ศูนย์ข่าวภูเก็ต-นักโบราณคดีเข้าขุดหาวัตถุโบราณบนเขาพระนารายณ์จ.พังงาหลังคาดว่าน่าจะมีวัตถุโบราณที่บ่งบอกประวัติศาสตร์ได้
น.ส.อัจจิมาหนูคงหัวหน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติถลางเปิดเผยว่าขณะนี้นักโบราณคดีจากกรมศิลปากรได้เข้าขุดค้นแหล่งโบราณวัตถุบริเวณเขาพระนารายณ์ม.2ต.เหลอ.กะปงจ.พังงาอีกครั้งเพื่อสืบค้นหาที่มาของโบราณวัตถุในพื้นที่ดังกล่าวหลังจากก่อนหน้านี้มีการขุดพบเทวะรูปพระนารายณ์เทวะรูปพระลักษณ์และเทวะรูปพระอุมาเทวีสมัยโบราณอายุประมาณ1,300ปีและหลังจากนั้นได้มีการขุดพบวัตถุโบราณมาเรื่อยๆ
จนล่าสุดได้ขุดพบพลับพลาที่ประทับรัชกาลที่6บริเวณเขาพะเหนอซึ่งเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดีโดยหากเป็นไปตามการสันนิษฐานของนักโบราณคดีแล้วเป็นไปได้ว่าที่บริเวณเขาพระนารายณ์ต.เหลอ.กะปงจ.พังงายังมีวัตถุโบราณอยู่อีกซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของชาวอำเภอกะปงและชาวจังหวัดพังงาและจากการขุดค้นพบว่ามีวัตถุโบราณอีกจำนวนหนึ่งเป็นถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผาสมัยราชวงศ์ชิงสมัยอินเดียรุ่งเรืองซึ่งทางกรมศิลปากรได้ทำการสำรวจอยู่ในขณะนี้โดยเบื้องต้นจะผลักดันให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เพื่อนำเป็นรายได้เข้าประเทศได้
ด้านน.ส.วันวิสาข์ธรรมานนท์อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานีนักศึกษาปริญญาเอกทางด้านโบราณคดีกล่าวว่านักโบราณคดีได้มาขุดค้นโบราณวัตถุมาหลายวันแล้วโดยโบราณวัตถุที่ขุดพบขณะนี้เป็นเครื่องปั้นดินเผาเศษจานชามสมัยโบราณโดยจะนำวัตถุโบราณเหล่านี้ไปทำการตรวจวิเคราะห์อีกครั้งเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นโบราณวัตถุสมัยใดแต่ที่สามารถบอกได้ในขณะนี้คือพบว่าปะติมากรรมเป็นของชาวอินเดียไม่ใช่เป็นของคนท้องถิ่นที่ได้แผ่วัฒนธรรมมาประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ
นอกจากนี้ยังพบว่าวัตถุโบราณอีกจำนวนมากทั้งของชาวอินเดียเปอร์เซียจีนอาหรับและเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อประมาณ20-30ปีที่ผ่านมาชาวยุโรปได้มาศึกษาและพบว่าชาวอาหรับได้เข้ามาในประเทศไทยซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบว่าชาวอาหรับมาประเทศไทยจริงหรือไม่แต่เมื่อพบโบราณวัตถุก็สามารถยืนยันได้ว่าเป็นจริงอย่างที่ชาวยุโรปบันทึกไว้ซึ่งการค้นพบวัตถุโบราณแต่ละครั้งถือว่าเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่และไม่มีวันจบสิ้นเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์