กระบี่-อบต.อ่าวนาง เตรียมศึกษาสร้างแหล่งน้ำธรรมชาติ บนเกาะพีพี แก้ปัญหาขาดน้ำระยะยาว
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง (อบต.) อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดและของโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ อบต.อ่าวนาง ในช่วงหน้าแล้ง ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จะประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการกักเก็บน้ำ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ในช่วงหน้าแล้งประชาชนและผู้ประกอบการบนเกาะพีพี ต้องซื้อน้ำดิบมาจากที่อื่นเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค ในราคาที่แพงสูงลิ่ว สำหรับประชาชน จะมีการซื้อขายน้ำกันในราคา ยูนิตละ 35 บาท ส่วนผู้ประกอบการ ยูนิตละ 300 บาท
นายพันคำ กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ว่าราคาน้ำดิบที่มีการซื้อขายกันที่เกาะพีพี จะมีราคาที่แพงสูงลิ่ว แต่ทางผู้ประกอบการและประชาชนก็จำเป็นต้องซื้อ เนื่องจากเป็นของเอกชนหากไม่ซื้อก็ไม่มีน้ำกินน้ำใช้
สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยาว เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการนั้น อบต.มีแนวคิดอยู่ 2 แนวทาง ทางที่ 1 ก็คือ การนำน้ำเค็มมาผลิตเป็นน้ำจืด ซึ่งก็ต้องอาศัยภาครัฐเป็นตัวขับเคลื่อน โดยเฉพาะการประปาภูมิภาค เนื่องจากจะให้ อบต.เป็นผู้ลงทุนเอง คงจะไม่มีงบประมาณเพียงพอ หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนต่อ ตนเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
สำหรับแนวทางที่ 2 คือ การสร้างอ่างเก็บกักน้ำทางธรรมชาติขนาดใหญ่ เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝน แทนที่จะให้น้ำไหลลงทะเลไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งจากที่ตนได้มีโอกาสนั่งเฮลิคอปเตอร์ เมื่อช่วงเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิไปเกาะพีพี พบว่า บนเกาะพีพี มีหุบเขาบางลูกที่น่าจะนำปรับปรุงให้สามารถเก็บกักน้ำได้
ทั้งนี้ ก็ต้องมีการศึกษาความเป็นได้ก่อน ว่า จะสามารถนำมาทำได้หรือไม่ และที่สำคัญ ก็ต้องดูก่อนว่าหาก อบต.ขอใช้พื้นที่จากอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะอนุญาตให้ใช้พื้นที่หรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ
“หากว่าแนวทางหนึ่งแนวทางใด สามารถเกิดขึ้นได้ที่เกาะพีพี ตนเชื่อว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคตต้องหมดไปอย่างแน่นอน ประชาชน และผู้ประกอบการไม่ต้องทนทุกข์ต่อการซื้อน้ำในราคาที่แพงสูงลิ่วอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ โครงการต่างๆ จะสำเร็จได้ ภาครัฐต้องให้ความร่วมมือด้วย เนื่องจากการดำเนินงานบางอย่างก็เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐโดยตรง โดยเฉพาะในเรื่องของการขอใช้พื้นที่บนเกาะพีพี โครงการดังกล่าวถึงแม้ว่าการลงทุนจะใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ก็คุ้มค่า” นายพันคำ กล่าว
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์