กระบี่ - นายอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ สั่งรื้อร้านอาหารบนชายหาดเกาะลันตา หลังผู้ประกอบการล้ำเส้นไม่ยอมทำตามกติกา
นายภิรมย์ มีรุ่งเรือง นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ กล่าวว่า จากปัญหาที่มีผู้ประกอบการนำเก้าอี้ผ้าใบ ร่มกางชายหาด และวางโต๊ะเก้าอี้ขายของบนชายหาดของเกาะลันตา ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของเกาะลันตาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่บริเวณชายหาดคลองดาว ม.3 ต.เกาะลันตาใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ทางอำเภอจึงได้มีการประชุมหารือร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลตำบลเกาะลันตาใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน และเพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวงานเทศกาลลานตาลันตา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-9 มีนาคม 2552 นี้ด้วย
นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ยอมยืดหยุ่น ให้ผู้ประกอบอาชีพเก้าอี้ผ้าใบ ร่มกางชายหาด หมอนวดแผนโบราณ หรือคนเดินเร่ขายของ ให้อยู่ตามริมชายหาดได้ แต่อย่ารุกล้ำในบริเวณชายหาดมากจนเกินพอดี ทั้งนี้เพราะเห็นใจผู้ประกอบการที่ต้องประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว และถือว่าเป็นการทำมาหากินโดยสุจริต แต่ขณะนี้ปรากฎว่าผู้ที่ได้รับการยืดหยุ่นกลับมีพฤติกรรมได้คืบจะเอาศอก ซึ่งเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเล่นและพักผ่อนตามชายหาด
นายอำเภอเกาะลันตากล่าวอีกว่า ในเมื่อไม่มีใครปฏิบัติตามจึงได้สั่งกำชับให้ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ในตอนแรกจะใช้วิธีโดยละมุนละม่อม เพื่อไม่ให้เป็นการรังแกผู้ประกอบการ พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกติกา ที่จะต้องปฏิบัติร่วมกัน ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะถ้าปล่อยไว้จะส่งผลเสียโดยภาพรวม และอีกไม่กี่วันทางเกาะลันตาก็จะมีงานเทศกาลใหญ่ ประจำปี คือเทศกาลลานตาลันตา ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวทางมาจำนวนมาก
“อำเภอเกาะลันตามีแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย และยุโรป ส่วนใหญ่จะเดินทางมากันเป็นครอบครัว และมาพักผ่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างภาพลักษณ์ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาเยือน เพราะเปรียบเสมือนบ้านที่สองของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ซึ่งผลประโยชน์ก็จะตกแก่ชาวเกาะลันตา แต่หากกลุ่มผู้ประกอบการไม่ช่วยกันรักษา ก็จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมายต่อไป”
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์