บิ๊กหอการค้ากระบี่ ชี้ อีก 5 ปีข้างหน้าทั้งผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่น และผู้บริโภคระดับกลาง จนถึงระดับรากหญ้าจะประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เรื่องรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะจะได้รับผลกระทบจากห้างค้าปลีกต่างชาติทั้งสิ้น
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การที่ห้างค้าปลีกต่างชาติที่ทยอยเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ นั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือ เป็นการกระตุ้นการลงทุน ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจในจังหวัดกระบี่ดีขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ห้างค้าปลีกที่เข้ามาจะทำลายการค้าระบบเก่าในพื้นที่ หรือที่เรียกว่า “ร้านโชวห่วย” และร้านค้าย่อยอื่นๆ รวมไปถึงแผงลอยในตลาดสด เหล่านี้ในอนาคตใน 3-5 ปีข้างหน้าจะได้รับผลกระทบจากห้างค้าปลีกต่างชาติทั้งสิ้น
นายวัฒนา กล่าวอีกว่า ขอเตือนผู้บริโภคในจังหวัดกระบี่ ว่า การที่ห้างต่างชาติมาลงในพื้นที่นั้นอย่าได้หลงระเริง ว่า จะได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาถูกเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะกลายเป็นการโหนกระแสบริโภคนิยมและวัตถุนิยม เพราะจะทำให้ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจในอนาคต เมื่อห้างต่างชาติที่มาลงทุนจะมีรายรับปีละไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาท เมื่อรวมกัน 3 ห้างก็จะรับไปประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท
แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้จากห้างค้าปลีกในจังหวัดกระบี่ที่ผ่านมาในปี 2548 และปี 2549 เพียงแค่ 3,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อห้างต่างชาติมาลงจะมีตัวเลขอยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท แต่ห้างต่างชาติได้ไปประมาณ 4,000 ล้านบาท จึงอยากจะให้ผู้บริโภคได้คำนึงถึงผลได้ผลเสียดังกล่าวด้วย
“การที่ห้างต่างชาติมาลงจะไม่ทำให้เศรษฐกิจของกระบี่ซบเซาในทันทีทันใด แต่มันค่อยๆ เหือดแห้งไปเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัว ดังนั้น สิ่งที่ทางหอการค้าเป็นห่วงมากที่สุดไม่ใช่กลัวว่าผู้ประกอบการค้าปลีกในพื้นที่จะเจ๊ง แต่กลัวว่าเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าค่อยๆ แห้งหายไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกผลตรงนี้จะไม่ชัดเจนภายใน 1-2 ปีนี้ ทำให้ระดับรากหญ้ามองว่าเศรษฐกิจกำลังจะโตขึ้น มีการเปลี่ยนมือการถือครองที่ดิน ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น อัตราการจ้างงานมีมากขึ้น หรือการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้น
แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ จะพบว่า รายได้ของชนชั้นกลางลงมาจะไม่เพิ่มขึ้นเลย แต่จะทรงตัวอยู่กับที่โดยมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะมีการบริโภคนิยมเข้ามา การจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นกว่าเดิม และในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้ารายได้ก็จะไม่พอกับรายจ่าย” นายวัฒนา กล่าว
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์