้ 109 คดี

นายพิสัณห์ ชมภูพล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพังงา กล่าวถึงผลการดำเนินงานของศาลจังหวัดพังงา เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยคดีที่รอส่งฟ้องศาล ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมา มีคดีที่เข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ย 303 คดี และดำเนินการไกล่เกลี่ยแล้ว 184 คดี สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 169 คดี คิดเป็น 96.8% ทุนทรัพย์จำนวน 92 ล้านบาท มีคดีที่ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จเพียง 15 คดีเท่านั้น ส่วนคดีที่กำลังอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย 119 คดี โดยทางศาลจังหวัดพังงาพยายามที่จะดำเนินการไกล่เกลี่ยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับคดีที่เข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยของศาลจังหวัดพังงานั้น ส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกี่ยวกับการฟ้องร้องเรื่องของที่ดิน และในการไกล่เกลี่ยที่ผ่านมามีคดีการฟ้องร้องคดีใหญ่ๆ ที่สามารถไกล่เกลี่ยไปได้หลายคดี บางคดีมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 60-70 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีคดีที่มีการฟ้องร้องระหว่างชาวบ้าน และเจ้าของที่ดินหลายรายที่สามารถตกลงกันได้ เช่น คดีบ้านในยาง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ที่สามารถตกลงกันได้โดยไม่ต้องมีการฟ้องร้อง ซึ่งส่วนนี้มีประมาณ 50 คดี

นายพิสัณห์ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีฟ้องร้องที่ได้รับความสนใจมากในขณะนี้ คือ การฟ้องร้องปัญหาที่ดินบ้านในไร่ ซึ่งคดีนี้มีการฟ้องร้องกันเกือบ 150 คดี แต่ก่อนหน้านี้ มีบางคดีที่สามารถตกลงกันได้และทำสัญญาถอนฟ้องไป และในช่วงเดือน มิ.ย.?ก.ค.ที่ผ่านมา มีคดีของบ้านในไร่เข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยประมาณ 128 คดี ซึ่งทางศาลจังหวัดพังงาได้ทำการไกล่เกลี่ยไปแล้วครั้งหนึ่ง สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 19 คดี

ขณะนี้ยังเหลืออีกประมาณ 109 คดีที่นำขึ้นไกล่เกลี่ยอีกครั้งในระหว่างวันที่ 8-10 ส.ค.นี้

สำหรับการไกล่เกลี่ยคดีนั้น ทางศาลจังหวัดพังงา ต้องใช้ความพยายามในการหาข้อมูลความต้องการของทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะการการหาข้อมูลจากชาวบ้าน ทางผู้พิพากษาหัวหน้าศาลกับคณะผู้ไกล่เกลี่ยของศาลจังหวัดพังงา ได้เดินทางเข้าไปประชุมกับชาวบ้านร่วมทนายความอาสาที่ทางองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แต่งตั้งเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้านคดีถึง 2 ครั้ง

รวมทั้งยังได้ดูสภาพของพื้นที่จริง และความเป็นอยู่ของชาวบ้านด้วยในส่วนของโจทก์ได้เชิญให้ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาพบที่ศาลจังหวัดพังงาเพื่อขอทราบในสิ่ง ที่จะเสนอให้กับชาวบ้านเพื่อนำมาเป็นข้อกำหนดในการเจรจา

?การเจรจาต้องแยกเจรจาเป็นกลุ่ม เพราะแต่ละกลุ่มมีความต้องการและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ล่าสุด ชาวบ้านกลุ่มที่อาศัยอยู่ใกล้ขุมเหมืองกับฝ่ายโจทก์สามารถตกลงกันได้ โดยชาวบ้านบางส่วนยอมรับเงื่อนไขของโจทก์ พร้อมกับจับจองที่ดินที่โจทก์จัดสรรให้คนละ 50 ตร.ว.แบ่งแยกเป็นโฉดที่ดินเมื่อคดีเสร็จ ทำถนนลาดยางเข้าหมู่บ้านต่อไฟฟ้าทำน้ำบาดาลถึงทุกหลัง มอบเงินค่าขนย้ายขั้นต่ำ 30,000 บาทต่อราย ส่วนกระชังปลาที่จะต้องเคลื่อนย้าย จะจ่ายค่าเคลื่อนย้ายกระชังละ 2,000 บาท? นายพิสัณห์ กล่าวและว่า

สำหรับคดีที่ยังไม่ได้ไกล่เกลี่ยนั้น ทางศาลจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่การไกล่เกลี่ยจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ร้องและผู้ถูกร้อง ว่า จะตกลงกันและยอมรับข้อเสนอของแต่ละฝ่ายได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคดีฟ้องขับไล่ชาวบ้านในไร่ในครั้งนี้ชาวบ้านที่ถูกฟ้องส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์