กระบี่, อบต.อ่าวนาง สั่งระงับสร้าง 2 รร.บนพีพี ( ข่าวกระบี่ )

โรงแรมพีพี ปริ๊นเซส 1 ใน 2โรงแรมที่โดนอบต.ระงับการก่อสร้าง เพราะไม่ได้ขออนุญาต

อบต.อ่าวนาง สั่งระงับการก่อสร้างโรงแรมในเครือพีพีปริ๊นเซส เกาะพีพี ทั้ง 2 แห่งแล้ว หลังพบไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง ด้านเจ้าของโรงแรม อ้างรอกฎหมายไม่ไหว เนื่องจากหลังสึนามิพัดถล่ม 3 ปี สูญรายได้ร่วม 100 ล้าน และหากต้องหยุดก่อสร้างธุรกิจพังแน่

นายพันคำ กิติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง (อบต.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ เกาะพีพีซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และอยู่ในความดูแลของ อบต.เป็นสถานที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด โดยทุกคนก็ทราบดี และการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ก็ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง โดยจะมีปัญหาก็แต่ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐเท่านั้น ทั้งในเรื่องของการก่อสร้างอาคารที่เสียหายทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายออกมาว่าให้อนุญาตก่อสร้าง นอกจากนี้ ก็ยังมีการก่อสร้างระบบประปา ไฟฟ้า และสะพานท่าเทียบเรือ ซึ่งสาเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องสิ่งแวดล้อม

นายก อบต.อ่าวนาง กล่าวอีกว่า ขณะนี้ อบต.อ่าวนาง ได้สั่งระงับการก่อสร้างโรงแรมพีพีปริ๊นเซส และพีพีชาลีบีช รีสอร์ท ไปแล้ว เนื่องจากทั้ง 2 โรงแรม ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิทั้งหมด และยังไม่มีกฎหมายออกมาจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ว่า ให้ก่อสร้างได้ อบต.จึงไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างได้ ซึ่งตนยืนยันว่า การสั่งระงับการก่อสร้างไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น เพราะหาก อบต.ไม่สั่งระงับ ก็มีความผิดเช่นเดียวกัน

“เรื่องนี้ตนก็ได้ถูกต่อว่าจากผู้ใหญ่หลายฝ่าย ว่า สั่งระงับทำไม ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงให้ทราบไปแล้ว และเคยขอให้จังหวัดสั่งการลงมายัง อบต.เป็นลายลักษณ์อักษร ตนก็จะอนุญาตให้ก่อสร้างทันที” นายพันคำ กล่าว

ด้านนายชาญณรงค์ เตชะรัชต์กิจ เจ้าของโรงแรมพีพีปริ๊นเซส และพีพีชาลี บีช รีสอร์ท กล่าวว่า สถานประกอบการของตนถือว่าเสียหาย 100% หลังจากที่รอกฎหมาย จากกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลานาน เพื่ออนุญาตให้มีการก่อสร้างได้ แต่ไม่มีความคืบหน้า ส่วนโรงแรมบางรายที่เสียหายบางส่วนได้ซ่อมแซม และเปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งต่างกับของตน จึงได้ตัดสินใจดำเนินการก่อสร้างถึงแม้ว่าจะผิดกฎหมายก็ยอม เพราะทนรอไม่ไหวจริงๆ ซึ่งจากเหตุการณ์สึนามิจนถึงวันนี้ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว

นายชาญณรงค์ ได้กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ตนต้องสูญเสียรายได้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ก็ยังมีพนักงานอีกหลายชีวิตที่ต้องตกงาน ตนจึงต้องตัดสินใจก่อสร้างโรงแรมดังกล่าวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ได้รอมานาน แต่ขณะนี้ก็ได้ถูกสั่งระงับไปแล้ว ซึ่งการที่ตนเริ่มก่อสร้างโรงแรม ไม่ได้ต้องการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่เป็นเหตุผลทางธุรกิจ และหากว่าในปีนี้ไม่ได้สร้าง ตนเชื่อว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2551 ก็จะไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทันอย่างแน่นอน และจะส่งผลเสียต่อธุรกิจของตนอย่างแน่นอน

สำหรับการก่อสร้างโรงแรม พีพี ปริ๊นเซส และโรงแรม พีพี ชาลี บีช รีสอร์ท ได้เริ่มการก่อสร้างเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ อบต.อ่าวนาง ได้สั่งระงับการก่อสร้างโรงแรม และแจ้งจับในข้อหาก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยนายชาญณรงค์เห็นว่า ทั้ง 2 โรงแรม มีใบอนุญาตประกอบการถูกต้องทุกอย่าง เข้าข่ายได้รับการผ่อนผันให้สามารถก่อสร้างได้จากมติ ครม.ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว จึงเริ่มดำเนิการและขณะนี้ก่อสร้างไปได้กว่า 15% แล้ว คาดว่า จะเสร็จสมบูรณ์ช่วงตุลาคม 2550 นี้

โรงแรมพีพี ปริ๊นเซส เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 79 ห้อง มี 2 อาคาร เป็นอาคาร 2 ชั้น สูง 9 เมตร เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างจากแนวถอยร่นในระยะ 30-50 เมตร ตามกฎหมายผังเมืองที่เกาะพีพีก่อสร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 9 เมตร และก่อสร้างอาคารได้แค่ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 75% ต้องเป็นพื้นที่สีเขียว

ส่วนอาคารที่ 2 ซึ่งอยู่ในระยะถอยร่นเกิน 50 เมตร สร้างอาคารสูงได้ 12 เมตร หรือ 3 ชั้น มีพื้นที่ก่อสร้างได้ 40% และพื้นที่สีเขียว 60% ซึ่งอาคารที่ก่อสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นอีก ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์