กระบี่, แฉ ส.ส.ร.กระบี่ โมเมตัวเลขผู้ร่วมแสดงความเห็นครึ่งต่อครึ่ง ( ข่าวกระบี่ )

 “เลขานุการคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน” แจงกรณีชาวกระบี่ยังยึดวัฒนธรรมเดิม เรียกร้องเงินค่าตอบแทน การเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอร้องอย่าเห็นแก่ค่าตอบแทนเพียงอย่างเดียว ขณะที่ นายก อบต.อ่าวนาง เตรียมลาออก หลัง ส.ส.ร.ไม่รับฟังความคิดเห็นหน่วยงานท้องถิ่น อดีต ส.ส.แฉ ส.ส.ร.โมเมตัวเลขผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นกว่าครึ่ง-ประชาสัมพันธ์งานล้มเหลว
      
นายพงศ์นารถ ทิพย์อักษร เลขานุการคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน ประจำจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่ทางคณะกรรมาธิการได้ออกไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั้ง 8 อำเภอ ของจังหวัดกระบี่ เพื่อร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า การให้ความร่วมมือของประชาชนยังน้อยมาก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกมาแสดงความคิดเห็น
      
ที่สำคัญ ชาวบ้านมีการเรียกร้องค่าตอบแทน คล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ส.หรือ ส.ว.ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่ยากจะแก้ไข จะมีบ้างก็ในส่วนของอำเภอเมืองกระบี่ และอำเภอเกาะลันตา ที่ประชาชนเข้ามาร่วมรับฟัง และเสนอความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก และไม่ได้พูดถึงค่าตอบแทนจากการเข้ามาร่วม ฉะนั้นแล้ว ขอให้ในครั้งต่อไปที่มีการทบทวน ก็ขอให้ผู้ที่เข้ามาร่วมนำหัว (สมอง) มาด้วย ไม่ใช่มาแต่ตัวเหมือนอย่างที่ผ่านมา
      
ส่วนกรณีที่มีคณะกรรมาธิการบางคนเตรียมที่จะยื่นหนังสือ เพื่อขอลาออกนั้น นายพงศ์นารถ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถกระทำได้ ในส่วนของนายก อบต.อ่าวนางอ้างว่า ทางคณะกรรมการไม่ให้ความร่วมมือและไม่รับฟังความคิดเห็นนั้นไม่จริง เพราะนายพันคำ กิตติธรกุล ได้มีร่วมประชุมเพียงแค่ 1 ครั้ง จากทั้งหมด 5 ครั้ง และด้วยหน้าที่แล้ว คณะกรรมาธิการจะต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย
      
ด้าน นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน ประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สิ่งแรกที่จะขอออกความเห็น ก็คือ แนวทางการทำงานของคณะกรรมาธิการที่ขาดการประชาสัมพันธ์อย่างมาก เพราะในการออกไปรับฟังเสียงของประชาชนในแต่ละแห่ง จะพบว่า ผู้ที่มาร่วมรับฟังมีน้อยมาก บางพื้นที่ผู้ที่มาร่วมรับฟังน้อยกว่าคณะกรรมาธิการที่ไปร่วมรับฟัง ฉะนั้นแล้ว จึงฝากให้คณะกรรมาธิการเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง
      
การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่ทางคณะกรรมาธิการในจังหวัดกระบี่ จัดขึ้นในครั้งนี้ ผมเชื่อว่า ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากว่า ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ และขาดการประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญกว่านั้น คือ คณะกรรมาธิการในระดับจังหวัดไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการระดับท้องถิ่น ซึ่งในเร็วๆ นี้ ตนจะยื่นหนังสือเพื่อลาออกจากการเป็นคณะกรรมาธิการ เพราะทนดูความล้มเหลวไม่ไหว ขนาดโครงการ อบต.อ่าวนาง เคลื่อนที่ที่จัดขึ้นเฉพาะในหมู่บ้านก็มีประชาชนมาร่วมมากกว่าเวทีร่างรัฐธรรมนูญหลายเท่า ตรงนี้ คือ ความล้มเหลวที่ชัดเจนที่สุด
      
ด้าน นายสมบูรณ์ สิทธิมนต์ นายกสมาคมมุสลิมสัมพันธ์ จังหวัดกระบี่ อดีต ส.ส.กระบี่ กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชนจังหวัดกระบี่ ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เรื่องนี้จะมาโทษประชาชนว่า ประชาชนไม่สนใจร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะว่า เท่าที่ติดตามการประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมาธิการ ตนถือว่า ประสบความล้มเหลว
      
“ผมขอท้าให้ ส.ส.ร.ไปถามกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ได้เลยว่า มีสักกี่คนที่ทราบว่า มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วค่อยมาบอกว่า ชาวบ้านไม่เข้าใจ อีกอย่างหนึ่งเวลาก็กระชั้นชิด ฉะนั้น จึงอยากจะให้มีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ทางสถานีวิทยุชุมชนทุกแห่ง รถแห่ไปตามชุมชนต่างๆ เป็นต้น” นายสมบูรณ์ กล่าว
      
อย่างไรก็ตาม จากการไปร่วมสังเกตการณ์ในการร่วมรับฟังที่อำเภอเหนือคลอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนให้ความสำคัญทางด้านการเมืองมากที่สุด กลับมีประชาชนเข้ามาร่วมรับฟังเพียงแค่ 20 กว่าคน ซึ่งน้อยกว่า คณะกรรมาธิการฯ เจ้าหน้าที่ และวิทยากรที่มีมากกว่า 30 คน แต่จากการตรวจสอบทางเอกสารกลับพบว่า จำนวนประชาชนที่มาร่วมรับฟังมีถึง 104 คน ซึ่งเป็นการอ้างอิงที่ไม่ถูกต้อง

จนเป็นที่ครหาของผู้ที่สนใจกับการร่วมร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ขณะที่ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่ได้ออกมาชี้แจงว่า ผู้ที่มาร่วมรับฟัง และลงทะเบียนมีทั้งสิ้น 80 คน ซึ่งขัดกับความเป็นจริงดังที่ปรากฏ

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์