พังงา, กรมทรัพยากรน้ำเร่งศึกษาผลกระทบคลื่นสึนามิต่อแหล่งน้ำจืด ( ข่าวพังงา )

 กรมทรัพยากรน้ำจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการศึกษาผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ ที่มีผลต่อทรัพยากรน้ำในแผ่นดิน ที่จังหวัดพังงา เร่งหามาตรการจัดการฟื้นฟู-พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และชุมชนที่ประสบธรณีพิบัติภัย
      
นายบุญธรรม ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนา และอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ครั้งที่ 2 “โครงการศึกษาผลกระทบจากคลื่นยักษ์ ที่มีผลต่อทรัพยากรน้ำในแผ่นดิน” ที่โรงแรมซันเซ็ต รีสอร์ท อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยมีนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธาน
      
ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามมาตรการหลังการการฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งชุมชนที่ประสบธรณีพิบัติภัย เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ประสบธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2547
      
การศึกษาของโครงการฯ ได้ดำเนินการทบทวนรายงานการวิจัย การสำรวจพื้นที่ในภาคสนามและใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยใช้วิธีการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2549 และการประชุมกลุ่มย่อยระดับตำบล ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2549 จากความก้าวหน้าของการ ศึกษาของโครงการฯตามลำดับได้มีการจัดทำแผนโครงการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำใน พื้นที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ พบว่า ในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีลุ่มน้ำย่อยทั้งหมด 14 ลุ่มน้ำย่อย
      
จากการศึกษามีลุ่มน้ำย่อยที่ประสบภัย 9 ลุ่มน้ำย่อย ในกลุ่มจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต มีลุ่มน้ำย่อยที่ประสบภัย 5 ลุ่มน้ำย่อย ได้แก่ ลุ่มน้ำแม่น้ำกระบุรี ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนบน ลุ่มน้ำภาคใต้ ฝั่งตะวันตก ส่วนที่ 2 ลุ่มน้ำเกาะภูเก็ต และลุ่มน้ำพื้นที่เกาะ ซึ่งแต่ละลุ่มน้ำย่อยได้มีการจัดทำแผนงาน โครงการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำแล้ว
      
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานโครงการมีความสอดคล้อง เหมาะสมต่อความ ต้องการของประชาชน และภาคส่วนต่าง ๆ จึงจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้ง ที่ 2 เพื่อจะนำเสนอผลการศึกษาในช่วงที่ผ่านมา และนำเสนอแผนงาน โครงการฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำย่อย ของลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะปานกลางและระยะยาว เพื่อรับข้อมูลความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม สำหรับใช้เป็นข้อมูลการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์