ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตจับมาเฟียต่างชาติ ขณะกำลังข่มขู่เอาเงินค่าคุ้มครองและอ้างตัวเป็นตำรวจสากลรีดไถเงินนักธุรกิจชาวต่างชาติทั้งในภูเก็ตและกระบี่
พ.ต.ต.บัณฑิต ขาวสุธรรม สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 จังหวัดภูเก็ต กองกำกับการ 5 กองบัญชา การตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วย พ.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช สารวัตรงานสืบสวนกองกำกับการ 5 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันแถลงการณ์จับคุมนายคาร์ลอส มินนิก สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ อายุ 39 ปี ถือหนังสือเดินทางเลขที่ F 1409457 ถือวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว ขณะที่กำลังอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสากล สั่งให้นักธุรกิจชาวต่างชาตินอนราบกับพื้นถนนและทำการจับกุมโดยใส่กุญแจมือตำรวจและใช้กำลังทำร้ายร่างกายนักท่องธุรกิจชาวต่างประเทศ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่และที่ซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง
พ.ต.ต.บัณฑิต ขาวสุธรรม สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 จังหวัดภูเก็ต กองกำกับ
การ 5 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากทางตำรวจท่องเที่ยวได้รับการร้องเรียนจากนักธุรกิจชาวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน มาโดยตลอดว่ามีมาเฟียชาวต่างประเทศเรียกเก็บค่าคุ้มครองรายเดือน ทั้งข่มขู่ทั้งทำร้ายร่างกายหรือข่มฆ่าทั้งตระกูล
โดยนายคาร์ลอส มีลูกน้องที่เป็นนักเลงเป็นทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และทำตัวเป็นมาเฟียใหญ่มานานแล้ว แต่ไม่มีเจ้าทุกข์ที่เป็นนักธุรกิจชาวต่างประเทศกล้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะเกรงกลัวคาร์ลอสมาก เพราะคาร์ลอสจะข่มทำร้ายร่างกาย ข่มฆ่าทั้งตระกูล แต่เมื่อมีนักธุรกิจชาวต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจอยู่ที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้มาแจ้งความดำเนินคดีเพราะถูกคาร์ลอสข่มขู่รีดเอาเงินเป็นรายเดือนแต่ไม่ยอมจ่ายคาร์ลอส จึงขู่ฆ่าทั้งครอบครัวถ้าไม่เอาเงินมาให้ จึงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จนได้มีการวางแผนว่านักธุรกิจชาวต่างประเทศยอมจ่ายเงิน โดยเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นคนขับรถแท็กซี่เดินทางไปพร้อมผู้เสียหายเมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุตามที่นัดหมาย ที่บ้านเลขที่ 44/5 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อไปถึงคาร์ลอส ได้สั่งให้ผู้เสียหายนอนราบกับพื้นถนนและนำกุญแจมือตำรวจมาสวมใส่และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ปลอมตัวเป็นคนขับแท็กซี่และที่ซุ่มอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมแต่นายคาร์ลอส กลับชักมีดพกออกมาต่อสู้และแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็สามารถจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางอาวุธมีดที่นายคาร์ลอสฯถืออยู่ และได้ตรวจค้นร่างกายพบกัญชาแห้ง 1 ห่อ บรรจุอยู่ในกระดาษฟรอยด์อยู่ในซองบุหรี่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านหน้าทางขวามือตัวที่นายคาร์ลอสฯสวมใส่อยู่และได้นำตัวมาสอบสวนพร้อมให้ผู้เสียหายชี้ตัว
แต่นายคาร์ลอส ปฎิเสธทุกข์ข้อหา แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐาน จึงแจ้งข้อหากรรโชคทรัพย์ ข้อหาต่อสู้เจ้าหน้าที่พนักงาน พกพาอาวุธมีด มีกัญชาแห้งไว้ในครอบครองพร้อมด้วยยังข่มขู่ผู้เสียหายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์