ผู้ว่าฯพังงาใช้มาตรการเข้มในการรักษาป่า ระบุพื้นที่ใดมีการทำลายป่าเกินกว่า 5 ไร่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรับผิดชอบ และถ้าเกิน 20 ไร่ขึ้นไป เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องรับผิดชอบ
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการปลูก บำรุงรักษาป่าไม้ เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีแห่งชาติ พ.ศ.2459 ซึ่งจัดให้มีการปลูกต้นไม้บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ที่ป่าชุมชนบ้านบางบ้า ม.6 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ในขณะเดียวกัน เป็นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนได้มีความรัก และเห็นความสำคัญในทรัพยากรป่าไม้ของชาติตลอดไป ว่า ปัจจุบันนี้พื้นที่จังหวัดพังงา ได้มีการบุกรุกทำลายป่าไม้กันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีการตัดไม้ทำลายป่าอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
ฉะนั้น เพื่อให้การดูแลรักษาป่า และป้องกันไม่ให้ป่าไม้ถูกทำลายไปมากกว่านี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องช่วยกันฟื้นฟูสภาพป่าที่ได้รับความเสียหาย ด้วยการปลูกป่าเพิ่มขึ้นมา เพื่อให้ปริมาณป่าไม้กลับมาเหมือนเดิม
ในปี 2550 จะเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา จังหวัดพังงา จึงได้จัดทำโครงการภายใต้ชื่อ ?ชาวพังงารักป่า รักทะเล? เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน และยังเป็นการฟื้นฟูป่าไม้ และรักษาทรัพยากรในทะเลให้คงอยู่ เพื่อลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต จึงต้องขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ผู้บริหารท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนนักเรียน ได้ช่วยกันจัดทำโครงการในการรักษาป่าและฟื้นฟูป่า ที่เสื่อมโทรมไปแล้วให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
นายวินัย กล่าวอีกว่า ในการปลูกต้นไม้นั้นง่าย แต่การดูแลรักษาให้โตขึ้น รวมทั้งการป้องกันไม่ให้ถูกตัดทำลายนั้นยากมาก จังหวัดจึงต้องมีมาตรการทั้งในส่วนของประชาชนเอง รวมทั้งทางท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลรักษาด้วย
ทั้งนี้ ได้มีการวางมาตรการไว้ว่า ในพื้นที่ไหนที่มีการตัดไม้ทำลายป่า เกินจำนวน 5 ไร่ขึ้นไป แล้วทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของพื้นที่ไม่รู้ จะต้องถูกดำเนินการในฐานะละเลยหน้าที่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้ตั้งไว้ว่าหากมีการตัดไม้เกิน 20 ไร่ แล้วเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่อง ก็จะเอาโทษกับเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน สำหรับบางแห่งเจ้าหน้าที่ ต้องรับผิดชอบดูแลพื้นที่จำนวนมากอาจจะไม่ทั่วถึง ก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
ขณะที่ นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพังงา กล่าวว่า เรื่องของป่าไม้ มีคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองในหลายประการ หากสภาพป่าถูกตัดโค่นทำลายไปเป็นจำนวนมาก พื้นดินแห้งแล้ง เมื่อฝนตกลงมาไม่มีต้นไม้ที่จะดูดซับน้ำ เกิดปัญหาน้ำท่วม และฝนตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ภัยธรรมชาติในหลายรูปแบบ ซึ่งต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จึงอยากให้ประชาชนได้หยุดยั้งการทำลายป่า และมาช่วยกันดูแลรักษาและร่วมกันปลูกป่าให้เพิ่มขึ้น
ด้าน นายประจวบ ก้ามจำรูญ นายก อบต.นบปริง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่จังหวัดมีโครงการเกี่ยวเนื่องกับการรักษาป่า ปลูกป่าขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากภาคประชาชน เวลานี้การปลูกป่ากับการทำลายป่าไม่มีความสมดุลกัน เนื่องจากการปลูกทดแทนต้องใช้เวลายาวนาน ส่วนการทำลายป่านั้นใช้เวลาเพียงสั้นๆ และประโยชน์ที่ได้จากการทำลายป่าเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย และกับคนเพียงกลุ่มเดียว แต่ในด้านความเสียหายเกิดผลกระทบต่อคนจำนวนมากมาย
สำหรับการปลูกป่าในครั้งนี้ หลังจากนี้ ก็ต้องคอยตัดหญ้าพรวนดินดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริเวณนี้ได้เป็นป่าขึ้นมา เพื่อทดแทนส่วนอื่นๆ ที่ถูกทำลายไป
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์