แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ในแถบ อันดามัน ( ภูเก็ต, กระบี่, ระนอง, ตรัง, พังงา, สตูล )

พังงา, พังงาสรุปเป้าหมายการปฏิบัติงาน ( ข่าวพังงา )

พังงาสรุปเป้าหมายการปฏิบัติงาน

ว่าที่ร้อยตรีโอภาส เศวตมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวถึงการประเมินผลตามตัวชี้วัดและเป้าหมายตามคำรับรองการปฏิบัติงานราชการของจังหวัด ซึ่งการแต่งตั้งคณะทำงานประเมินผลการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดพังงา ปี 2549 ในเบื้องต้นคณะทำงานได้ประเมินผลรอบระยะ 5 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมอยู่ที่ 1.6 คะแนน โดยทั้งหมดประกอบด้วยด้านประสิทธิผลตามแผนปฏิบัติราชการ ด้านคุณภาพการให้บริการ ด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการกลุ่มบริหารงบประมาณ การประหยัดพลังงาน และด้านการพัฒนาองค์กร ทั้งนี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะทำงานได้มีการสรุปตัวเลขที่ชัดเจนเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลตามตัวชี้วัดและเป้าหมายตามคำรับรองการปฏิบัติราชการในรอบ 6 เดือน เสนอต่อ กพร. หรือคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการพลเรือนเพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่จากบริษัทที่ปรึกษามาทำการประเมินอีกครั้ง. รณรงค์ทำลายเชื้อหวัดนก
นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกของประเทศไทย ปัจจุบันได้สงบลงแล้วและอยู่ในสถานะที่สามารถควบคุมโรคได้ แต่เนื่องจากองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (O.I.C) ได้รายงานพบโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกในหลาย ๆ ประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549-18 เมษายน 2549 พบโรคไข้หวัดนก จำนวน 44 ประเทศ โดยทวีปยุโรป พบโรค 25 ประเทศ ทวีปแอฟริกา พบโรค 6 ประเทศ ทวีปเอเชีย พบโรค 13 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย อินเดีย ปากีสถาน พม่า อิรัก อิหร่าน อิสราเอล อัฟกานิสถาน จอร์แดน คาซัคสถาน และเวียดนาม ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกัน โรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การเกิดโรคไข้หวัดนกของประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศไทย ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา และพม่า รวมถึงสภาพภูมิอากาศในช่วงฤดูฝน และการอพยพของนกธรรมชาติ ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคในประเทศไทยได้ ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ เคยเป็นจังหวัดที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกมาก่อน นับแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา ปัจจุบันไม่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกในจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากได้มีการเฝ้าระวังโรคในเชิงรุก. เตรียมโค่นต้นสักสร้างเสาชิงช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กรมศิลปากรเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครดำเนินการบูรณะเสาชิงช้า โดยให้เปลี่ยนไม้ใหม่ทั้งหมดและไม้ที่ใช้ควรเป็นไม้สัก ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการบูรณะเสาชิงช้ากรุงเทพมหานคร โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานกรรมการได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ใช้ไม้สักที่คณะกรรมการสืบค้นไม้ซึ่งได้เดินทางไปสำรวจแหล่งไม้สักที่มีลักษณะตามต้องการในจังหวัดแพร่ 3 แหล่ง รวม 6 ต้น โดยกรุงเทพมหานครมอบหมายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นผู้ดำเนินการขออนุญาตทำไม้ การเคลื่อนย้ายไม้ และการแปรรูป โดยให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 สำหรับแหล่งไม้ทั้ง 3 แห่งที่จะนำไปสร้างเสาชิงช้านั้นคือ ไม้สักในเขตทางหลวงหมายเลข 101 ตอนห้วยบ่อแก้ว-แยกเข้าสถานีรถไฟเด่นชัย ที่ กม. 104+006 ด้านขวาของทางจำนวน 1 ต้น ไม้สักในบริเวณหน่วยป้องกันรักษาป่าไทรย้อย อำเภอเด่นชัย จำนวน 1 ต้น และไม้สักในสวนป่าห้วยไร่ บริเวณหน้าวัดห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่จำนวน 4 ต้น ทางจังหวัดแพร่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ทำการบวงสรวงไม้สักก่อนตัดไม้ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 โดยมีฤกษ์ทำพิธี 11.30-13.00 น. ซึ่งเป็นพิธีพราหมณ์ โดยมีนายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชนทำพิธีจุดธูปเทียนบูชาเทพ เทวดา ครู อาจารย์ประกอบพิธีบวงสรวง. สนใจกองทุนหมู่เชิญทางนี้
นายชนวิน ศรีสุข ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดกำแพงเพชรว่า ขณะนี้กองทุนหมู่บ้าน เป้าหมายของจังหวัดกำแพงเพชรมีทั้งสิ้น 962 กองทุน มีเงินทุนทั้งสิ้น 972,500,000 บาท แยกเป็นกองทุนหมู่บ้าน 944 กองทุน มีเงินทุน 957,200,000 บาท กองทุนชุมชนเมือง มีเงินทุน 18,300,000 บาท โดยในปัจจุบันมีสมาชิกกู้เงินกองทุน จำนวน 67,249 ราย รวมเป็นเงิน 955,680,200 บาท ซึ่งสมาชิกได้นำเงินไปประกอบอาชีพทางด้านเกษตร 57,161 ราย อุตสาหกรรม 1,134 ราย ค้าขาย 866 ราย ด้านช่าง 399 ราย อื่น ๆ 689 ราย ผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดกำแพงเพชร ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โทร. 0-5570-5033 หรือดูรายละเอียดได้จาก www.cdd.go.th/ka@phaengphet. กระตุ้นเตือนช่วยกันประหยัดพลังงาน
นายกวี กิตติสถาพร ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบายประหยัดพลังงาน โดยทางจังหวัดจะเน้นวิธีการประหยัดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการสร้างวินัยและการหาพลังงานทดแทน ซึ่งในรูปแบบการจัดหาพลังงานทดแทน เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดเกษตรอุตสาหกรรมที่มี โรงงานที่มีศักยภาพในการร่วมลดต้นทุนระบบการผลิตและมีการพัฒนาในการนำเศษวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรเข้ามาแปรสภาพเป็นพลังงานทดแทนไม่ว่า จะเป็นพลังงานไฟฟ้ารวมไปถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ตามแนวทางการพัฒนาในปี 2549/50 จังหวัดจึงได้พุ่งเป้าไปที่การเพาะปลูกทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนในระบบการผลิตหรือแม้แต่การปลูกพืชที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานไม่ว่าจะเป็น อ้อย มันสำปะหลัง สบู่ดำ และปาล์มน้ำมัน ที่จะมีการเพิ่มมูลค่าผลผลิตและให้ความรู้ในการนำเศษวัสดุมาจำหน่ายเพื่อสร้างพลังงานทดแทน สำหรับในส่วนของการประหยัดพลังงานในการสร้างวินัย จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตั้งเป้าที่จะลดพลังงานในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าปีละ 10% ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ของส่วนราชการ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215