กระบี่, กระบี่สั่งเปิดโรงปาล์มปล่อยน้ำเสีย 7 วัน ( ข่าวกระบี่ )
จังหวัดกระบี่ สั่งปิดโรงงานปาล์มปล่อยน้ำเสีย ทำปลาตาย ระบบนิเวศพินาศ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เอาผิด
จากกรณีน้ำในคลองสินปุน อ.ลำทับ จังหวัดกระบี่ เชื่อมต่อกับแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเน่าเสีย ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังตายลอยขึ้นอืดเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่า เป็นฝีมือของโรงงานที่อยู่ริมแม่น้ำลักลอบปล่อยน้ำเสีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2549 เกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุด
นายยุทธพงษ์ สุวรรณเมนะ นายกเทศบาลตำบลย่านดินแดง อ.พระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้นำชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง ประมาณ 20 คน ประกอบด้วย อ.เวียงสระ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อขอเข้าพบ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้ดำเนินการปิดโรงงานที่ปล่อยน้ำเสีย ภายใน 7 วัน แต่เนื่องจากผู้ว่าฯติดราชการที่กรุงเทพฯ จึงมอบหมายให้ นายชาย พานิชพรพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้รับเรื่อง
ต่อมาทางจังหวัดได้เชิญผู้นำชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าประชุม เพื่อรับฟังปัญหาที่ได้รับผลกระทบ พร้อมประสานไปยัง นางสาวัน ตัน เจ้าของโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ไทยอินโด ปาล์มออยล์ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้ำเสียและปลาตายเป็นจำนวนมาก เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งในที่ประชุม ผู้นำชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้เรียกร้องความเสียหายในเบื้องต้น คือ
1.ให้จังหวัดกระบี่ปิดโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียภายใน 7 วัน เป็นการชั่วคราวก่อน 2.ให้จังหวัดเรียกโรงงานต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ มาวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง 3.ให้บริษัทรับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อลำคลองดังกล่าว รวมถึงการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิม 4.ให้มีสัญญา 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายโรงงาน ฝ่ายประชาชน และฝ่ายราชการ บันทึกข้อตกลงและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
นายชาย พานิชพรพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับโรงงานดังกล่าวในเบื้องต้นได้สั่งปิดเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานตามที่ทางอุตสาหกรรมกำหนด จึงจะอนุญาตให้เดินเครื่องได้ ส่วนความเสียหายที่ทางโรงงานต้องรับผิดชอบ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของภาคเอกชน และส่วนที่ 2 ส่วนราชการ
โดยในส่วนของภาคเอกชนนั้น ให้กลับไปรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้โรงงานชดใช้ค่าเสียหาย โดยเฉพาะกรณีของปลาที่เลี้ยงไว้ ส่วนราชการ คือ ด้านสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ และอื่นๆ ซึ่งให้ทางผู้เกี่ยวข้องลงไปสำรวจความเสียหายดังกล่าว
จากนั้นในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ จะมีการนำข้อมูลด้านความเสียหายมาทำการสรุปอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของน้ำเสียขณะนี้ได้ส่งไปวิเคราะห์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมโรงงานภาคใต้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ในวันที่ 12 ธ.ค.ก็จะทราบผล ต่อจากนั้น ก็จะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับโรงงานกันต่อไป
ด้าน นางสาวัน ตัน เจ้าของโรงงานที่ปล่อยน้ำเสีย กล่าวว่า ทางโรงงานยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของเอกชน และราชการ และพร้อมที่จะหยุดกิจการเป็นการชั่วคราว เพื่อทำการปรับปรุงให้มีระบบต่างๆ ส่วนที่น้ำเสียได้ไหลลงคลองนั้น ทางโรงงานไม่ได้ตั้งใจ แต่เนื่องจากบ่อบำบัดน้ำเสียได้เกิดความเสียหายแนวกั้นบ่อชำรุดน้ำจึงได้ไหลลงคลองดังกล่าว
ขณะที่ นายยุทธพงษ์ สุวรรณเมนะ นายกเทศบาลตำบลย่านดินแดง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล โดยเฉพาะโครงการรักตาปี ที่ชาวบ้านร่วมกันดำเนินการในการอนุรักษ์แม่น้ำ มาร่วม 2 ปีแล้ว ได้เกิดความเสียหายหมด เพราะได้มีการปล่อยปลาไว้ประมาณ 2 ล้านตัว ก็ตายหมด ซึ่งยังไม่รวมถึงปลาตามธรรมชาติ คาดว่า มีปลาตายไม่น้อยกว่า 45,000 กิโลกรัม
นอกจากนั้น น้ำประปาที่ใช้เลี้ยงคนใน 2 อำเภอ คือ เวียงสระ และพระแสง ต้องหยุดการผลิตเป็นการชั่วคราว จนกว่าน้ำเสียดังกล่าวจะหมดไปจากลำคลอง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าทางจังหวัดกระบี่ จะดำเนินการไปแล้วบางส่วนก็ไม่เพียงพอ
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์