นายกสมาคมชาวประมงกระบี่ เผยเรือประมงพาณิชย์กระบี่ เฮโล ออกจับปลา เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ หลังหยุดยาวข้ามปี เหตุภาวะน้ำมันแพง ฟุ้งรายได้จากประมงในช่วง 3 เดือนแรกของปี 50 ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ในจังหวัดกระบี่ ที่มีอยู่จำนวนกว่า 300 ลำ ได้นำเรือออกจับปลากันอีกครั้งหลังหยุดยาวไปตั้งแต่ต้นปี 2549 เนื่องจากภาวะวิกฤตน้ำมันแพง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องประสบภาวะขาดทุน แต่ในปัจจุบันนี้ราคาน้ำมันเขตต่อเนื่องหรือน้ำมันเขียว มีราคาลดลงมาอยู่ที่ ลิตรละ 18.50 บาท จึงทำให้เรือประมงพาณิชย์ หรือเรืออวนดำสามารถหันมาประกอบกิจการอีกครั้ง ส่วนเรือประมงพื้นบ้านก็ใช้น้ำมันดีเซลหน้าปั๊มตามปกติ
ประกอบกับในปีนี้สัตว์น้ำในน่านน้ำทะเลกระบี่ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นปลาผิวน้ำ ที่มีมากเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทางราชการได้มีการเข้มงวดกวดขันในการใช้เครื่องมือประมงที่ต้องห้ามในเขตน่านน้ำกระบี่(อ่าวพังงา) และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะโครงการปิดอ่าวในช่วงฤดูกาลปลาวางไข่ ที่เริ่มตั้งแต่ 15 เมษายน - 15 กรกฎาคม 2550 รวมระยะเวลา 3 เดือน ทำให้พันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ ส่งผลให้ชาวประมงพาณิชย์มีรายได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยรายได้เฉลี่ยรายละไม่ต่ำกว่า 1 - 2 ล้านบาท ส่วนเรือประมงพื้นบ้านก็มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 20,000 - 30,000 บาท ต่อเดือน
นายกสมาคมชาวประมงกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดส่งออกปลา ส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศมากกว่า โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งยังคงมีความต้องการอยู่มาก ส่วนในตลาดต่างประเทศก็จะมีประเทศ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็นปลาสดแช่แข็ง ที่ส่งออกอยู่ในขณะนี้วันละประมาณ 10,000 กิโลกรัม ส่วนที่เหลือก็จะขายอยู่ในประเทศ และตั้งแต่ช่วงเดือน มกราคม - มีนาคม 2550 ซึ่งอยู่ในช่วงไตรมาสแรกของปี รายได้จากการประมงของจังหวัด มีไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท โดยแยกเป็นรายได้จากเรือประมงพาณิชย์ ประมาณ 60 ล้านบาท เรือประมงพื้นบ้านประมาณ 20 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันเขตต่อเนื่อง หรือน้ำมันเขียว มีราคาอยู่ที่ลิตรละไม่เกิน 20-23 บาท เชื่อว่าชาวประมงพาณิชย์ของกระบี่ก็จะสามารถดำเนินกิจการอยู่ได้ต่อไปโดยไม่เดือดร้อน และไม่ประสบกับภาวะขาดทุนอย่างแน่นอนเนื่องจาก เมื่อออกไปจับปลาก็ได้ปลากลับมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เรื่องของราคาน้ำมันถึงแม้ว่าเริ่มขยับตัวสูงขึ้น แต่ชาวประมงก็ไม่เดือดร้อนเพราะคุ้มกับการลงทุน และว่าในเรื่องของน้ำมันไบโอดีเซล ที่ทางชาวประมงได้เรียกร้องมาตลอดในช่วงวิกฤตน้ำมันแพงที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีความต้องการเนื่องจากชาวประมงพอจะสู้ราคาน้ำมันดีเซลได้
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์