ชาวบ้านคลองทราย จ.กระบี่ 150 คน บุกศาลากลางร้องผู้ว่าฯ ถูกอุทยานฯรังแกทำลายผลอาสินในที่ดิน ที่บุกรุกเข้าไปทำการเกษตร
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ได้มีกลุ่มชาวบ้านประมาณ 150 คน นำโดย นายนิยม อยู่ทอง ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิทำกิน บ้านคลองทราย หมู่ที่ 6 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เดินทางมาที่รวมตัวกัน ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมกับตะโกนไล่อุทยานฯและมีการชูป้าย ซึ่งมีข้อความต่างๆ โดยข้อความส่วนใหญ่จะบอกถึงการที่ถูกทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เข้าไปทำลายผลอาสิน เช่น ยางพารา และปาล์มน้ำมัน
พร้อมทั้งมีการเรียกร้องของพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ผ่านเครื่องขยายเสียงที่ได้นำติดมาบนรถกระบะ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาเจราจา และรับทราบปัญหาพร้อมช่วยหาแนวทางยุติปัญหาให้ด้วย
ต่อมาทาง นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เดินลงมาจากศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อสอบถามปัญหาและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นต่อกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมทั้งกล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งจังหวัดเองก็ได้มีการเข้มงวดและตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่หมู่ที่ 6 ต.หนองทะเล ซึ่งพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่าวนาง และป่าหางนาค ตนเป็นผู้สั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าไปตรวจสอบเอง เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีราษฎรเข้าไปบุกรุก แต่ไม่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำลายผลอาสิน ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกันต่อไป
ในเบื้องต้นก็จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ชะลอไว้ก่อน โดยในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) ก็จะให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมถึงชาวบ้านที่เดือดร้อนไปประชุมหาข้อยุติร่วมกัน ที่ศาลาประชาคมโรงเรียนบ้านเขากลม ต.หนองทะเล
ด้าน นายนิยม อยู่ทอง ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิทำกินบ้านคลองทราย ได้กล่าวว่า การเดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลกลางในครั้งนี้ เพื่อให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่สั่งให้ยุติการดำเนินการใดๆ ที่มีผลกระทบกับชาวบ้าน
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุก ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯและป่าไม้ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ทำการข่มขู่ชาวบ้าน คุกคามสารพัด บางครั้งก็ยิงปืนขู่พร้อมกับได้ติดป้ายประกาศ ทำลายอาสินของชาวบ้านในพื้นที่บ้านคลองทราย โดยอ้างว่า ชาวบ้านทำกินในพื้นที่อุทยานฯ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านได้อยู่อาศัยและทำกินมาหลายชั่วอายุคน
นายนิยม ได้กล่าวต่อว่า นอกจากอุทยานฯได้ติดป้ายประกาศทำลายผลอาสินแล้ว ยังขู่ว่าหากชาวบ้านไม่ทำลายผลอาสินเอง เจ้าหน้าที่อุทยานฯก็จะเข้าไปทำลายให้ โดยทางชาวบ้านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าไปทำลาย ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย ซึ่งสร้างความหวาดวิตกให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงต้องรวมตัวและเดินทางมาที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยหาข้อยุติให้ด้วย และหากว่าการประชุมหาข้อยุติในวันพรุ่งนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจ ชาวบ้านก็จะเดินทางมาปักหลักรวมประท้วงกันต่อไป จนกว่าจะได้ข้อยุติเป็นที่น่าพอใจ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์