พังงา, คนพังงา1พันร่วมซ้อมอพยพหนีสึนามิ ( ข่าวพังงา )
พังงาซ้อมอพยพหนีภัยสึนามิ
คนพังงาร่วม1 พันคน ซ้อมหนีภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เป็นพื้นที่นำร่อง สำหรับพื้นที่อื่นๆในจุดเสี่ยงต่อไป โดยผลการฝึกซ้อมผลที่ได้รับสร้างความพอใจให้แก่จังหวัด และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยมาก
วันนี้ (15 มิ.ย.) ชาวบ้านทับละมุ นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ชุมชุมบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ประมาณ 1,000 คน ร่วมซ้อมแผนอพยพหนีภัย คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม ซึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ของเยอรมนี (GTZ) จัดขึ้น โดยมีนายอนุชา โมกขะเวช อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานในพิธีเปิด และร่วมสังเกตการณ์ซ้อมอพยพหนีภัย
การซ้อมครั้งนี้ ได้รับความร่วมจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี และการซ้อมหนีภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชาวบ้านสามารถอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ได้ทันตามเวลาที่กำหนด ซึ่งในส่วนของชุมชนบ้านทับละมุ เป็นอีกชุมชนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพังงา ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สึนามิถล่มเมื่อวันที่ 26 ธ.ค 2547
ในการซ้อมได้มีการสมมติเหตุการณ์ว่า มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ใต้มหาสมุทรอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย เวลา 9.00น. หลังเกิดเหตุศูนย์เตือนภัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกาตรวจพบ และได้แจ้งมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต ว่ามีแผ่นดินไหวและจะมีคลื่นยักษ์เกิดขึ้น และคลื่นจะเข้าที่ชายหาดในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยจะใช้เวลาเคลื่อนตัว 30 นาที
หลังจากรับแจ้ง ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ส่งสัญญาณแจ้งเตือนภัย ไปยังหอเตือนภัยในพื้นที่จังหวัดพังงา พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชนในหมู่บ้านทับละมุ อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที ตามแผนอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
นายอนุชา กล่าวว่า การซ้อมแผนอพยพครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมตามแผนเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาคลื่นยักษ์สึนามิของชุมชนนำร่องทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งชุมชนดังกล่าว เป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และมีโอกาสที่จะเกิดคลื่นยักษ์หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ใต้มหาสมุทรอินเดีย
กรมป้องกันและบบรเทาสาธารณภัย โดยคณะกรรมการฝึกซ้อมแผนอพยพประชาชน ในพื้นที่โครงการความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมนี จึงได้จัดให้มีการฝึกซ้อมขึ้นตามโครงการให้ความช่วยเหลือด้านที่ปรึกษา แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการฝึกซ้อมเสร็จ จะมีการประเมินสถานการณ์การการดำเนินการ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ทำได้ดีที่สุดและสามารถช่วยเหลือ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย โดยแผนการซ้อมในครั้งนี้ จะนำไปเป็นแผนอพยพต้นแบบของพื้นที่เสี่ยงภัยอื่นๆต่อไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์