รองผู้ว่าราชการจังหวัด กระบี่ สั่งคุมเข้มลานเทห้ามรับซื้อปาล์มดิบ ขณะที่การค้าภายในเผยจะทำให้เสียโอกาส
นายชาย พานิชพรพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด กระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในรอบ 10 ปี โดยในขณะนี้อยู่ที่ราคาปาล์มทะลาย อยู่ที่กิโลกรัมละ 4.80 บาท จนถึงกิโลกรัมละ 5.15 บาท ส่วนราคาปาล์มร่วง 5.20 -5.70 บาท ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มต้องหาวิธีการที่จะนำผลผลิตออกมาจำหน่ายตามลานเทกันมากขึ้น แม้กระทั่งปาล์มดิบก็ยังเก็บนำมาจำหน่าย ทำให้น้ำมันปาล์มที่สกัดได้ มีคุณภาพต่ำ เปอร์เซ็นต์น้ำมันมีน้อย
อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการไปยังหน่วยงานในจังหวัด ให้เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบผู้ประกอบการลานเททุกพื้นที่ ห้ามรับซื้อผลผลิตปาล์มดิบจากเกษตรกร หากพบผู้กระทำผิดก็จะต้องดำเนินการไปตามกฏหมายอย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของเกษตรกรก็ไม่ควรที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาจำหน่าย เพราะจะส่งผลเสียในระยะยาว ทั้งนี้จังหวัด กระบี่ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองปาล์มน้ำมัน ควรช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมด้วย
“เกษตรกรชาวสวนปาล์มเองย่อมรู้ดีว่า ผลผลิตปาล์มน้ำมันแบบไหนไม่ควรตัดมาขาย ถึงแม้ว่าราคาผลิตในช่วงนี้จะมีราคาสูงขึ้นก็ตาม แต่ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของจังหวัด กระบี่ โดยภาพรวม “รองผู้ว่าราชการจังหวัด กระบี่ กล่าว
นายประสพชัย พูลเกิด การค้าภายในจังหวัด กระบี่ กล่าวว่า จากที่ภาวะในช่วงนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ความต้องการของโรงงานมีสูง จึงเป็นเหตุให้ราคาได้ขยับตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ราคาได้พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 5.15 บาท ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็เป็นไปตามกลไกของตลาด ทำให้เกษตรกรฉวยโอกาสรีบตัดปาล์มไปขายทั้งที่ยังเป็นปาล์มดิบ ซึ่งหากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆก็จะทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งโรงงานผลิต ที่จะไม่ได้ปริมาณน้ำมันที่เหมาะสม และเกษตรกรเองจะทำให้ผลผลิตขาดช่วง
การค้าภายในจังหวัด กระบี่ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการที่จะเข้าไปห้ามเกษตรกรไม่ให้นำปาล์มดิบมาขายนั้น เป็นเพียงข้อตกลงระหว่างโรงงาน ลานเท และเกษตรกร เท่านั้น ยังไม่มีกฎหมายมารองรับในการควบคุม แต่จากการที่ได้สอบถามโรงงานหลายรายพบว่า ความต้องการในการผลิตมีสูง ถ้าหากปาล์มที่ทางเกษตรกรนำมาจำหน่ายไม่ดิบจนเกินไป งโรงานก็ยินดีรับซื้อ เพราะต้องผลิตน้ำมันออกมาขายให้ทันตามออเดอร์ แต่หากดิบมากโรงงานก็จะไม่รับซื้อ เพราะไม่สามารถสกัดเป็นน้ำมันปาล์มดิบได้ และเกษตรกรเองก็เกรงว่าหากไม่ตัดก่อนก็จะถูกขโมย จึงต้องตัดทั้งที่ยังไม่สุกดี
ส่วนนายฐิติพงศ์ ช่วยบำรุง เจ้าของลานเทช่วยบำรุงปาล์ม ซึ่งมีลานเทรับซื้อปาล์มในหลายพื้นที่ กล่าวว่า ราคาที่สูงขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากโรงงานมีความต้องการสูง ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม กรณีของเกษตรกรที่นำปาลมดิบมาขาย ก็ต้องตรวจสอบดูว่า ปาล์มดิบขนาดไหน หากไม่ดิบมากก็อะลุ่มอล่วยได้ แต่หากดิบไม่กี่ทะลายก็จะลดราคาจากทั่วไปในขณะนี้ที่ประมาณ 5 บาท ก็อาจจะเหลือแค่ 4.7-4.8 บาท แต่หากดิบในปริมาณมากก็จะไม่รับซื้อ เพราะจะส่งผลกระทบต่อลานเทที่ต้องนำไปส่งโรงงานอีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ลานเทส่วนมากก็จะใช้วิธีการทำเป็นปาล์มร่วงเพื่อให้ได้ราคาสูงขึ้น แม้จะต้องมีการเพิ่มเงินทุนในการรับซื้อสูงขึ้นก็ตาม
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์