พบมุกประหลาดฝังในหอยโข่งของชาวประมง พื้นที่บ้านเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ ชาวบ้านบอกไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คาดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ขณะที่พ่อค้ามุกที่ทราบข่าวเข้ามาขอซื้อแล้ว
เมื่อเวลา 20.00 น. วานนี้ (12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากจากชาวบ้านพื้นที่หมู่ 6 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า มีชาวบ้านพบมุกในทะเลหน้าอ่าวเขาทอง ซึ่งมีลักษณะสีสันแปลกตา ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน เชื่อกันว่า เป็นมุกที่มีราคาสูง ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท
จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่หมู่บ้านดังกล่าว เมื่อไปถึงชาวบ้านก็ได้นำทางไปหาบ้านเจ้าของมุกประหลาดทันที ทราบชื่อ นายสวัสดิ์ ทองดี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 6 ต.เขาทอง อ.เมือง จ. กระบี่ ซึ่งต้องเดินลัดเลาะไปตามทางในย่านชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ริมคลองประมาณ 100 เมตร ก่อนถึงบ้านของนายสวัสดิ์
เมื่อไปถึงพบนายสวัสดิ์นั่งอยู่ในบ้าน จากนั้นก็ได้นำมุกออกมาให้ดู ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ สีเหลืองข้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร คล้ายไข่นกกระทา ผิวมันวาว แข็งเหมือนลูกแก้ว ภายในมีเม็ดเล็ก ๆ สีขาวข้นอยู่ติดกันเป็นกลุ่ม ๆ ชาวบ้านที่ได้พบเห็น ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีพ่อค้ามุก เข้ามาขอซื้อในราคาประมาณ 200,000 บาท แต่ตนก็ไม่ยอมขาย
นายสวัสดิ์ เล่าว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนและภรรยาได้ออกไปหาปลาในทะเล บริเวณหน้าอ่าวเขาทอง ต.เขาทอง อ.เมือง แต่ก็ได้ปลามาไม่กี่ตัว จึงได้ชวนกันกลับบ้าน ระหว่างทางก็ได้พบกับเพื่อนชาวประมงคนหนึ่ง ตนเห็นว่า เพื่อนบ้านหาหอยโข่งได้หลายตัว จึงขอซื้อมาประมาณ 3 ตัว ในราคา 50 บาท เพื่อนำกลับไปต้มกินเป็นกับข้าวในเมื้อเย็น
เมื่อไปถึงบ้านก็นำหอยไปต้มเสร็จแล้ว ก็หั่นกับมีด เพื่อยำเป็นอาหาร แต่พอเริ่มหั่นไปที่เนื้อหอยตัวที่สอง คมมีดก็ไปโดนวัตถุแข็งกลม ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจ จึงได้ผ่าออกมาดู จึงพบมุกดังกล่าว
เดิมที ตนเข้าใจว่า เป็นไข่ของหอยโข่ง ซึ่งกินไม่ได้ เลยคิดจะขว้างทิ้ง แต่ภรรยาห้ามเอาไว้ จากนั้นก็พาให้เพื่อนบ้านดู ปรากฏว่า เป็นมุกที่มีค่ามหาศาล มาจากหอยโข่งที่ตนซื้อมาจากเพื่อนชาวประมงดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามในหมู่บ้านนี้ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่บอกว่า เคยพบเห็นสิ่งลักษณะแบบนี้ บางคนบอกว่าเป็นมุกที่หายาก มีขนาดประมาณ 43 กะรัต แต่ตนก็ไม่แน่ใจ
“เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีพ่อค้ามุกจากต่างจังหวัดประมาณ 2-3 ราย มาติดต่อขอซื้อในราคาประมาณ 150,000 - 200,000 บาท แต่ตนก็ไม่ยอมขายให้ เพราะเชื่อว่า คงจะมีราคาสูงมากกว่านี้หลายเท่าตัว จึงขอเก็บไว้อย่างนั้นก่อน แต่ถ้ามีคนขอซื้อในราคาสูงกว่า เป็นที่น่าพอใจ ตนก็จะขายให้ เพื่อจะเก็บเงินที่ได้ไว้ส่งเสียให้ลูกอีก 2 คน ให้ได้เรียนหนังสือต่อในระดับมัธยม แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินส่งลูกเรียน” นายสวัสดิ์ กล่าว.
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์